Sculptra คืออะไร ราคาเท่าไหร่ ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้อย่างไร
ฟิลเลอร์ Definisse ต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร ฉีดจุดไหนได้บ้าง
อัพเดตเทคนิคการรักษาใหม่ล่าสุด MD Codes หลักการหรือแนวทางในการฉีดฟิลเลอร์
cover-atita-2024---cover-the-master---radiesse2
cover-atita-2024---cover-the-master---radiesse
cover-atita-2024---cover-the-master---sculptra
cover-atita-2024---cover-italy
cover-atita-2024---cover-MDCODE
previous arrowprevious arrow
next arrownext arrow
ผิวหย่อนคล้อย เกิดจาก

ผิวหย่อนคล้อยเกิดจากอะไร บำรุงและดูแลอย่างไรให้ผิวกลับมาเต่งตึง

ผิวหย่อนคล้อยเกิดจากอะไร พร้อมเคล็ดลับบำรุงผิว

เมื่อเรามีอายุมากขึ้น ผิวของเราจะเริ่มส่งสัญญาณที่บ่งบอกว่าผิวเริ่มมีอายุมากขึ้นผ่านปัญหาผิวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาฝ้า-กระ ผิวดูหมองคล้ำ แห้งกร้าน และที่เห็นได้ชัดคือ ปัญหาผิวหย่อนคล้อยบริเวณหน้าผาก ลำคอ ดวงตา ร่องแก้ม ที่ทำให้ใบหน้าและผิวพรรณของเราดูแก่ก่อนวัยอันควร แน่นอนว่าสาเหตุที่ทำให้ผิวหน้าหย่อนคล้อยไม่ได้มีเพียงแค่อายุที่มากขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยอื่นที่กระตุ้นให้ผิวเสื่อมสภาพและดูแก่กว่าวัย

ซึ่งในวันนี้ Atita Clinic จะพาคุณมาทำความรู้จักว่า ปัญหาผิวหย่อนคล้อยเกิดจากปัจจัยอะไรได้บ้าง เพื่อให้คุณเข้าใจและสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้เรายังมีเคล็ดลับวิธีบำรุงและดูแลผิวที่หย่อนคล้อยให้กลับมาเต่งตึงที่น่าสนใจมาแนะนำอีกด้วย

ผิวหย่อนคล้อยเกิดจากปัจจัยอะไรบ้าง

ผิวหย่อนคล้อยเกิดจากอะไร

ผิวหย่อยคล้อย คือสภาพผิวที่ถูกรบกวนจากปัจจัยต่าง ๆ จนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เช่น ผิวไม่เรียบเนียน ไม่กระชับ และมีความหย่อนยาน จนส่งผลให้เกิดริ้วรอยบริเวณร่องแก้ม หน้าผาก ลำคอ และดวงตา ที่ทำให้ผิวและใบหน้าดูแก่เกินวัย ซึ่งเหตุผลหลักที่ทำให้ผิวหย่อนคล้อยเกิดจากการที่จำนวนคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิวถูกรบกวนจากปัจจัยต่าง ๆ และลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้เซลล์ผิวสูญเสียความกระชับ ดูหย่อนคล้อย และเกิดริ้วรอยต่าง ๆ ที่ทำให้ผิวดูแก่เกินวัย โดยปัจจัยที่ส่งผลให้จำนวนคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิวลดลง มีทั้งหมด 6 ข้อ ดังนี้

1.อายุที่เพิ่มขึ้น

ร่างกายของเรามีสามารถผลิตคอลลาเจนและเซลล์ผิวได้ตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่กระบวนการเหล่านี้จะเสื่อมสภาพลงเรื่อย ๆ ตามอายุที่เพิ่มขึ้น ซึ่งหากจะพูดให้เห็นภาพคือ หากเรานำผิวของเด็กแรกเกิดมาเทียบกับผิวของคนอายุ 40 ก็จะเห็นได้ชัดว่า ผิวของเด็กแรกเกิดจะมีความเนียนละเอียด ดูกระจ่างใส และไร้ริ้วรอย แต่ผิวของคนที่อายุ 40 จะมีความแห้งกร้าน ดูไม่กระจ่างใส และมีริ้วรอยอย่างเห็นได้ชัด

2.การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) เป็นฮอร์โมนที่ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ เต่งตึง และเรียบเนียน ซึ่งในช่วงวัยรุ่น ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนออกมาเป็นจำนวนมาก ทำให้ผิวดูเต่งตึง และดูเยาว์วัย แต่ต่อมาเมื่อเราอายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนได้น้อยลง ส่งผลให้ผิวชั้นในมีความหย่อนคล้อย จนทำให้เกิดริ้วรอยต่าง ๆ ตามมา

3.รังสียูวีในแสงแดด

เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า รังสียูวีในแสงแดดเป็นอันตรายต่อผิวเป็นอย่างมาก เนื่องจากรังสียูวีจะเข้าไปกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระ และเข้าไปทำลายเซลล์ผิวหนังภายในเซลล์ รวมถึงทำลายเส้นใยคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น และเกิดความหย่อนคล้อยตามมา ดังนั้น ถ้าหากคุณไม่อยากมีริ้วรอยหรือผิวหย่อนคล้อยก่อนวัยอันควร ก็อย่าลืมให้ความสำคัญกับการทาครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสารป้องกันรังสียูวี

4.ความเครียด

หลายคนคงจะเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “เครียดบ่อยหน้าแก่ไม่รู้ตัว” ประโยคที่เหล่านักศึกษาและคนวัยทำงานมักจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ซึ่งหากคุณลองสังเกตดูจะพบว่า คนที่มีความเครียดตลอดเวลา จะมีใบหน้าที่หย่อนคล้อยหรือมีริ้วรอยมากกว่าคนที่มีความสดใส 

เพราะเมื่อเราเกิดความเครียด นอกจากคิ้วของเราที่ขมวดเข้าหากันอัตโนมัติจนทำให้เกิดริ้วรอยและตีนกาบนใบหน้าแล้ว ร่างกายของเรายังมีการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เข้าไปทำลายคอลลาเจนในชั้นผิว และลดการผลิตคอลลาเจนตามธรรมชาติ  รวมถึงเข้าไปรบกวนกระบวนการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มีส่วนช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ เต่งตึง และเรียบเนียน จนทำให้เซลล์​ผิวหนังไม่แข็งแรงและเกิดความหย่อนคล้อยในที่สุด

5.การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ

การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ร่างกายของเราได้ฟื้นฟูจากความเหนื่อยล้า เช่นเดียวกับเซลล์ผิวของเราที่ต้องการการพักผ่อนและฟื้นฟูเช่นเดียวกัน ซึ่งในขณะที่เรานอนหลับ ร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ที่ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ ผ่านการสร้างระบบการเผาผลาญอาหารให้ดียิ่งขึ้น และช่วยซ่อมแซมเซลล์ต่าง ๆ ที่สึกหรอในร่างกาย 

แน่นอนว่าหากเราพักผ่อนไม่เพียง ร่างกายก็จะหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ออกมาได้ไม่เต็มที่ทำให้ผิวหนังเกิดการหย่อนคล้อย และเหี่ยวย่นได้ นอกจากนี้ หากระบบเผาผลาญทำงานได้ไม่เต็มที่ ของเสียต่าง ๆ ในร่างกายก็จะไม่ถูกขับออกไป ทำให้ผิวดูหมองคล้ำ ดูแห้งกร้านได้อีกด้วย

6.มลภาวะต่าง ๆ ที่ต้องพบเจอในแต่ละวัน

นอกจากแสงแดดจะเป็นศัตรูตัวร้ายของผิวแล้ว มลภาวะต่าง ๆ ที่เราต้องพบเจอในแต่ละวันก็ถือเป็นอีกหนึ่งศัตรูที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้หรือหลีกเลี่ยงได้ยาก ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น ควันรถยนต์ หรือควันบุหรี่ ซึ่งมลภาวะเหล่านี้จะเข้าไปรบกวนการทำงานของกระบวนการผลิตคอลลาเจน และเซลล์ผิวหนังในร่างกายให้เสื่อมประสิทธิภาพลง ทำให้ผิวพรรณที่ถูกรบกวนเกิดการหย่อนคล้อยและมีริ้วรอย นอกจากนี้หากมลภาวะต่าง ๆ ถูกสะสมบนผิวหนังไปเรื่อย ๆ ก็อาจจะทำให้ผิวดูหมองคล้ำ หรือเกิดการอุดตันจนทำให้เกิดสิวได้อีกด้วย

ปัญหาผิวที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงอายุ

อย่างที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นว่า ปัญหาผิวหย่อนคล้อยเกิดจากการที่ผิวถูกรบกวนจากปัจจัยต่าง ๆ แต่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาผิวก็คงไม่พ้น อายุที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งในแต่ละช่วงวัยก็จะต้องพบเจอกับปัญหาผิวที่แตกต่างกันไป ดังนั้น จะดีกว่าไหมถ้าคุณรู้ว่า อีก 5 ปี 10 ปีข้างหน้า ผิวของคุณจะเกิดปัญหาใดขึ้นบ้าง และหาวิธีป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเหล่านั้นได้ และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปดูกันเลยดีกว่าว่า แต่ละช่วงอายุต้องเจอกับปัญหาผิวอะไรบ้าง

ช่วงอายุ 20+

จำนวนคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิวหนังแท้เริ่มลดน้อยลง ทำให้ผิวเริ่มมีริ้วรอยบาง ๆ ที่เกิดจากการยิ้มบริเวณรอบดวงตา

ช่วงอายุ 30+

เมื่ออายุเริ่มเข้าสู่เลข 3 ปัญหาในชั้นผิวหนังก็จะเริ่มมีมากขึ้นและเห็นได้ชัดขึ้น เนื่องจากคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิวถูกทำลายมากขึ้น นอกจากนี้ กระบวนการผลัดเซลล์ผิวบริเวณผิวชั้นนอกยังทำงานได้ช้าลง ทำให้ผิวดูหยาบกร้าน เกิดริ้วรอยบริเวณรอบดวงตาเริ่มชัดขึ้น มีริ้วรอยบริเวณคิ้วและหน้าผากจากการขมวดคิ้ว และเกิดความหย่อนคล้อยบริเวณแก้มได้

ช่วงอายุ 40+

เมื่อเข้าสู่วัย 40+ ผิวของเราจะเริ่มอ่อนแอมากขึ้น และจะเริ่มมีปัญหาผิวที่ลึกลงไปถึงชั้นไขมัน โดยไขมันจะมีการเสื่อมสลายไป ไม่แน่นเหมือนวัยเด็ก ทำให้ผิวเกิดการยุบตัว นอกจากนี้ เนื้อเยื่อพังผืดที่อยู่ระหว่างชั้นไขมันและกล้ามเนื้อ ที่ทำหน้าที่โอบอุ้มผิวให้มีความกระชับ ก็จะเริ่มเสื่อมสภาพและอ่อนแอลง ทำให้ไม่สามารถพยุงผิวให้กระชับได้ และทำให้รูปหน้าเกิดความหย่อนคล้อย

ช่วงวัย 50+

เป็นช่วงอายุที่มีริ้วรอยลึกขึ้น ผิวหนังเริ่มบาง และรูปหน้าเริ่มเปลี่ยน เนื่องจากผิวหนังมีการหย่อนคล้อย นอกจากนี้ โครงสร้างของใบหน้ายังอาจเกิดการยุบตัวลงตามธรรมชาติ ทำให้ใบหน้าบางคนดูไม่สมส่วนได้ด้วย

หน้าหย่อนคล้อยแก้ได้ ด้วย 3 แนวทางกู้หน้ากระชับที่คลินิกแนะนำ

3 วิธีหน้ากระชับ

ได้ทำความเข้าใจกันไปพอสมควรแล้วว่า ปัญหาผิวหย่อนคล้อยเกิดจากอะไร รวมถึงปัญหาผิวที่เกิดในแต่ละช่วงวัย ซึ่งแม้ว่าปัญหาผิวที่เกิดในแต่ละช่วงวัย จะเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่หากคุณมีการดูแลผิวเป็นอย่างดีก็จะช่วยยืดเวลาการเกิดปัญหาผิวเหล่านี้ออกไปได้ และถ้าหากคุณกำลังพบเจอกับปัญหาผิวหย่อนคล้อยหรือมีริ้วรอยก่อนวัยอันควรจะทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ Atita Clinic ก็จะขอมาแนะนำแนวทางการกู้หน้ากระชับที่คลินิกแนะนำมาให้คุณได้รู้กัน

1. Ulthera (อัลเทอร่า)

เครื่องมือยกกระชับผิวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถยกผิวหน้าที่หย่อนคล้อยให้กลับมากระชับ พร้อมปรับกรอบหน้าให้ดูคมชัดขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิวที่ช่วยลดริ้วรอย และช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ได้อีกด้วย 

โดย Ulthera จะเป็นการปล่อยพลังงานคลื่นความถี่สูงในรูปแบบอัลตราซาวด์ที่สามารถเข้าสู่ชั้นผิวได้ลึกถึงระดับ SMAS และปล่อยพลังงานความร้อนเข้าไปกระตุ้นชั้น SMAS ที่เสื่อมสภาพให้เกิดการหดตัว ซึ่งผลลัพธ์หลังจากการทำ Ulthera จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่า ใบหน้ายกขึ้น 10-15% และจะเห็นผลชัดเจนภายใน 1-3 เดือน

2. Thermage (เทอร์มาจ)

Thermage เป็นเทคโนโลยีที่ปล่อยพลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูงไปยังชั้นผิวระดับ Dermis เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ขึ้นมา ทำให้ผิวดูกระชับ และไม่หย่อนคล้อยเหมือนก่อนทำ นอกจากนี้ยังช่วยลดไขมันสะสมบริเวณแก้ม และเหนียง ทำให้กรอบหน้าดูชัดขึ้น รวมถึงช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาแข็งแรง ยืดหยุ่น และดูสุขภาพดีอย่างต่อเนื่อง 

ซึ่งการทำเทอร์มาจถือว่ามีความคุ้มค่าเป็นอย่างมาก เพราะให้ผลลัพธ์ถึง 3 ต่อ ทั้งยกกระชับผิว ฟื้นฟูสุขภาพผิวอย่างล้ำลึก และช่วยลดไขมันสะสม โดยหลังจากทำเทอร์มาจทันทีจะเห็นได้ชัดเจนเลยว่า ใบหน้ายกกระชับขึ้นกว่า 15-20% ผิวดูกระชับ ดูสุขภาพดี และไม่มีไขมันสะสม และจะเห็นผลชัดเจนภายใน 1-3 เดือน

3. Botox (โบท็อกซ์)

วิธีปรับรูปหน้าที่หลายคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยโบท็อกจะเข้าไปช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อทำให้หน้าดูเล็กลง และช่วยลดเลือนริ้วรอย นอกจากนี้ ยังสามารถฉีดโบท็อกเพื่อยกกระชับหน้าได้อีกด้วย  โดยจะเป็นการฉีดสาร โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) เข้าไปยังบริเวณกล้ามเนื้อที่ดึงให้ผิวหน้าหย่อนคล้อย และสารโบท็อกจะออกฤทธิ์โดยการไปดึงรั้งกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด ทำให้หน้าดูกระชับ มีมิติ และเรียวเล็กมากขึ้น ซึ่งหลังจากฉีดโบท็อกแล้วสามารถเห็นผลได้ทันที และจะยิ่งเห็นผลชัดเจนขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์

อทิตาคลินิกเรามีทีมแพทย์คอยแนะนำ ให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แอดไลน์ปรึกษา คลิกที่นี่

เมื่อได้ทราบกันไปแล้วว่า สาเหตุที่ทำให้ผิวหย่อนคล้อยเกิดจากอะไร ก็อย่าลืมสำรวจว่าผิวหน้าของคุณเริ่มมีความหย่อนคล้อยหรือริ้วรอยหรือไม่ และเริ่มบำรุงหรือดูแลผิวพรรณให้ดูกระชับ เพื่อไม่ให้ผิวพรรณดูแก่เกินวัย และลดความมั่นใจของสาว ๆ ลงไป และถ้าหากว่าคุณกำลังเจอปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย และวิธีแก้ที่เห็นผลได้อย่างชัดเจนและรวดเร็ว ก็สามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ Atita Clinic เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยแนะนำและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับวิธีรักษาที่ตอบโจทย์กับคุณมากที่สุด

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า