ด้วยสภาพอากาศของประเทศไทยแล้ว ไม่ว่าจะหน้าร้อน หน้าหนาว หรือหน้าฝน บ้านเราก็ร้อนอยู่ดี อากาศที่ร้อนส่งผลให้รูขุมขนของเราขยายตัวเพื่อคลายความร้อน ดังนั้นเรื่องปัญหารูขุมขนกว้าง จึงไม่ได้ส่งผลมาจากพันธุกรรม และสภาพผิวต้นกำเนิดเท่านั้น การจะทำให้รูขุมขนเล็กลงได้โดยธรรมชาติ เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย เรามี 7 วิธีกระชับรูขุมขน ให้ผิวหน้าเรียบเนียนได้ไม่ยาก มาแนะนำดังนี้
1. ฉีดฟิลเลอร์
Table of Contents
“ฟิลเลอร์” คือ สารประเภทไฮยารูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เป็นสารที่มีอยู่ในโครงสร้างของผิวหนังเราอยู่แล้ว ซึ่งนอกจากจะช่วยเติมเต็มร่องผิวต่างๆ และรูขุมขนได้แล้ว ยังเป็นสารที่ให้ความชุ่มชื้น จะทำหน้าที่อุ้มน้ำ ช่วยให้ผิวนุ่มอิ่มน้ำ ผิวฟูได้อีกด้วย แต่เมื่อเราอายุมากขึ้น ร่างกายจะมีการสร้างสารนี้ลดลง ส่งผลให้ผิวหน้าเกิดริ้วรอย ขาดความยืดหยุ่น และความกระชับเต่งตึงได้
ไฮยารูโรนิค แอซิดเป็นสารธรรมชาติที่มีอยู่ในผิวของเราอยู่แล้ว จึงมีความปลอดภัย และเข้ากันได้ดีกับร่างกายของเรา จึงนิยมนำมาใช้เป็นสารช่วยเติมเต็มร่องผิวต่างๆ รวมถึงริ้วรอยทั่วไปบริเวณใบหน้า ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีกระชับรูขุมขน ที่ดีและเห็นผลได้รวดเร็ว
แต่ทั้งนี้ฟิลเลอร์ก็มีด้วยกันหลายเกรด การฉีดฟิลเลอร์เพื่อกระชับรูขุมขนจะนิยมใช้ฟิลเลอร์เนื้อบาง ที่ออกแบบมาเฉพาะตัว ให้มีความอุ้มน้ำในระดับที่พอเหมาะ สามารถกระจายตัวและเบลนด์ไปกับผิวได้ โดยไม่ทำให้ผิวบวมหรือเปลี่ยนแปลงรูปหน้า เมื่อผิวบริเวณนั้นมีความชุ่มชื้นขึ้น จะช่วยให้รูขุมขนเล็กลง ผิวเรียบเนียนอ่อนเยาว์ และเต่งตึงขึ้นด้วย
2. ฉีดโบท็อก
ในอดีตเราอาจเข้าใจว่าการฉีดโบท็อกเหมาะสำหรับแก้ปัญหาลดเลือนริ้วรอยต่างๆ และช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเล็กลง ปัจจุบันเราค้นพบประโยชน์ของการฉีดโบท็อกที่มากไปกว่านั้น เมื่อฉีดโบท็อกเข้าไปบริเวณกล้ามเนื้อ และต่อมไขมัน จะทำให้รูขุมขน และต่อมไขมันหดเล็กลง ช่วยกระชับรูขุมขนให้ผิวเรียบเนียนขึ้น และลดความมันบนใบหน้าได้ เป็นวิธีกระชับรูขุมขนฉบับเร่งด่วน เห็นผลใน 2-3 วันหลังฉีด รูขุมขนดูตื้นขึ้น และได้ผลเต็มที่ภายในเวลา 1 สัปดาห์หลังฉีด และให้ผลต่อเนื่องยาวนานประมาณ 4-6 เดือน
3. เมโสหน้าใส
เป็นวิธีกระชับรูขุมขนโดยการฉีดตัวยาที่มีวิตามินต่างๆ ผสมรวมกันเป็นสูตรที่ช่วยเติมสารอาหารให้ผิวสูตรเฉพาะสำหรับเมโสหน้าใส เนื่องจากรูขุมขนกว้างอาจมีสาเหตุมาจากการที่เรามีผิวแห้ง ขาดน้ำ ผิวจึงมีการสร้างน้ำมันที่ต่อมไขมันเพิ่มขึ้น เพื่อช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า
เมโสหน้าใสเป็นการฉีดวิตามินต่างๆ เข้าสู่ชั้นผิวหนังแท้โดยตรง ซึ่งผิวชั้นนี้จะประกอบไปด้วยคอลลาเจน อิลาสติน hyaluronic acid เนื้อเยื่อต่างๆ ที่ให้ความแข็งแรง และความยืดหยุ่นกับผิว การบำรุงผิวด้วยวิธีนี้จะทำให้สารบำรุงต่างๆ แสดงประสิทธิภาพได้อย่างเต็มที่ ช่วยให้ความชุ่มชื้นผิว ต่อมไขมันจะมีการทำงานน้อยลง ผลิตน้ำมันออกมาเพื่อให้ความชุ่มชื้นผิวลดลง ช่วยให้รูขุมขนเล็กลงได้
4. กระชับรูขุมขนด้วย Laser
เลเซอร์เป็นหนึ่งในหัตถการที่นิยมใช้เพื่อรักษาผิวได้หลายอย่าง กระตุ้นให้เซลล์ผิวเกิดใหม่ได้ โดยพิโค่เลเซอร์ (Pico Laser) เป็นหนึ่งในวิธีกระชับรูขุมขน ที่ทำได้ง่าย และให้ผลการรักษาที่ดี ช่วยกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินมากขึ้น ทำให้ผิวดูอิ่มฟู ผิวละเอียด และช่วยให้รูขุมขนกระชับขึ้น ในราคาไม่แพง และที่สำคัญยังช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ รอยดำ รอยแดงต่างๆ แลดูจางอีกด้วย
5. กระชับรูขุมขนด้วย Ulthera
Ulthera เป็นวิธีกระชับรูขุมขนที่ใช้นวัตกรรมการทำงานโดยใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวนด์พลังงานสูง ในการส่งคลื่นพลังงานเข้าไปใต้ชั้นผิว ด้วยเทคโนโลยีไมโครโฟกัส (Micrifocus) เข้าไปเป็นจุดเล็กๆ เรียงเป็นแถว สามารถกำหนดแนวยกกระชับได้อย่างแม่นยำ
คลื่นอัลตราซาวนด์จะทำให้เกิดความร้อนไปถึงผิวหนังชั้น SMAS ( Superficial Musculo Aponeurotic System) ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อพังผืดห่อหุ้มกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อมัดนี้เกิดการหดตัว ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และเนื้อเยื่อที่มีความยืดหยุ่นขึ้นมาใหม่ ช่วยลดเลือนริ้วรอย และช่วยกระชับรูขุมขนได้ แถมยังช่วยยกกระชับใบหน้าได้ เหมาะกับคนที่มีแก้มหรือชั้นไขมันเยอะ และที่สำคัญไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ
6. กระชับรูขุมขนด้วย Hifu
hifu คือ อีกหนึ่งวิธีกระชับรูขุมขน โดยใช้เทคโนโลยีคล้ายคลึงกับทำ Ulthera ที่เรากล่าวในข้างต้น เนื่องจากทั้งสองเทคโนโลยีนี้มีกระบวนการทำงานที่ค่อนข้างคล้ายคลึงกัน หลายคนมักนำมาเปรียบเทียบกันถึงประสิทธิภาพในการรักษา ซึ่งทั้งสองเทคโนโลยีนี้จะต่างกันที่ขนาดของจุดโฟกัส โดย Ulthera มีจุดโฟกัสขนาดใหญ่กว่า สามารถยิงค่าพลังงานระดับสูงออกมาได้เสถียรและคงที่กว่าการทำ HIFU
คลื่นพลังงานของ HIFU จะลงเข้าสู่ผิวได้ไม่ลึกเท่า Ulthera แต่สำหรับการกระชับรูขุมขน วิธีการรักษาด้วย Hifu ก็เพียงพอต่อการรักษา และสามารถให้ผลลัพธ์ที่ดี โดยไม่จำเป็นต้องให้คลื่นพลังงานเข้าไปในชั้นผิวที่ลึกมากเท่าการยกกระชับ และที่สำคัญมีราคาถูกกว่าการทำ Ulthera และ Thermage
ดังนั้น Hifu จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีกระชับรูขุมขนที่ดี สามารถอยู่ได้นาน 5-6 เดือน และไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ
7. เลือกสกินแคร์ที่มีส่วนช่วยกระชับรูขุมขน
สกินแคร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยกระชับรูขุมขน เป็นอีกหนึ่งวิธีกระชับรูขุมขนที่ทำได้ง่าย และประหยัด โดยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดความมันบนใบหน้า มีให้เลือกสรรหลากหลายผลิตภัณฑ์ ซึ่งอาจโดดเด่นในคุณสมบัติที่ต่างกันออกไป สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของสารต่างๆ เหล่านี้สามารถช่วยกระชับรูขุมขนได้ เช่น
- Witch Hazel (วิชฮาเซล) ที่ช่วยลดความมันส่วนเกิน และช่วยให้รูขุมขนกระชับผิวเรียบเนียนขึ้น
- กรด AHA และ BHA ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วที่ชั้นหนังกำพร้า ลดการอุดตัน ช่วยกระตุ้นการสร้างผิวหนังใหม่ และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้รูขุมขนแลดูกระชับขึ้น
- Niacinamide หรือวิตามินบี 3 ช่วยปรับสมดุลน้ำมันใต้ผิว กระชับรูขุมขน และช่วยลดเลือนริ้วรอยได้
- Vitamin B6 (Pyridoxine Hydrochloride) ปรับสมดุลความมันของผิว ด้วยการลดความมันส่วนเกินได้
- Retinoid หรือกลุ่มอนุพันธ์ของกรดวิตามินเอ ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ลดเลือนจุดด่างดำ และรับมือกับปัญหาสิวด้วยการช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันบนผิว
ดังนั้นการเลือกผลิตภัณฑ์จากคุณสมบัติของส่วนผสม จะช่วยให้เราเลือกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุดนั่นเอง
สรุปบทความ
ปัญหาของรูขุมขนกว้าง เกิดได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นพันธุกรรม สภาพผิวต้นกำเนิด รวมไปถึงสภาพอากาศก็ล้วนส่งผลต่อขนาดของรูขุมขนได้ วิธีกระชับรูขุมขนโดยการใช้เลือกสกินแคร์ที่มีส่วนช่วยกระชับรูขุมขน เป็นวิธีที่สามารถทำได้ง่าย แต่ให้ผลลัพธ์ได้ช้า ทางเลือกสำหรับวิธีกระชับรูขุมขนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น การฉีดฟิลเลอร์, การฉีดโบท็อก, เมโสหน้าใส, Laser, Ulthera หรือ Hifu ล้วนให้ผลลัพธ์กระชับรูขุมขนที่ดีกว่า
หากที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม หรือสนใจอยากปรึกษาหัตถการที่เหมาะสมสำหรับผิวหน้าของตนเอง ทีมแพทย์ที่อทิตาคลินิก มีความเชี่ยวชาญด้านผิวหนังโดยเฉพาะ ยินดีให้คำปรึกษา และหาวิธีแก้ปัญหาผิวของคุณได้อย่างตรงจุด ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 094-324-4442
