รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการ "ฉีดโบท็อก"
การฉีดโบท็อก (Botox) เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมมากในวงการแพทย์ด้านความงาม เป็นหัตถการที่มีประโยชน์หลายประการ เช่น ลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า หรือลดเหงื่อ และกลิ่นตัว ซึ่งเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพในการดูแลตัวเองให้มีใบหน้าที่สวยงาม ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย ให้เราแลดูเยาว์วัย ต้านการเปลี่ยนแปลงสัญญาณระหว่างวัย เพราะใคร ๆ ก็ล้วนไม่อยากแก่
การฉีดโบท็อกแม้จะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็ต้องเลือกคลินิกที่มีคุณภาพ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด สำหรับใครที่เล็งหัตถการนี้ไว้ในใจอยู่ล่ะก็ เราจะมาไขข้อสงสัยกันว่า ฉีดโบท็อกอันตรายไหม โบท็อกริ้วรอยและกรามกี่วันเห็นผล แล้วโบท็อกอยู่ได้กี่เดือน จำเป็นต้องงดการดื่มเหล้าหรือไม่ อทิตาคลินิก รวบรวมคำตอบมาให้แล้วในบทความนี้
Table of Contents
1. ฉีดโบท็อกริ้วรอย กี่วันเห็นผล?
หลายคนเกิดความกังวลว่าทำไมฉีดโบท็อกเหมือนกัน ยี่ห้อเดียวกัน แต่ทำไมเห็นผลต่างกัน จริง ๆ แล้วฉีดโบท็อกกี่วันเห็นผลกันแน่? แท้จริงแล้วระยะเวลาที่ใช้ในการออกฤทธิ์และเห็นผลโบท็อกขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง สิ่งที่สำคัญเลยคือ แบรนด์ของโบท็อกที่ใช้แตกต่างกันก็ให้ผลที่ต่างกัน รวมถึงความบริสุทธิ์ของโบท็อก และโดสยาที่ใช้ ตำแหน่งที่ฉีดโบท็อก วิถีชีวิตประจำวันของแต่ละคน ซึ่งรวมทั้งการบริโภคอาหารด้วย และภาวะดื้อโบท็อก ทุกปัจจัยที่กล่าวมาล้วนส่งผลต่อผลลัพธ์ที่จะได้หลังฉีดโบท็อกทั้งหมด
สำหรับใครที่สงสัยว่า ฉีดโบท็อกริ้วรอย กี่วันเห็นผล? จึงไม่สามารถบอกได้เป็นช่วงเวลาที่ตายตัว เพราะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยดังที่กล่าวไปในข้างต้น แต่สามารถบอกในเป็นช่วงเวลาคร่าว ๆ หลังจากฉีดโบท็อกลดริ้วรอย โบท็อกจะเริ่มออกฤทธิ์และรู้สึกเริ่มตึงขึ้นหลังฉีด 3-4 วัน และเห็นผลเต็มที่หลังจากฉีดประมาณ 2-4 สัปดาห์ ทั้งใต้ตา หางตา ขมวดคิ้ว หน้าผาก ร่องแก้ม และคงอยู่ได้นานประมาณ 4-5 เดือน
2. ฉีดโบท็อกกราม กี่วันเห็นผล?
หลังฉีดโบท็อกกราม โบท็อกจะเริ่มออกฤทธิ์ทันที โดยส่วนใหญ่การฉีดโบท็อกกรามจะฉีดเข้าที่กล้ามเนื้อ Masseter ซึ่งมีขนาดกล้ามเนื้อค่อนข้างใหญ่ จึงต้องใช้เวลาในการเห็นผลเต็มที่นานกว่าบริเวณอื่น โดยกล้ามจะเริ่มนิ่มขึ้นและค่อย ๆ เล็กลง จะเห็นผลเต็มที่หลังจากฉีดประมาณ 4-6 สัปดาห์
ในบางรายอาจมีปัญหาที่ว่าหลังฉีดโบท็อกกรามมาแล้ว รอหลายสัปดาห์ก็ยังรู้สึกว่าไม่เห็นผลการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ซึ่งอาจสันนิษฐานได้ว่าไม่ได้มีปัญหาหน้าใหญ่จากปัญหากรามใหญ่ แต่เกิดจากสาเหตุอื่น เช่น มีโครงสร้างกระดูกใหญ่ สาเหตุนี้ควรแก้ไขด้วยการศัลยกรรมผ่าตัดกระดูกกราม หรือในคนที่มีใบหน้าดูใหญ่เพราะมีแก้ม ไขมัน อาจต้องแก้ไขด้วยการฉีดโบท็อกพร้อมกับฉีดเมโสแฟตสลายไขมันร่วมด้วย
แต่ก็ยังมีอีกหลายสาเหตุที่ทำให้ไม่เห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนได้ เช่น ฉีดโบท็อกไม่ตรงกับตำแหน่งมัดกล้ามเนื้อ โบท็อกที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือการดื้อโบท็อก และปัจจัยอื่น ๆ ดังที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นนั่นเอง หากฉีดแล้วไม่ได้ผล ควรปรึกษาแพทย์เพื่อร่วมกันวิเคราะห์สาเหตุที่แท้จริง และแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างตรงจุด
3. ฉีดโบท็อก อยู่ได้กี่เดือน?
นอกจากคำถามว่า โบท็อก ริ้วรอย กี่วันเห็นผล? แล้ว ยังมีอีกหนึ่งคำถามที่คนมักอยากจะรู้เช่นกัน นั่นก็คือ ฉีดโบท็อก อยู่ได้กี่เดือน? ต้องขอบอกก่อนว่า ระยะเวลาในการออกฤทธิ์ของโบท็อกในแต่ละคนอาจไม่เท่ากัน ไม่สามารถบอกได้อย่างฟันธงเลยว่าระยะเวลาที่ออกฤทธิ์โบท็อกจะอยู่ได้นานแค่ไหน เพราะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย
แต่โดยส่วนใหญ่โบท็อกลดกรามจะออกฤทธิ์อยู่ได้ประมาณ 5-6 เดือน หากเป็นโบท็อกริ้วรอย จะออกฤทธิ์อยู่ได้ 3-4 เดือน อย่างไรก็ตามโบท็อกสลายตัวได้เร็วขึ้น หากถูกแดดร้อน ความร้อนหรือการใช้งานกล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีดมาก ๆ จะทำให้กล้ามเนื้อกลับมาทำงานได้อย่างปกติเร็วขึ้น จึงกลับมาเกิดริ้วรอย หรือเริ่มมีกรามที่ใหญ่ขึ้นได้ ดังนั้นการดูแลหลังการฉีดโบท็อกจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่จะช่วยรักษาผลลัพธ์จากการทำโบท็อกให้อยู่ได้นานที่สุด
4. ฉีดโบท็อกอันตรายไหม?
จากการรวบรวมข้อมูลคนไข้จำนวนมากที่ได้รับการฉีดโบท็อกทั้งจากคลินิกและในต่างประเทศพบว่าไม่มีความเสี่ยงหรืออันตรายต่อชีวิตเมื่อรับการฉีดโบท็อกในด้านความสวยงามโดยผู้เชี่ยวชาญ อย่างไรก็ตามอาจพบผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีด Botox ได้บ้าง เช่น
- อาจพบการอักเสบติดเชื้อหลังฉีดได้ หากฉีดกับสถานพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือไม่ได้รับการฉีดโดยแพทย์
- บวม แดง ช้ำ เขียว ตรงบริเวณที่ฉีด
- แพ้โบท็อก อาจพบอาการแพ้เห่อแดงที่ผิวหนัง
- หนังตาตก ซึ่งอาจเกิดจากการฉีดโบท็อกในบริเวณใกล้ตำแหน่งที่เกิดผลข้างเคียง เช่น ฉีดใกล้เปลือกตาด้านบน ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหนังตาอ่อนแรงและหนังตาลงมาได้ เนื่องจากกล้ามเนื้อเป็นอัมพาต ซึ่งเป็นเพียงแค่ชั่วคราว หากโบท็อกหมดฤทธิ์ อาการเหล่านี้ก็จะหายไปได้
- มุมปากเบี้ยว ผลข้างเคียงนี้เกิดจากการฉีดโบท็อกในบริเวณเข้าหามุมปาก อาจทำให้มุมปากดูเบี้ยวและยิ้มไม่สุด ดูหน้าแข็ง
- การฉีดโบท็อกที่ไม่ถูกตำแหน่งหรือปริมาณไม่เหมาะสมอาจทำให้หน้าดูแข็งและไม่เป็นธรรมชาติ
ซึ่งผลข้างเคียงเหล่านี้เกิดขึ้นได้แม้ในเป็นเคสในมือผู้เชี่ยวชาญก็ตาม ดังนั้นแพทย์และผู้ทำการรักษาจึงควรคุยกันโดยละเอียดก่อนการฉีดทุกครั้ง
5. ฉีดโบท็อกกินเหล้าได้ไหม?
ฉีดโบท็อกกินเหล้าได้ไหม? เป็นคำถามที่คนจะฉีดโบท็อกส่วนใหญ่อยากรู้เลยล่ะ หลังฉีดโบท็อกควรงด แอลกอฮอล์ 14 วันหลังทำ แต่ถ้าเผลอลืมตัว หรือจำเป็นต้องดื่มจริง ๆ แนะนำให้สามารถดื่มได้หลังทำ 3-4 วัน แล้วให้ดื่มน้ำตามเยอะ ๆ เพื่อช่วยให้ขับแอลกอฮอล์ออกจากร่างกายได้ไวขึ้น ที่เราควรงดแอลกอฮอล์หลังฉีดโบท็อกก็เพราะเหตุผลเหล่านี้
- ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้เส้นเลือดขยายตัว ซึ่งอาจทำให้รบกวนการกระจายตัวของโบท็อกในบริเวณที่ฉีด ดังนั้นแนะนำให้หลีกเลี่ยงการบริโภคแอลกอฮอล์อย่างน้อยเป็นเวลา 3 – 4 วันแรกหลังฉีดโบท็อก เนื่องจากผลของโบท็อกจะเริ่มแสดงผลประมาณ 80-90% หลังการฉีด และในระยะเวลา 2 สัปดาห์ถัดมาจะเริ่มแสดงผลแบบเต็มรูปที่ 100%
- แอลกอฮอล์มีผลให้เลือดแข็งตัวลดลง ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการบวมและช้ำจากรอยเข็มได้มากขึ้น
- แอลกอฮอล์กระตุ้นให้ขับถ่ายธาตุสังกะสีออกจากร่างกายมากกว่าปกติ ซึ่งอาจทำให้แผลหายช้าขึ้น
- แอลกอฮอล์มีฤทธิ์กีดกันกระบวนการดูดซึมของสารอาหารต่าง ๆ เช่น กรดอะมิโน, วิตามิน, และแร่ธาตุ ซึ่งสารเหล่านี้มีบทบาทในกระบวนการซ่อมแซมและรักษาแผล ดังนั้นเมื่อดื่มแอลกอฮอล์จะลดการดูดซึมของสารเหล่านี้อาจทำให้รอยเข็มหายช้าลง และบวมนานขึ้น
หลังจากอ่านบทความนี้ หลายคนคงได้คำตอบที่ว่าโบท็อก ริ้วรอย และกราม กี่วันเห็นผล รวมถึงฉีดโบท็อก อยู่ได้กี่เดือน? ซึ่งจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ตำแหน่งที่ฉีด, ยี่ห้อโบท็อกที่ใช้, การดูแลหลังฉีดโบท็อก, และปัจจัยอื่น ๆ โดยทั่วไปแล้วหากการฉีดโบท็อกเพื่อลดริ้วรอย จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ชัดเจนในช่วง 2-4 สัปดาห์หลังฉีด ในขณะที่การฉีดเพื่อปรับรูปหน้าหรือลดกรามอาจเห็นผลชัดเจนในช่วง 4-6 สัปดาห์หลังฉีด
และผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานแค่ไหนจะขึ้นกับการดูแลและพฤติกรรมของแต่ละคน ซึ่งโบท็อกลดกรามโดยทั่วไป จะออกฤทธิ์อยู่ได้ประมาณ 5-6 เดือน หากเป็นโบท็อกริ้วรอยจะออกฤทธิ์อยู่ได้ 3-4 เดือน สำหรับผู้ที่สนใจอยากทำหัตถการนี้ แต่ไม่มั่นใจว่าปัญหาผิวที่มีอยู่นี้ควรแก้ด้วยการฉีดโบท็อกหรือไม่ และควรฉีดกี่ยูนิตดี ? สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อทิตาคลินิก เพื่อปรึกษากับแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง มีการรับรองด้านผิวหนังจากแพทยสภาได้โดยตรง เพื่อช่วยแก้ปัญหาผิวของคุณได้อย่างตรงจุด