โบท็อก Neuronox
Table of Contents
BO-NEU คืออะไร?
BO-NEU โบเกาหลีสายพันธ์ุที่คุณไม่ควรพลาด
หนึ่งในแบรนด์โบท็อกซ์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากประเทศเกาหลีคือ Neuronox (นิวโรนอกซ์) ซึ่งมีชื่อเสียงในระดับสากล ทั้งในเอเชียและยุโรป เนื่องจากเป็นโบท็อกซ์แบรนด์เดียวจากเกาหลีที่ใช้สาร Botulinum Toxin ชนิด Hall A-hyper** สายพันธุ์ออริจินัล ซึ่งมีคุณสมบัติและประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ **Allergan** จากสหรัฐอเมริกา แต่มีราคาที่คุ้มค่ากว่าถึงเกือบสองเท่า
Neuronox เป็นโบท็อกซ์แบรนด์แรกและแบรนด์เดียวจากเกาหลีใต้ ที่ใช้ Botulinum Toxin สายพันธุ์ออริจินัล Hall A-Hyper ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยบริษัท Medytox (เมดิท็อกซ์) ที่มีชื่อเสียงในวงการเภสัชกรรมมายาวนานกว่า 10 ปี ปัจจุบันมีเพียงสองแบรนด์ที่ใช้สารนี้ ได้แก่ **Allergan** จากสหรัฐอเมริกา และ Neuronox
การใช้งานของ Neuronox มุ่งเน้นไปที่การลดเลือนริ้วรอยและปรับรูปหน้า เช่น ริ้วรอยบนหน้าผาก รอยย่นระหว่างคิ้ว และรอยตีนกา นอกจากนี้ยังสามารถช่วยรักษาภาวะเกร็งของกล้ามเนื้อ เช่น การเกร็งที่คอ หรือภาวะเหงื่อออกมากเกินไป (Hyperhidrosis) โดย Neuronox จะทำงานโดยการยับยั้งสัญญาณประสาทที่ส่งไปยังกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ลดการหดเกร็ง และช่วยลดริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นและความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ Neuronox จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิวหน้าและลดริ้วรอยอย่างมีประสิทธิภาพ.
จุดเด่นของโบท็อกซ์ Neuronox
โบท็อกซ์ Neuronox เป็นที่นิยมในวงการความงามและการแพทย์ เนื่องจากมีคุณสมบัติเด่นหลายประการที่หลายคนอาจสงสัยว่า ดีไหม?
มาดูกันว่าข้อดีของมันมีอะไรบ้าง:
1. ความบริสุทธิ์และคุณภาพสูง : Neuronox ผลิตจากกระบวนการที่มีมาตรฐานสูง ทำให้สารโบทูลินัมท็อกซินมีความบริสุทธิ์และคุณภาพดี ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้หรือผลข้างเคียง
2. ประสิทธิภาพที่ได้รับการยอมรับ : Neuronox มีประสิทธิภาพในการลดริ้วรอยและปรับรูปหน้าอย่างชัดเจน โดยผลลัพธ์ใกล้เคียงกับโบท็อกซ์ที่เป็นที่รู้จักในระดับสากล ผู้ใช้จึงมั่นใจในผลลัพธ์ที่ได้รับ
3. ความหลากหลายของปริมาณ: Neuronox มีหลายรุ่นให้เลือกตามปริมาณที่เหมาะสมกับการใช้งาน ทำให้แพทย์สามารถปรับการรักษาให้ตรงตามความต้องการของแต่ละบุคคลได้
4. ราคาที่คุ้มค่า : เมื่อเปรียบเทียบกับโบท็อกซ์แบรนด์อื่นที่มีคุณภาพใกล้เคียงกัน Neuronox มักมีราคาที่คุ้มค่า ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย
5. การรับรองมาตรฐานสากล : โบท็อกซ์ Neuronox ได้รับการรับรองจากหน่วยงานการควบคุมยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพในหลายประเทศ เช่น FDA ของสหรัฐอเมริกา และ CE Markในยุโรป ซึ่งทำให้มั่นใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพ
6. ระยะเวลาการออกฤทธิ์ : ผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นาน ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของแต่ละบุคคล ซึ่งถือเป็นระยะเวลาที่น่าพอใจสำหรับการลดเลือนริ้วรอยและปรับรูปหน้า
ด้วยจุดเด่นเหล่านี้ Neuronox จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลและปรับปรุงสภาพผิวอย่างมีประสิทธิภาพ.
ฉีดโบนิวได้ตำแหน่งไหนบ้าง?
โบนิว เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการลดริ้วรอย ปรับรูปหน้า และรักษาภาวะทางการแพทย์ สามารถฉีดได้ในหลายตำแหน่งบนใบหน้าและร่างกาย โดยตำแหน่งที่นิยมฉีด ได้แก่:
1. หน้าผาก (Forehead): เพื่อลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงอารมณ์
2. รอยย่นระหว่างคิ้ว (Glabellar Lines): หรือที่เรียกว่า “รอยขมวดคิ้ว”
3. รอบดวงตา (Crow’s Feet): รอยตีนกาที่มักเกิดขึ้นบริเวณหางตาเมื่อยิ้ม
4. รอบริมฝีปาก (Perioral Lines): ริ้วรอยเล็ก ๆ รอบริมฝีปาก โดยเฉพาะที่บริเวณริมฝีปากบน
5. มุมปาก (Marionette Lines): รอยย่นที่เกิดจากมุมปากลงมาที่คาง ซึ่งอาจทำให้หน้าดูมีอายุ
6. คาง (Chin): เพื่อลดการหย่อนคล้อยหรือปรับรูปทรงคางให้เรียวขึ้น
7. กราม (Jawline): ใช้ในการลดขนาดกราม เพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวลง
8. รักแร้ (Underarms): สำหรับการรักษาภาวะเหงื่อออกมากเกินไป
9. ฝ่ามือและฝ่าเท้า (Palms and Soles): การรักษาภาวะเหงื่อออกมากเกินไปที่บริเวณนี้
10. คอ (Neck): เพื่อลดริ้วรอยที่คอ หรือการเกร็งของกล้ามเนื้อคอ
ระยะเวลาในการเห็นผลลัพธ์
โดยทั่วไปแล้ว การฉีดโบท็อกซ์ Neuronox จะเริ่มเห็นผลภายใน **3-7 วัน** หลังการฉีด โดยผลลัพธ์จะชัดเจนที่สุดภายใน **10-14 วัน** ซึ่งในช่วงนี้ กล้ามเนื้อที่ได้รับการฉีดจะเริ่มผ่อนคลาย ทำให้ริ้วรอยหรือบริเวณที่ได้รับการรักษาดูเรียบเนียนขึ้นอย่างชัดเจน.
นานแค่ไหนถึงเห็นผล?
โดยทั่วไปแล้ว การฉีดโบท็อกซ์ Neuronox จะเริ่มเห็นผลภายใน **3-7 วัน** หลังการฉีด โดยผลลัพธ์จะชัดเจนที่สุดภายใน **10-14 วัน** ซึ่งในช่วงนี้ กล้ามเนื้อที่ได้รับการฉีดจะเริ่มผ่อนคลาย ทำให้ริ้วรอยหรือบริเวณที่ได้รับการรักษาดูเรียบเนียนขึ้นอย่างชัดเจน.
BO-NEU อยู่ได้นานเท่าไหร่?
โดยทั่วไปสามารถอยู่ได้นานประมาณ 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ปริมาณที่ใช้ ตำแหน่งที่ฉีด และสภาพผิวของแต่ละบุคคล หลังจากช่วงเวลานี้ กล้ามเนื้อจะเริ่มกลับมาทำงานตามปกติ ดังนั้น อาจจำเป็นต้องฉีดซ้ำเพื่อรักษาผลลัพธ์ที่ต้องการ.