Sculptra คืออะไร ราคาเท่าไหร่ ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้อย่างไร
ฟิลเลอร์ Definisse ต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร ฉีดจุดไหนได้บ้าง
อัพเดตเทคนิคการรักษาใหม่ล่าสุด MD Codes หลักการหรือแนวทางในการฉีดฟิลเลอร์
cover-atita-2024---cover-the-master---radiesse2
cover-atita-2024---cover-the-master---radiesse
cover-atita-2024---cover-the-master---sculptra
cover-atita-2024---cover-italy
cover-atita-2024---cover-MDCODE
previous arrowprevious arrow
next arrownext arrow

ทำความรู้จักคีลอยด์คืออะไร รักษาอย่างไรให้หายได้

คีลอยด์ คือ แผลเป็นชนิดหนึ่ง อาจจะไม่ได้มีอันตรายหรือส่งผลร้ายแรง แต่คีลอยด์นั้นส่งผลกระทบโดยตรงด้านจิตใจ ความมั่นใจในการใช้ชีวิต และบุคลิกภาพในด้านต่างๆ แต่ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและพร้อมจะรักษาคีลอยด์ให้หายไปโดยไม่ทำให้แผลเป็นเหล่านี้มากวนใจคุณได้อีก ที่สำคัญไม่มีผลข้างเคียงอีกด้วย เรามาทำความรู้จักคีลอยด์และวิธีการรักษากัน

คีลอยด์ คือ ประเภทของรอยแผลเป็นชนิดหนึ่ง เป็นภาวะที่เนื้อเยื่อมีการเจริญเติบโตมากกว่าปกติ มีลักษณะเป็นแผลนูนที่มีการขยายใหญ่ออกนอกขอบเขตบาดแผลเดิม แผลจะมีสีที่แตกต่างกันออกไป บริเวณแผลนั้นอาจจะมีอาการคัน หรือมีอาการเจ็บ รู้สึกผิวตึงรั้งร่วมด้วย

แผลคีลอยด์เกิดจากอะไร

คีลอยด์เกิดจากความผิดปกติของกระบวนการรักษาแผล คือ มีการสร้างเนื้อเยื่อ และคอลลาเจนที่มากเกินไป จนเกิดความไม่สมดุล ทำให้มีลักษณะแผลที่ขยายใหญ่ และนูนออกมา โดยคาดว่าการเกิดคีลอยด์นั้น มีผลมาจากเรื่องของปัจจัยทางเชื้อชาติ และพันธุกรรมร่วมด้วย คนผิวสีมักพบการเกิดรอยแผลคีลอยด์มากกว่าคนผิวขาว หรือแม้แต่ครอบครัวที่มีประวัติทางพันธุกรรมว่าเกิดแผลคีลอยด์ได้ง่าย ก็อาจจะทำให้มีแนวโน้มในการเป็นคีลอยด์เพิ่มมากขึ้นได้  นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับฮอร์โมน โดยพบว่าในหญิงที่ตั้งครรภ์จะมีโอกาสเป็นคีลอยด์มากกว่าหญิงปกติ และในภาวะที่ผู้หญิงเข้าสู่วัยทองกลับมีโอกาสเกิดคีลอยด์ได้น้อยลง

ตำแหน่งที่มักจะเกิดแผลคีลอยด์

คีลอยด์เกิดจากความผิดปกติของกระบวนการรักษาแผลนั้น สามารถเกิดขึ้นได้ในตำแหน่งที่เป็นแผลทั่วร่างกาย โดยเฉพาะผิวหนังที่มีการตึงรั้งมาก จะมีโอกาสเกิดแผลคีลอยด์มากกว่าบริเวณอื่นๆ เช่น หัวไหล่ หน้าอก หลังส่วนบน และอาจพบผลคีลอยด์จากการบีบสิวได้ นอกจากนี้ในบริเวณใบหู ตั้งแต่ติ่งหูจน ถึงกระดูกอ่อนของใบหู ก็สามารถพบแผลคีลอยด์จากการเจาะหูได้บ่อยเช่นกัน

แนวทางการรักษาแผลคีรอยด์ในปัจจุบันร

หากพึ่งเริ่มเป็นแผลคีลอยด์ ตัวแผลยังมีความอ่อนนุ่ม ไม่แข็ง สามารถใช้ Silicone gel ในรูปแบบแผ่นปิดแผลปิดทับที่แผลได้ จะช่วยให้เซลล์ไม่ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น เป็นเวลา 12-24 ชั่วโมง แต่ถ้าหากเป็นแผลคีลอยด์มาสักระยะแล้ว การรักษาด้วยวิธีอื่นๆ อาจได้ผลมากกว่า เช่น

การฉีดยาเสตียรอยด์ (Intralesional corticosteroid)

เป็นการรักษาด้วยวิธีมาตรฐาน ซึ่งแพทย์จะใช้ยา Triamcinolone acetonide ฉีดเข้าไปในบริเวณที่เป็นแผคีลอยด์โดยตรง โดยจะต้องรับการรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

การผ่าตัด

การผ่าตัด เป็นอีกทางเลือกนึงที่เหมาะสำหรับการรักษาแผลคีลอยด์ขนาดใหญ่ วิธีการคือตัดแผลออก หรือลดขนาดของแผลเป็นให้เล็กลง ซึ่งวิธีการผ่าตัดนั้นจำเป็นต้องใช้ร่วมกับวิธีการรักษาอื่นต่อไป เพราะยังมีโอกาสกลับเป็นซ้ำได้ ถึงแม้จะผ่าออกไปแล้วก็ตาม

การรักษาด้วยเลเซอร์

การรักษาด้วยเลเซอร์ เป็นทางเลือกในการรักษาที่ใช้แล้วเห็นผลได้ดี และมีประสิทธิภาพ โดยใช้เลเซอร์ความยาวช่วงคลื่นที่มีผลต่อหลอดเลือด หรือความยาวช่วงคลื่นที่ลงใต้ผิวหนังได้ลึก ส่งผลต่อการเรียงตัวของคอลลาเจน และยังมีส่วนช่วยทำให้แผลคีลอยด์เรียบเนียนมากขึ้น

การรักษาด้วยความเย็นจัด

การรักษาด้วยความเย็นจัด ใช้สำหรับแผลขนาดเล็ก โดยเป็นการให้แผลคีลอยด์ได้สัมผัสกับความเย็นสูงจากไนโตรเจนเหลว วิธีนี้อาจใช้วิธีควบคู่กับการใช้การฉีดสเตียรอยด์ ซึ่งจะช่วยให้คีลอยด์ยุบลงได้ หากได้รับการรักษาในช่วงระยะแรกของการเกิดแผลคีลอยด์ อาจสามารถหยุดการเจริญเติบโตของแผลคีลอยด์ได้

วิธีป้องกันไม่ให้เกิดแผลคีลอยด์

เพราะแท้จริงแล้วคีลอยด์เกิดจากการที่เรามีแผล ดังนั้นวิธีป้องกันที่ดีที่สุด คือ การป้องกันตัวเองให้ไม่เกิดบาดแผล ซึ่งจะนำไปสู่แผลคีลอยด์ได้ เพราะหากเกิดคีลอยด์แล้วจะมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้อีก แม้เราจะรักษาแผลคีลอยด์เก่าไปแล้วก็ตาม ข้อควรระวังและควรปฏิบัติเมื่อเกิดแผลนั้น คือ ห้ามลูบ หรือจับบริเวณที่เกิดแผล ไม่แกะ หรือเกาสะเก็ดแผลเพราะจะทำให้แผลหายช้าได้ แม้ในระหว่างที่มีการตกสะเก็ดอาจจะมีอาการคันบริเวณแผลร่วมด้วยก็ตาม พยายามดูแลไม่ให้เกิดแผลซ้ำบริเวณเดิม หรือกระทำให้เป็นแผลเปิดมากยิ่งขึ้น เมื่อแผลแห้งแล้ว สามารถใช้ยาทารักษารอยแผลเป็น เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวหนังได้ และลดความเสี่ยงในการเกิดเป็นแผลคีลอยด์ในอนาคต

สรุปบทความ

หลังจากทำความรู้จักคีลอยด์ไปแล้ว แท้จริงนั้นคีลอยด์เองไม่ได้มีความน่ากลัวในตัวโรค แต่อาจจะส่งผลถึงความสวยความงาม ทำให้เสียความมั่นใจได้ ทั้งนี้ในปัจจุบันมีเทคโนโลยี และวิธีการรักษาต่างๆ ที่สามารถนำมาใช้เพื่อรักษาอาการแผลเป็นนี้ได้ ซึ่งผลของการรักษาอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อที่จะได้รับการรักษาที่ถูกต้องอย่างเหมาะสม

ที่สำคัญอย่าลืมดูแลตัวเองจากปัจจัยแรกเริ่มโดยระมัดระวังไม่ให้เกิดแผลอันนำไปสู่แผลคีลอยด์นั้นเอง แต่หากใครที่มีแผลคีลอยด์ ซึ่งทำให้สูญเสียความมั่นใจ และกำลังหาวิธีแก้ที่ได้ผลอยู่นั้น  อทิตาคลินิก มีแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในทุกๆ ปัญหาผิว สามารถขอรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ในทุกๆ สาขาของอทิตาคลินิก หรือติดต่อสอบถามได้ที่ 094-324-4442 ทางเราพร้อมให้คำปรึกษา และยินดีบริการคุณเป็นอย่างดี

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า