อทิตาคลินิก Atita clinic ร้อยไหม ฟิลเลอร์ โบท็อก
อทิตาคลินิก Atita clinic ร้อยไหม Scarless โปรโมชั่นร้อยไหม
Sculptra คืออะไร ราคาเท่าไหร่ ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้อย่างไร
โปรร้อยไหม-โปรร้อยไหมราคาถูก-ร้อยไหมที่ไหนดี-2025
harmonyca ราคา, harmonyca คือ, profhilo ราคา, profhilo คือ
โปรร้อยไหม-โปรร้อยไหมราคาถูก-ร้อยไหมที่ไหนดี-โปรฟิลเลอร์-โปรโบท็อกซ์-ฉีดฟิลเลอร์ทีไหนดี-ฉีดโบท็อกซ์ที่ไหนดี-2025
อทิตาคลินิก-Atita-clinic-คลินิกในกรุงเทพ-ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี-ฟิลเลอร์ราคา-โปรโมชั่นฟิลเลอร์
อทิตาคลินิก-Atita-clinic-คลินิกในกรุงเทพ-นิวรามิส-Neuramis
อทิตาคลินิก Atita clinic ร้อยไหม ฟิลเลอร์ โบท็อก
อทิตาคลินิก Atita clinic ร้อยไหม Scarless โปรโมชั่นร้อยไหม
cover-atita-2024---cover-the-master---sculptra
ร้อยไหมที่ไหนดี-2025
อทิตาคลินิก คลินิกเสริมความงาม
cover-allergan
อทิตาคลินิก-Atita-clinic-คลินิกในกรุงเทพ
อทิตาคลินิก-Atita-clinic-คลินิกในกรุงเทพ-เกาหลี
previous arrowprevious arrow
next arrownext arrow
โบท็อกยี่ห้อไหนดี

เลือกโบท็อกยี่ห้อไหนดี ที่เหมาะกับคุณ พร้อมคำแนะนำจากแพทย์

เมื่อพูดถึงหัตถการเสริมความงามที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน หนึ่งในนั้นก็คงจะต้องมีการฉีดโบท็อกรวมอยู่ด้วยอย่างแน่นอน ซึ่งโบท็อกคือ ชื่อทางการค้าของ โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin Type A) ที่เป็นสารสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) ที่จะช่วยลดริ้วรอย ยกกระชับหน้าและลำคอ รวมถึงลดขนาดของกล้ามเนื้อบริเวณต่าง ๆ โดยในปัจจุบันหลากหลายยี่ห้อ จากหลากหลายประเทศให้เลือกมากมาย ทำให้หลายคนยังตัดสินใจไม่ได้ว่า จะเลือกฉีดโบท็อกยี่ห้อไหนดี แล้วแต่ละยี่ห้อแตกต่างกันอย่างไร

วันนี้ Atita Clinic จะมาแนะนำยี่ห้อโบท็อกตามประเทศที่ผลิต รวมถึงความแตกต่างของโบท็อกแต่ละแบรนด์ให้คุณได้ทราบกัน

ความแตกต่างของโบท็อกแต่ละยี่ห้อ

ความแตกต่างของโบท็อกแต่ละยี่ห้อ จะขึ้นอยู่กับขนาดของ Molecule Complex รวมถึงความบริสุทธิ์ของตัวยาโบท็อก และ Protein Complex โดยสามารถอธิบายได้ดังนี้

ขนาดของ Molecule Complex ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ๆ

  1. Accessories Protein ส่วนที่ 1 ทำหน้าที่แพร่กระจายตัวยา และปกป้องโบท็อกไม่ให้ถูกทำลาย
  2. Heavy Chain ส่วนที่ 2 เป็นส่วนที่ทำให้โบท็อกส่วนที่ 3 สามารถเข้าสู่เซลล์เส้นประสาทได้
  3. Light Chain เป็นส่วนที่ระงับการทำงานของกล้ามเนื้อ

ความบริสุทธิ์ของตัวยาโบท็อก และ Protein Complex

โบท็อกคือโปรตีนชนิดหนึ่งที่เมื่อฉีดเข้าร่างกายแล้ว จะสามารถสลายไปหมดได้เองโดยไม่เกิดอันตราย แต่ในร่างกายของบางคนอาจมีการสร้างภูมิต้านทาน (Antibody) ขึ้นมา ทำให้โบท็อกที่ฉีดเข้าไปไม่ออกฤทธิ์จากการดื้อโบท็อก โดยสามารถเกิดได้จากโปรตีนส่วนที่ 1, 2, 3  โดยในโปรตีนส่วนที่ 3 จะเป็น Botulinum Toxin Type A เหมือนกันทุกยี่ห้อ แต่ส่วนที่แตกต่างกันในแต่ละยี่ห้อคือ โปรตีนส่วนที่ 1, 2 และความบริสุทธิ์ของตัวยา

แนะนำโบท็อกยี่ห้อไหนดีตามประเทศผลิต

ได้ทราบกันไปแล้วว่า ความแตกต่างของโบท็อกแต่ละยี่ห้อคืออะไร อันดับต่อไปเราก็จะพาไปทำความรู้จักกับยี่ห้อโบท็อกจากหลากหลายประเทศ ซึ่งแต่แบรนด์ก็มีจุดเด่นเฉพาะตัวที่แตกต่างกันไป แล้วควรจะเลือกโบท็อกยี่ห้อไหนดี ไปดูกันต่อเลย 

1. Aestox เกาหลี

aestox เกาหลี

Aestox เป็นโบท็อกจากประเทศเกาหลีที่ผ่านการวิจัย ค้นคว้า และทดลองจากสถาบันมาตรฐานระดับสากลทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมทั้งมีการทำการวิจัยร่วมกับโรงพยาบาลศิริราชเป็นระยะเวลากว่า 5 ปี นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจาก KFDA (องค์การอาหารและยาประเทศเกาหลีใต้) และ ThaiFDA (องค์การอาหารและยาประเทศไทย) ทำให้สามารถมั่นใจได้ว่า มีความเสถียรทุกขวด ออกฤทธิ์เร็ว และเห็นผลไว โดยตัวยาของ Aestox มีความบริสุทธิ์มากถึง 99.5% ทำให้เกิดโอกาสที่จะดื้อยาได้น้อยและให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ และมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับโบท็อกจากอเมริกา แต่มีอายุการออกฤทธิ์ที่สั้นกว่า 

ระยะเวลาเห็นผล: หากฉีดเพื่อลดริ้วรอย จะเห็นผลใน 3-7 วัน และเห็นผลเต็มที่ภายใน 14 วันหลังฉีด / หากฉีดเพื่อลดริ้วรอย จะเห็นผลใน 14 วัน และเห็นผลเต็มที่ภายใน 2-3 เดือน

ฉีดแล้วอยู่ได้กี่เดือน: Aestox จะมีอายุการออกฤทธิ์ที่สั้นกว่าโบท็อกจากอเมริกา โดยจะอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด และการดูแลตัวเองหลังฉีดด้วยเช่นกัน

จุดเด่น:

  • มีประสิทธิภาพในการลดริ้วรอย ยกกระชับผิว และปรับมิติใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • เหมาะสำหรับลดริ้วรอย ลดขนาดขากรรไกร และฉีดตามจุดเฉพาะ เช่น ลดขากรรไกร น่อง แขน หรือรักแร้เหงื่อออก 
  • ให้ผลลัพธ์ที่ละเอียดและดูเป็นธรรมชาติ 
  • เป็นแบรนด์เกาหลีที่ได้รับความนิยมและไว้วางใจจากผู้ใช้งานมากมาย

2. Hugel เกาหลี

hugel เกาหลี

Hugel เป็นโบท็อกจากประเทศเกาหลีที่ผลิตและพัฒนาโดยบริษัท Hugel Inc (เกาหลีใต้) ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านโบท็อก ซึ่งได้มีการพัฒนาสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin A) ให้มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับโบท็อกอเมริกา และได้รับการรับรองจาก ThaiFDA (องค์การอาหารและยาประเทศไทย) โดยโบท็อก Hugel มีความบริสุทธิ์ถึง 99.5% ทำให้เกิดโอกาสที่จะดื้อยาได้น้อย นอกจากนี้ยังมีความโดดเด่นในเรื่องของการออกฤทธิ์อย่างแม่นยำ กระจายตัวแคบ ทำให้โบท็อกเข้าไปแก้ปัญหาได้ตรงจุด ลดการกระจายตัวไปบริเวณอื่น รวมถึงสามารถมั่นใจได้ว่า มีความสะอาด และคุณภาพดี เนื่องจากผลิตจากโรงงานที่ใช้ Robot

ระยะเวลาเห็นผล: หากฉีดเพื่อลดกราม จะเห็นผลใน 14 วัน และเห็นผลเต็มที่ภายใน 2-3 เดือนหลังฉีด / หากฉีดเพื่อลดริ้วรอย จะเห็นผลใน 3-7 วัน และเห็นผลเต็มที่ภายใน 14 วันหลังฉีด / หากฉีดเพื่อลดต้นแขน น่อง จะเห็นผลเต็มที่ในช่วง 2-3 เดือนหลังฉีด

ฉีดแล้วอยู่ได้กี่เดือน: หากเป็นบริเวณริ้วรอยเล็ก ๆ จะอยู่ได้ 3-4 เดือน ส่วนบริเวณหน้าผากและกรามจะอยู่ได้นาน 5-6 เดือน ทั้งนี้หากดูแลตัวเองตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัดก็จะยิ่งเห็นผลชัดเจน และมีอายุการออกฤทธิ์ที่นานขึ้น

จุดเด่น:

  • มีความบริสุทธิ์ถึง 99.5%
  • ผลิตโดยบริษัท Hugel ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำของเกาหลีในการผลิตโบทูลินัมท็อกซิน
  • มีการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง
  • เป็นที่ยอมรับในตลาดเอเชียและนำเข้าหลายประเทศ

3. Nabota เกาหลี

nabota เกาหลี

Nabota เป็นโบท็อกจากประเทศเกาหลีที่คิดค้นและพัฒนาโดย บริษัท Daewoong Pharmaceutical มาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี นอกจากนี้ยังมีการใช้เทคโนโลยีการผลิตเฉพาะ Hi-Pure Technology ทำให้มีความบริสุทธิ์สูงถึง 98.7% รวมถึงออกฤทธิ์ไว และเห็นผลลัพธ์หลังฉีดรวดเร็ว ที่สำคัญคือ Nabota เป็นโบท็อกจากประเทศเกาหลียี่ห้อเดียวที่ผ่านงานวิจัยการรับรองมาตรฐาน USFDA (องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา) และได้รับการรับรองจาก ThaiFDA (องค์การอาหารและยาประเทศไทย) จึงไม่แปลกเลยที่ Nabota จะได้รับความนิยมทั้งในโซนเอเชีย โซนยุโรป และโซนอเมริกา 

ระยะเวลาเห็นผล: หากฉีดเพื่อลดกราม จะเห็นผลใน 1 เดือน และเห็นผลเต็มที่ภายใน 2-3 เดือนหลังฉีด / หากฉีดเพื่อลดริ้วรอย จะเห็นผลใน 3-7 วัน และเห็นผลเต็มที่ภายใน 14 วันหลังฉีด 

ฉีดแล้วอยู่ได้กี่เดือน: แม้ว่าจะเป็นโบท็อกที่เห็นผลรวดเร็วกว่ายี่ห้ออื่น ๆ แต่อายุการออกฤทธิ์จะอยู่ได้ค่อนข้างสั้นกว่า โดยหากเป็นการฉีดเพื่อลดริ้วรอยจะอยู่ได้ 3-4 เดือน และหากเป็นการฉีดเพื่อลดกรามจะอยู่ได้ 5-6 เดือน ทั้งนี้หากดูแลตัวเองตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัดก็จะยิ่งเห็นผลชัดเจน และมีอายุการออกฤทธิ์ที่นานขึ้น

จุดเด่น:

  • ความบริสุทธิ์สูงถึง 98.7%
  • ออกฤทธิ์ไว
  • ใช้เทคโนโลยี HI-PURE Technology เฉพาะตัวในการผลิต 
  • มีประสิทธิภาพสูงในการลดริ้วรอยและเส้นเล็กบนใบหน้า 

4. Allergan อเมริกา

allergan อเมริกา

Allergan เป็นโบท็อกจากประเทศอเมริกาที่ได้ขึ้นชื่อว่า เป็นโบท็อกต้นแบบ เนื่องจากถูกผลิตโดยบริษัทอัลเลอร์แกน (Allergan) ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบริษัทยาที่มีชื่อเสียง และเป็นบริษัทแรกที่คิดค้นสารโบทูลินั่ม (Botulinum) ช่วยลดกล้ามเนื้อ และลดริ้วรอย นอกจากนี้ Allergan ยังเป็นโบท็อกยี่ห้อแรกที่ได้รับการรับรองจาก USFDA (องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา) และได้รับการรับรองจาก ThaiFDA (องค์การอาหารและยาประเทศไทย) รวมถึงมีงานวิจัยรับรองกว่า 3,500 งานวิจัย 

โดยตัวยาของ Allergan มีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5% ทำให้ลดโอกาสที่จะเกิดการดื้อยา นอกจากนี้ยังให้ผลการรักษาที่แม่นยำ เพราะตัวยากระจายตัวแคบ และไม่ค่อยกระจายตัวไปยังบริเวณอื่นมากนัก ที่สำคัญคือมีอายุการออกฤทธิ์ที่นานกว่าโบท็อกยี่ห้ออื่น ๆ 

ระยะเวลาเห็นผล: หากฉีดเพื่อลดกล้ามเนื้อหรือปรับรูปหน้า จะเริ่มเห็นผลในช่วง 4-7 วันหลังฉีด / หากฉีดเพื่อลดริ้วรอย จะเห็นผลรวดเร็วภายใน 3-7 วันหลังฉีด

ฉีดแล้วอยู่ได้กี่เดือน: อายุการออกฤทธิ์ของ Allergen ค่อนข้างนานกว่าโบท็อกยี่ห้ออื่น ๆ โดยสามารถออกฤทธิ์ได้นาน 6-8 เดือน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีด และการดูแลตัวเองของแต่ละคน

จุดเด่น:

  • ความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5%
  • ผลิตและจำหน่ายโดย Allergan USA มานานกว่า 30 ปี 
  • มีการศึกษาวิจัยและข้อมูลทางคลินิกมากที่สุด
  • ได้รับการยอมรับและใช้งานทั่วโลก

5. Xeomin เยอรมัน

xeomin เยอรมัน

Xeomin เป็นโบท็อกจากประเทศเยอรมนีที่ได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยี XTRACT Technology โดยจะแยกโปรตีนที่ไม่จำเป็น (Complexing Proteins) ออก ทำให้มีขนาดโมเลกุลเล็กกว่ายี่ห้ออื่น ๆ ตัวยาจึงสามารถกระจายตัวในวงกว้างได้ดี และให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ตัวยายังมีความบริสุทธิ์ถึง 100% ทำให้มีโอกาสที่จะเกิดการแพ้ยาหรือดื้อยาต่ำมาก ได้รับการรับรองจาก USFDA (องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา) และได้รับการรับรองจาก ThaiFDA (องค์การอาหารและยาประเทศไทย) 

ระยะเวลาเห็นผล: หากฉีดเพื่อลดริ้วรอย จะเห็นผลภายใน 2-3 วันหลังฉีด และเห็นผลเต็มที่ภายใน 7-14 วันหลังฉีด / หากฉีดเพื่อลดเนื้อกราม กรามจะนิ่มลงในช่วง 4-6 สัปดาห์ และจะยุบเต็มที่ใน 2-3 เดือน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด และขนาดกล้ามเนื้อของแต่ละคนด้วยเช่นกัน

ฉีดแล้วอยู่ได้กี่เดือน: อายุการออกฤทธิ์ของ Xeomin ถือว่านานที่สุดในบรรดาโบท็อกยี่ห้ออื่น ๆ โดยตัวยาสามารถอยู่ได้นาน 8 เดือน – 1 ปี ทั้งนี้หากดูแลตัวเองตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัดก็จะช่วยยืดอายุการออกฤทธิ์ได้นานมากขึ้น

จุดเด่น:

  • ความบริสุทธิ์ถึง 100%
  • ไม่มีโปรตีนเสริม ทำให้มีความเสี่ยงลดลงในการที่ร่างกายจะสร้างแอนติบอดี้ต่อต้านการรักษา
  • ใช้กระบวนการกรองแบบดับเบิลเพื่อสร้างสารละลายที่บริสุทธิ์สูงปราศจากโปรตีนเชิงซ้อน 
  • ผลลัพธ์อาจคงอยู่ได้นานกว่า Botox ถึง 6 เดือน
  • ออกฤทธิ์ไวและคงอยู่นานกว่า Botox อื่น ๆ
  • เหมาะกับคนที่ดื้อโบท็อกตัวอื่น ๆ มา

6. Bo-Neu

Bo-Neu หรือ Neuronox เป็นโบท็อกซ์แบรนด์จากเกาหลีใต้ที่ใช้สาร Botulinum Toxin ชนิด Hall A-hyper สายพันธุ์ออริจินัล มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับแบรนด์ชั้นนำจากสหรัฐอเมริกา แต่ให้ราคาที่คุ้มค่ากว่า ผลิตโดยบริษัท Medytox ที่มีประสบการณ์ในวงการเภสัชกรรมมากว่า 10 ปี ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิวหน้าและลดริ้วรอยอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถใช้ในการรักษาริ้วรอยบนใบหน้า ปรับมิติใบหน้า รวมถึงรักษาภาวะเกร็งของกล้ามเนื้อและเหงื่อออกมากเกินไป

ระยะเวลาเห็นผล: Bo-Neu จะเริ่มเห็นผลในระยะเวลาประมาณ 3-7 วันหลังจากได้รับการฉีด โดยผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุดจะเกิดขึ้นในช่วง 10-14 วัน หลังจากการฉีด ในช่วงระยะเวลานี้ กล้ามเนื้อจะเริ่มผ่อนคลายลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่งผลให้ริ้วรอยต่าง ๆ ดูเรียบเนียนขึ้นอย่างดูเป็นธรรมชาติ 

ฉีดแล้วอยู่ได้กี่เดือน: ประสิทธิภาพของ Bo-Neu มีความคงทนอยู่ในช่วง 3-6 เดือน ซึ่งระยะเวลาความคงทนจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยสำคัญ เช่น ปริมาณที่ใช้ในการฉีด ตำแหน่งที่ทำการฉีด รวมถึงลักษณะเฉพาะของผิวและการตอบสนองของแต่ละบุคคล 

จุดเด่น:

  • ความบริสุทธิ์สูงด้วยกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน ลดความเสี่ยงจากการเกิดอาการแพ้
  • ประสิทธิภาพที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล เทียบเท่ากับแบรนด์ชั้นนำ
  • ความหลากหลายของปริมาณ ปรับให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละคน
  • ระยะเวลาการออกฤทธิ์ที่ยาวนาน ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ

วิธีเช็กโบท็อกแท้ ทำอย่างไรได้บ้าง?

  • ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์และฉลาก
  • ดูความชัดเจนของข้อความและโลโก้ บรรจุภัณฑ์ของแท้จะมีการพิมพ์ที่คมชัด ไม่เบลอ
  • ตรวจสอบรหัสผลิตภัณฑ์ (lot number) และวันหมดอายุที่ชัดเจน
  • บรรจุภัณฑ์ต้องมีข้อมูลครบถ้วน เช่น ชื่อผู้ผลิต ที่อยู่ เลขที่ใบอนุญาต
  • ซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้
  • ซื้อจากคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ได้รับใบอนุญาต
  • หลีกเลี่ยงการซื้อจากแหล่งที่ไม่ชัดเจน เช่น ออนไลน์จากผู้ขายที่ไม่มีใบอนุญาต
  • ขอดูใบรับรองของผลิตภัณฑ์จากสถานพยาบาล
  • ตรวจสอบลักษณะของผลิตภัณฑ์
  • โบท็อกแท้จะเป็นผงสีขาวแห้ง เมื่อผสมน้ำเกลือจะใสไม่มีตะกอน
  • ฉีดแล้วไม่เจ็บมาก และไม่มีอาการแพ้ผิดปกติ
  • ผลการรักษาจะค่อย ๆ ปรากฏภายใน 3-7 วัน
  • ขอดูเอกสารและใบรับรอง
  • ขอดูใบรับรองการนำเข้าจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  • ตรวจสอบเลขทะเบียนผลิตภัณฑ์
  • ขอดูใบรับรองแพทย์ผู้ทำหัตถการ
  • สังเกตราคา
  • ระวังราคาที่ถูกผิดปกติ 
  • เปรียบเทียบราคากับคลินิกหลายแห่งเพื่อดูความสมเหตุสมผล

ฉีดโบท็อกที่ไหนดี

สิ่งที่สำคัญไม่แพ้การพิจารณาว่าโบท็อกยี่ห้อไหนดี ก็คือการเลือกคลินิกที่จะทำการฉีดโบท็อกให้กับคุณ โดยคุณสามารถพิจารณาจากความน่าเชื่อถือ ผลงานที่ผ่านมา และมาตรฐานของคลินิก ดังนี้

  • มีรีวิวที่น่าเชื่อถือ ดูได้จากคลิกวิดีโอก่อน-หลังทำของคนไข้ที่ผ่านมา หรือจากแหล่งรีวิวที่มีความเป็นกลางและน่าเชื่อถือ เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบผลการรักษาได้อย่างชัดเจน 
  • มีการติดตามผลการรักษา และมีช่องทางที่สามารถสอบถามข้อมูลหรือติดต่อได้สะดวก
  • เลือกใช้ Botox ที่มีอย. รวมถึงแกะกล่องและเปิดขวดใหม่ให้ดูทุกครั้ง
  •  มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา เพื่อให้แพทย์วิเคราะห์ปริมาณยาที่จำเป็นในการฉีด และให้คำแนะนำในการดูแลตัวเอง

คลินิกได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพถูกต้อง คลินิกต้องสะอาด บริเวณหน้าคลินิกต้องมีชื่อคลินิกชัดเจน และมีช่องทางที่สามารถติดต่อได้

คลินิกปรับรูปหน้า

อทิตาคลินิกมีทีมแพทย์คอยแนะนำ ให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

เมื่อได้ทราบกันแล้วว่า โบท็อกแต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างกันอย่างไร หลายคนก็คงจะตัดสินใจได้แล้วว่า จะเลือกฉีดโบท็อกยี่ห้อไหนดี แต่ทั้งนี้ ก่อนที่คุณจะตัดสินใจฉีดโบท็อกก็ควรจะสอบถามถึงความเหมาะสมเกี่ยวกับยี่ห้อโบท็อกที่เลือกกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้ง และหากคุณยังไม่รู้ว่าจะไปฉีดโบท็อกที่ไหนดี ก็สามารถเข้ามาปรึกษาที่ Atita Clinic ก่อนได้ เพราะเราเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐาน และให้บริการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่สำคัญคือ ก่อนทำการฉีดโบท็อกแพทย์จะแกะกล่องและเปิดขวดใหม่ให้ดูทุกครั้ง ทำให้คุณสามารถมั่นใจได้เลยว่า โบท็อกที่ฉีดเข้าไปจะเป็นยี่ห้อเดียวกับที่คุณต้องการอย่างแน่นอน

โฆษณาเลขที่ใบอนุมัติ ฆสพ.สบส ๔๐๘๖/๒๕๖๗

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save