ทำความเข้าใจผิวหนังเป็นจุดสีดำแบบไหนที่เป็นอันตราย

จุดด่างดำบนผิวหน้า หรือผิวกาย ไม่ว่าจะเป็น ฝ้า กระ หรือจุดด่างดำจากสิว ล้วนเป็นสิ่งที่สร้างความรำคาญใจให้กับใครหลายคน เพราะทำให้ผิวพรรณไม่เรียบเนียน ไม่กระจ่างใส แลดูไม่สวยงาม แล้วทำไมผิวหนังเป็นจุดสีดำ? จุดสีดำแบบไหนที่เป็นอันตราย? อยากลดจุดด่างดำเหล่านี้แบบเร่งด่วนจะทำได้ไหม? อทิตาคลินิก (Atita Clinic) จะพาคุณไปหาคำตอบเอง

ทำไมผิวหนังเป็นจุดสีดำ อันตรายหรือไม่

มีหลายสาเหตุที่ทำให้ผิวหนังเป็นจุดสีดำ ไม่ว่าจะเป็นที่ตามตัว แขน ขา หรือหน้าท้อง ยกตัวอย่างเช่น

• เป็นฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือรอยดำหลังผิวหนังอักเสบ : เป็นภาวะที่ผิวมีเม็ดสีเข้มกว่าปกติ แต่ไม่ถึงกับเป็นอันตรายต่อผิว โดยจะเกิดหลังจากที่มีการอักเสบของผิวจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น ผื่นคันหลังโดนสารเคมี หรือน้ำยาล้างห้องน้ำ เป็นต้น
• เป็นไฝ : เกิดจากผิวหนังมีการสร้างเซลล์เม็ดสีที่เรียกว่า เมลาโนไซท์ (Melanocytes) เป็นจำนวนมาก แล้วมารวมตัวกันจนกลายเป็นไฝ มีหลายรูปแบบ โดยอาจมีลักษณะนูน เรียบ ทรงกลม ทรงรี สีน้ำตาลเข้ม สีน้ำตาลเหลือง สีสด หรืออาจเปลี่ยนสีเมื่อเวลาผ่านไปก็ได้
• เป็นกระแดด : มักเกิดบริเวณที่มีการสัมผัสแสงแดดเป็นประจำ โดยจะมีลักษณะเป็นจุดราบ สีน้ำตาลเข้ม และมีขอบเขตชัดเจน
• เป็นจุดด่างดำจากสิว : เกิดจากการกด แกะ สิว จนเป็นรอย เมื่อแผลตกสะเก็ดก็จะทำให้เกิดรอยคล้ำที่เข้มกว่าบริเวณอื่นตามมา
• เป็นผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางชนิด : การใช้ยารักษามาลาเรีย หรือยาเคมีบำบัด อาจทำให้เกิดจุดด่างดำบนผิวได้
• เป็นมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา : เป็นมะเร็งผิวหนังที่พัฒนามาจากเซลล์เมลาโนไซท์ที่สร้างเม็ดสีบนผิว โดยจะสังเกตได้จากไฝที่มีรูปร่างและเส้นขอบผิดปกติ โดยอาจเป็นไฝที่เกิดขึ้นใหม่ มีการเปลี่ยนแปลงของสีหรือมีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว และอาจมีอาการอื่น ๆ เช่น เลือดออก หรือคันร่วมด้วย จัดเป็นชนิดจุดสีดำบนผิวที่อันตราย

ประเภทของจุดด่างดำบนใบหน้า

หลังจากที่รู้แล้วว่า ทำไมผิวหนังเป็นจุดสีดำ ต่อไปเราจะพาไปรู้จักกับ 3 ประเภทจุดด่างดำบนใบหน้าที่พบบ่อย และสร้างความกังวลใจให้กับใครหลายคน จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย

1. รอยสิว

รอยสิว เป็นจุดด่างดำบนใบหน้าที่พบได้บ่อยที่สุด โดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่นที่มักจะมีปัญหาเรื่องสิวจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยมีสาเหตุมาจากการเป็นสิวชนิดต่าง ๆ แล้วไม่ดูแลรักษาอย่างถูกวิธี ทำให้เกิดการอักเสบ และไปกด แกะ หรือบีบสิวจนทำให้บริเวณนั้นช้ำยิ่งขึ้น และทิ้งรอยสิวตามมา

2. ฝ้า 

ฝ้า เป็นจุดด่างดำที่สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งบนผิวหน้า และผิวกาย มักเกิดกับคนที่มีอายุประมาณ 30-40 ปี โดยจะพบบ่อยในบริเวณที่สัมผัสแดดบ่อย ๆ เช่น หน้าผาก แก้ม จมูก หรือโหนกแก้ม โดยฝ้าแดด จะเป็นชนิดของฝ้าที่พบได้บ่อย ๆ เกิดจากการที่ผิวหนังโดนแสงแดดโดยตรง ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน และทำให้เกิดฝ้าตามมา แบ่งเป็น 3 รูปแบบหลัก ๆ ได้แก่ 

• ฝ้าตื้น (Epidermal type) : เกิดจากการสร้างเม็ดสีเมลานินมากกว่าปกติในระดับผิวหนังชั้นหนังกำพร้า มีลักษณะสีน้ำตาลเข้ม หรือดำ ขอบชัด สามารถรักษาได้ง่ายและเร็วกว่าฝ้าชนิดอื่น ๆ
• ฝ้าลึก  (Dermal type) : จะเกิดจากการการสร้างเม็ดสีเมลานินที่มากกว่าปกติในชั้นผิวหนังแท้ โดยฝ้าจะมีลักษณะสีม่วงอมน้ำเงิน รักษาได้ยากกว่าฝ้าตื้นมาก
• ฝ้าผสม (Mixed type) : จะเป็นฝ้าที่ผสมทั้งฝ้าตื้นและฝ้าลึก โดยจะมีลักษณะเป็นสีเข้ม แต่ขอบจาง จะต้องใช้วิธีรักษาร่วมกัน ทั้งการรักษาแบบฝ้าตื้น และการรักษาแบบฝ้าลึก

นอกจากฝ้าแดดแล้ว ยังมีอีกฝ้าที่สามารถพบได้และหลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นฝ้าแดด นั่นก็คือ ฝ้าเลือด (Vascular Melasma) จะมีลักษณะรอยปื้นสีน้ำตาลแดง รักษาได้ยาก เกิดจากความผิดปกติของเส้นเลือดฝอยบนผิวหน้าจากการใช้เครื่องสำอาง หรือยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ ทำให้เส้นเลือดฝอยแตก และมีเลือดกระจุกบริเวณพังผืดใต้ผิวหนังชั้นลึกจนทำให้เกิดฝ้าตามมา

3. กระ

กระ เป็นอีกหนึ่งจุดด่างดำบนผิวหน้าที่พบได้บ่อยไม่แพ้กัน มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงสีน้ำตาลเข้ม หรือทำให้ผิวหนังเป็นจุดสีดำ โดยในระยะแรก ๆ จะเป็นจุดเล็ก ๆ แต่ถ้าเป็นมากขึ้นก็จะมีขนาดใหญ่จนดูคล้ายปานได้ เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น แสงแดด อารมณ์ และความเครียด รวมไปถึงการสัมผัสแสงจากสมาร์ตโฟน

สำหรับชนิดของกระนั้น จะแบ่งเป็น 4 ชนิดหลัก ๆ ได้แก่

• • กระแดด : เกิดจากผิวหนังสัมผัสกับแสงแดดจัดบ่อย ๆ มักพบที่บริเวณโหนกแก้ม แขน หรือขาที่ไม่ได้ทาครีมกันแดด มีลักษณะเป็น จุด หรือปื้นเรียบ ๆ สีน้ำตาล หรือผิวหนังเป็นจุดสีดำ และขอบชัด
  • กระตื้น : เกิดจากเซลล์ทำงานผิดปกติ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากพันธุกรรม และเป็นตั้งแต่เด็ก โดยจะพบที่บริเวณโหนกแก้มทั้ง 2 ข้าง และจมูก มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลเล็ก ๆ ถ้าไม่ดูแลรักษาให้ดี ปล่อยให้กระตื้นสัมผัสแสงแดดเป็นประจำ ก็จะทำให้กระมีสีเข้มขึ้น จำนวนเพิ่มขึ้น และมีขนาดใหญ่ขึ้นได้
  • กระลึก : เป็นจุดเล็ก ๆ หรือแผ่นสีน้ำตาลไปจนถึงสีเทาดำ ลักษณะคล้ายปาน หรือฝ้า เกิดจากความผิดปกติของเซลล์เม็ดสีในชั้นหนังแท้ สามารถพบได้ตั้งแต่แรกเกิด หรือถูกกระตุ้นจากรังสียูวีจากแสงแดด หรือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายก็ได้
  • กระเนื้อ : จะเป็นตุ่มเล็ก ๆ สีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงเข้ม สามารถพบได้ทั่วร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น ใบหน้า ลำคอ หน้าอก หรือหลัง โดยสามารถขยายใหญ่ขึ้นและมีสีเข้มขึ้นได้ เกิดจากผิวหนังชั้นกำพร้าเจริญเติบโตมากผิดปกติ

วิธีลดจุดด่างดําแบบเร่งด่วน

ในกรณีที่มีจุดด่างดำบนผิวหน้า หรือตามตัว ในเบื้องต้นจะแนะนำให้ดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีก่อน โดยจะต้องทำความสะอาดผิวอย่างถูกวิธีเพื่อลดการเกิดสิว ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุของจุดด่างดำ หลังจากนั้นจะต้องทาครีมกันแดดเป็นประจำ และทาครีมบำรุงผิวที่มีคุณสมบัติในการลดเลือนฝ้า กระ และจุดด่างดำ ก็จะช่วยแก้ไขปัญหาผิวเหล่านี้ได้

อย่างไรก็ตาม วิธีการเหล่านี้จะต้องทำอย่างต่อเนื่อง มีวินัย และใช้ระยะเวลานานกว่าจะเห็นผล สำหรับใครที่ต้องการวิธีลดจุดด่างดำแบบเร่งด่วน ก็สามารถทำหัตถการที่คลินิกควบคู่กันไปด้วยเพื่อเสริมผลลัพธ์ของการรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำได้ เช่น

• ทำเลเซอร์หน้า Q SWITCH LASER : สามารถช่วยลดรอยฝ้า กระ และจุดด่างดำได้ โดยจะใช้คลื่นแสงเข้าไปทำให้เซลล์เม็ดสีแตกตัวออก จากนั้นเม็ดเลือดขาวจะเข้ามาย่อยสลาย และกำจัดจากร่างกายผ่านกระบวนการของเสีย พร้อมกับกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวกระจ่างใสและอ่อนวัยขึ้น
• ฉีดเมโสหน้าใส : มีให้เลือกหลากหลายสูตร หลายผลิตภัณฑ์ เช่น 
  • FIORGA NCTF : เป็นวิตามินที่เข้าไปช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้หลุดออก พร้อมเสริมสร้างคอลลาเจน ยับยั้งสาเหตุของการก่อตัวของรอยดำ และกระตุ้นการหมุนเวียนเลือด สามารถฟื้นบำรุงผิวให้กลับมาเปล่งปลั่ง ชุ่มชื้น และกระจ่างใสขึ้นได้ 
  • Placenta : ที่สกัดมาจากรกของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อุดมไปด้วยกรดอะมิโนหลายชนิด และมี Stem cell stimulating factor ซึ่งจะช่วยกระตุ้น Stem cell ในร่างกายที่อยู่ในภาวะพัก ให้กลับมาทำงานอีกครั้ง ช่วยฟื้นบำรุงผิวอย่างล้ำลึก และทำให้เกิดประโยชน์ต่อผิวมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือการแก้ไขสีผิวไม่สม่ำเสมอ ลดเลือนฝ้า กระ ทำให้ผิวกลับมากระจ่างใสได้

สรุปบทความ

เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลดี ๆ ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ หวังว่าจะช่วยคลายข้อสงสัยทำไมผิวหนังเป็นจุดสีดำ และช่วยให้ทุกคนสามารถสังเกตเบื้องต้นได้ว่า จุดสีดำบนผิวหนังแบบไหนที่เป็นจุดด่างดำที่พบได้ทั่วไป ไม่เป็นอันตราย และจุดสีดำบนผิวหนังแบบไหนที่อันตราย จะต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ และเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที

สำหรับท่านใดที่มีปัญหาจุดด่างดำบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็น รอยสิว ฝ้า หรือกระ อยากดูแลรักษาให้ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และเห็นผล สามารถนัดหมายเข้ามาปรึกษาคุณหมอที่อทิตาคลินิกได้เลย เรามีหัตถการมากมายที่ช่วยแก้ไขปัญหาผิวเหล่านี้ให้กับคุณ ทั้งการทำเลเซอร์หน้าอย่าง Pico Laser, Q SWITCH LASER หรือการทำทรีตเมนต์หน้าใสต่าง ๆ อย่าง MESO X-DNA, FIORGA NCTF, Placenta หรือ CHANEL MESO รับรองว่า ไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน!