Sculptra คืออะไร ราคาเท่าไหร่ ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้อย่างไร
ฟิลเลอร์ Definisse ต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร ฉีดจุดไหนได้บ้าง
อัพเดตเทคนิคการรักษาใหม่ล่าสุด MD Codes หลักการหรือแนวทางในการฉีดฟิลเลอร์
cover-atita-2024---cover-the-master---radiesse2
cover-atita-2024---cover-the-master---radiesse
cover-atita-2024---cover-the-master---sculptra
cover-atita-2024---cover-italy
cover-atita-2024---cover-MDCODE
previous arrowprevious arrow
next arrownext arrow

รักษาหลุมสิวด้วยตัวเอง ทำได้จริงหรือไม่? ทำวิธีไหนถึงจะเห็นผล?

หลุมสิว ปัญหาผิวที่ไม่มีใครอยากเป็น เพราะนอกจากจะทำให้ผิวหน้าดูไม่เรียบเนียนแล้ว ยังเป็นปัญหาที่ต้องใช้เวลาในการรักษา เพื่อฟื้นฟูและเติมเต็มหลุมสิวให้ผิวกลับมาเรียบเนียนดังเดิมอีกด้วย ซึ่งก่อนที่ Atita Clinic จะพาคุณไปทำความรู้จักกับวิธีรักษาหลุมสิวด้วยตัวเอง และวิธีรักษาหลุมสิวทางการแพทย์ เราก็จะขอพาคุณมาทำความรู้จักกับสาเหตุของการเกิดหลุมสิว รวมถึงระดับความรุนแรงของหลุมสิวแต่ละประเภทให้เข้าใจกันเสียก่อน เพื่อให้คุณสามารถเลือกวิธีรักษาได้อย่างเห็นผลและตอบโจทย์กับปัญหาที่เจอ ใครเจอปัญหาหลุมสิวอยู่ต้องติดตามให้จบ!

1. หลุมสิวเกิดจากอะไร?

หลุมสิว (Atrophic Acne Scars) คือแผลเป็นจากสิวที่มีลักษณะเป็นหลุมยุบตัวกว่าระดับของผิวหนัง ที่เกิดจากกระบวนการซ่อมแซมผิวหนังที่ไม่สมบูรณ์หลังจากเกิดปัญหาสิวอักเสบ เช่น สิวอักเสบรุนแรง, สิวอุดตัน, สิวหัวหนอง และสิวหัวช้าง เป็นต้น ซึ่งโดยปกติแล้วหลังจากสิวหายร่างกายจะสร้างคอลลาเจนบริเวณที่เกิดสิวภายใน 7-10 วัน แต่หากร่างกายไม่สามารถสร้างคอลลาเจนได้เพียงพอต่อปริมาณคอลลาเจนที่ถูกทำลายไป ก็จะทำให้เนื้อเยื่อหดรัดตัว จนเกิดรอยแผลเป็นและหลุมสิวตามมา นอกจากนี้หากในระหว่างที่เป็นสิว มีการแกะ บีบ หรือดึงสิวออก ก็จะทำให้เกิดหลุมสิวที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น

ดังนั้นหากไม่อยากให้เกิดหลุมสิวขึ้นบนใบหน้า ก็ไม่ควรแกะ แคะ หรือบีบสิว เพราะนอกจากจะทำให้สิวอักเสบมากขึ้นแล้ว ยังอาจทำให้เกิดหลุมสิว และรอยสิวในอนาคตได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังควรทานอาหารที่มีวิตามินซี เพื่อกระตุ้นกระบวนการผลิตคอลลาเจนในร่างกายที่ช่วยลดการเกิดหลุมสิวให้ทำงานได้ดีขึ้น

 

2. หลุมสิวมีกี่แบบ?

  • Rolling Scar เป็นหลุมสิวที่มีความรุนแรงระดับทั่วไป โดยจะมีลักษณะเป็นหลุมตื้น ๆ อยู่บริเวณผิวส่วนบนเท่านั้น ซึ่งสามารถรักษาหลุมด้วยตัวเองโดยการทายาเพื่อเติมเต็มเนื้อผิวได้
  • Boxcar Scar เป็นหลุมสิวที่มีความรุนแรงระดับปานกลาง โดยจะมีลักษณะเป็นบ่อลึกลงไปในระดับชั้นผิวประมาณ 3-5 มิลลิเมตร มีขนาดกว้าง และสามารถเห็นขอบหลุมได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังอาจพบพังผืดเกาะในชั้นหนังแท้ร่วมด้วย ซึ่งสามารถรักษาด้วยการทายาควบคู่ไปกับการรักษาทางการแพทย์
  • Ice-Pick Scar เป็นหลุมสิวที่มีความรุนแรงมาก เกิดจากการกดหรือบีบสิวอุดตันจนสิวกินเนื้อไปจนถึงชั้นรูขุมขน และทำลายผิวไปจนถึงชั้นหนังแท้ ทำให้คอลลาเจนที่ช่วยลดรอบแผลหายไปด้วย ซึ่งหลุมสิวประเภทนี้ ต้องใช้เวลารักษาค่อนข้างนาน และต้องรักษาควบคู่หลายวิธี

วิธีรักษาหลุมสิวด้วยตัวเอง (การเลือกวิธีรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของหลุมสิว หรือความรวดเร็วของผลลัพธ์)

• วิธีรักษาหลุมสิวด้วยตัวเอง

การทายาสำหรับแก้หลุมสิว เป็นวิธีรักษาหลุมสิวด้วยตัวเองที่เหมาะกับรอยสิวระดับ Rolling Scar และ Boxcar Scar โดยจะเป็นการใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนอ่อน ๆ เช่น Lactic Acid, Alpha Hydroxy Acids เพื่อลอกผิวชั้นตื้น ๆ และทำให้ผิวหนังดูเรียบเนียนเสมอกันมากขึ้น รวมถึงการใช้ยาในกลุ่ม retinoids ที่มีส่วนช่วยในเรื่องของการผลัดเซลล์ผิว และการสร้างคอลลาเจน

สำหรับวิธีรักษาหลุมสิวด้วยตัวเองอย่างการทายา จะต้องใช้ระยะเวลาและความสม่ำเสมอเพื่อให้เห็นผล ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็ยังไม่เทียบเท่ากับการรักษาหลุมสิวด้วยเทคนิคทางการแพทย์ เนื่องจากยาทาไม่สามารถฟื้นบำรุงได้ลึกมากพอที่จะรักษาหลุมสิวนั่นเอง

• วิธีรักษาหลุมสิวด้วยเทคนิคทางการแพทย์

การรักษาหลุมสิวด้วยเทคนิคทางการแพทย์ เป็นวิธีรักษาหลุมสิวที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่เป็นหลุมสิวระดับปานกลางไปจนถึงระดับรุนแรง เนื่องจากเทคนิคที่นำมาใช้ในการรักษา มักจะช่วยฟื้นฟูและเติมเต็มหลุมสิวให้กลับมาสมบูรณ์ประมาณ 50-70% ต่างจากการรักษาหลุมสิวด้วยตัวเองที่ฟื้นฟูหลุมสิวได้เพียงแค่ 30-50% เท่านั้น นอกจากนี้ในปัจจุบันยังมีวิธีรักษาหลุมสิวหลากหลายวิธีให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น

  • การรักษาหลุมสิวด้วยพิโค่เลเซอร์ เป็นวิธีรักษาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน โดยเลเซอร์จะเข้าไปผลัดเซลล์ผิวเก่า พร้อมกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวและคอลลาเจนขึ้นใหม่ ทำให้ผิวชั้นบนดูเรียบเนียน หลุมสิวดูตื้นขึ้น และยังช่วยลดปัญหารูขุมขนกว้างได้อีกด้วย
  • การรักษาด้วยการฉีดเมโสหลุมสิว เป็นการฉีดตัวยาเมโสที่มีสารสกัดต่าง ๆ เช่น คอลลาเจน, โคเอนไซม์, กลูต้าไธโอน, ทรานซามิน และวิตามินที่ช่วยลดรอยดำบนใบหน้า กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว และช่วยกระชับรูขุมขน ทำให้ผิวดูเรียบเนียน ชุ่มชื้น อิ่มน้ำ เหมาะกับหลุมสิวที่มีความรุนแรงระดับปานกลาง
  • การรักษาด้วยการฉีดฟิลเลอร์ เป็นการรักษาหลุมสิวแบบเร่งด่วน โดยจะเป็นการฉีดสาร Hyaluronic Acid เข้าไปบริเวณที่เป็นหลุมสิว เพื่อเติมเต็มให้หลุมดูตื้นขึ้น เหมาะกับผู้ที่เป็นหลุมสิวระดับทั่วไปถึงปานกลาง ซึ่งหลังจากการฉีดฟิลเลอร์ จะเห็นผลประมาณ 70% ในทันที ไม่ว่าจะเป็นผิวกระชับ ดูเรียบเนียนยิ่งขึ้น และชุ่มชื้นอิ่มน้ำ
แม้ว่าในปัจจุบันจะมีเทคนิคทางการแพทย์ที่ช่วยรักษาและเติมเต็มหลุมสิวให้ผิวกลับมาดูเรียบเนียน และเห็นผลชัดเจนประมาณ 50-70% แต่ก็ควรจะให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองขณะเป็นสิวให้ดี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาหลุมสิวที่รุนแรง นอกจากนี้สำหรับผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวในระดับทั่วไปก็อย่าลืมทายาเพื่อรักษาหลุมสิวด้วยตัวเองเป็นประจำ ควบคู่ไปกับการทำความสะอาดผิวหน้าก่อนนอนทุกคืน เพื่อป้องกันการอุดตันของเครื่องสำอางหรือสิ่งสกปรกจนทำให้เกิดสิว
 
และสุดท้ายนี้ สำหรับผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวตั้งแต่ระดับปานกลางจนถึงระดับรุนแรง ซึ่งอาจจะรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน หรือลดความมั่นใจในการใช้ชีวิต ก็ควรจะให้ความสำคัญกับการดูแลและรักษาสิวที่ถูกต้อง รวมถึงเข้ารับคำปรึกษากับแพทย์ถึงวิธีรักษาหลุมสิวที่เหมาะสม เพื่อให้คุณกลับมามั่นใจในตัวเองได้ดังเดิม แน่นอนว่าหากคุณเข้ามาใช้บริการที่ Atita Clinic คุณจะไม่ต้องผิดหวังกับผลลัพธ์อย่างแน่นอน เพราะเรามีแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญกว่า 18 ปี อบรมมาแล้วกว่า 14 ประเทศทั่วโลก รวมถึงได้รับรางวัลการันตีมากมาย

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า