ริ้วรอยบนใบหน้าเป็นปัญหาผิวที่หลายคนกังวล และมักเกิดขึ้นเมื่ออายุเพิ่มขึ้น เพราะเวลาผ่านไปสภาพผิวเราก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปตามอายุ ริ้วรอยบนใบหน้า เช่น รอยตีนกา รอยย่นบนหน้าผาก หรือริ้วรอยร่องแก้ม ก็ปรากฏให้เห็นชัดเจนขึ้น บทความนี้ เราจะพาคุณรู้จักสาเหตุของริ้วรอยบนใบหน้าประเภทต่าง ๆ และวิธีการแก้ไขที่มีประสิทธิภาพกัน
Table of Contents
ริ้วรอย คืออะไร?
ริ้วรอยคือการเกิดรอยพับย่นหรือร่องลึกบนผิวหนัง ซึ่งสามารถเกิดได้ตั้งแต่อายุ 25 ปีขึ้นไป เมื่อร่างกายเริ่มสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน ริ้วรอยจึงปรากฏให้เห็นชัดเจนมากขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น โดยเริ่มจากริ้วรอยตื้น ๆ และอาจพัฒนาเป็นริ้วรอยร่องลึกที่แก้ไขยากขึ้นหากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม
สาเหตุริ้วรอย เกิดจากอะไรบ้าง?
สาเหตุหลักของการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า มาจากการสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสตินซึ่งเป็นโครงสร้างสำคัญที่ทำให้ผิวเต่งตึง เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ร่างกายจะผลิตสารเหล่านี้ลดลงประมาณ 1-2% ต่อปี ทำให้ผิวหนังขาดความยืดหยุ่น นอกจากนี้ การแสดงสีหน้าซ้ำ ๆ เช่น การยิ้ม หัวเราะ หรือขมวดคิ้ว ก็เป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดริ้วรอยตามจุดต่าง ๆ บนใบหน้า
ประเภทของ ริ้วรอยที่ใบหน้า
ริ้วรอยบนใบหน้า สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ซึ่งมีลักษณะและสาเหตุแตกต่างกัน ทำให้วิธีการรักษาก็แตกต่างกันด้วย
Static Line
Static Line คือริ้วรอยที่ปรากฏให้เห็นแม้ในขณะที่ใบหน้าไม่ได้แสดงอารมณ์หรือเคลื่อนไหว เป็นผลมาจากการสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว ทำให้ผิวหนังบางลงและขาดความยืดหยุ่น ริ้วรอยประเภทนี้มักพบในบริเวณรอบดวงตา หน้าผาก มุมปาก และริ้วรอยร่องแก้ม ซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น
Dynamic Line
Dynamic Line คือริ้วรอยที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อใบหน้า เช่น เวลายิ้ม หัวเราะ หรือขมวดคิ้ว ริ้วรอยประเภทนี้มักพบในบริเวณหน้าผาก ริ้วรอยรอบดวงตา (ตีนกา) และรอยย่นระหว่างคิ้ว ริ้วรอยเหล่านี้อาจปรากฏตั้งแต่อายุยังน้อย แต่จะชัดเจนขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น เนื่องจากผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่น
ปัจจัยที่กระตุ้นให้ริ้วรอยลึกขึ้น
- แสงแดด – รังสี UV ทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง
- การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ – ทำให้เกิดอนุมูลอิสระที่ทำลายโครงสร้างผิว
- ความแห้งของผิว – ผิวที่ขาดความชุ่มชื้นจะเกิดริ้วรอยได้ง่าย
- การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ – ทำให้ร่างกายไม่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้อย่างเต็มที่
- ความเครียด – ส่งผลให้ผิวขาดความยืดหยุ่นและเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
บริเวณที่พบริ้วรอยบนใบหน้า
- ริ้วรอยหน้าผาก – เกิดจากการแสดงสีหน้าและการเสื่อมของคอลลาเจน
- ริ้วรอยระหว่างคิ้ว (ขมวดคิ้ว) – เกิดจากการแสดงอารมณ์ทางสีหน้า
- รอยตีนกาบริเวณหางตา – เกิดจากการยิ้มและการสูญเสียความยืดหยุ่นของผิว
- ริ้วรอยใต้ตา – เกิดจากผิวบางและขาดความชุ่มชื้น
- ริ้วรอยร่องแก้ม – เกิดจากการยิ้มและความหย่อนคล้อยของผิว
รวมวิธีลดริ้วรอยบนใบหน้า
การรักษาริ้วรอยบนใบหน้า มีหลายวิธี โดยแต่ละวิธีเหมาะกับริ้วรอยประเภทที่แตกต่างกัน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาริ้วรอยของคุณ
1. โบท็อกซ์ลดริ้วรอยบนใบหน้า
Botox เป็นวิธียอดนิยมในการลดริ้วรอยประเภท Dynamic Lines โดยการฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ เข้าสู่กล้ามเนื้อบริเวณที่มีริ้วรอย ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ไม่เกิดการหดตัวที่ทำให้ผิวย่น ช่วยลดเลือนริ้วรอยบนหน้าผาก ริ้วรอยตีนกา และริ้วรอยระหว่างคิ้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะเห็นผลภายใน 3-7 วัน และอยู่ได้ประมาณ 4 เดือน
2. ฟิลเลอร์ลดริ้วรอยบนใบหน้า
ฟิลเลอร์เป็นวิธีที่เหมาะกับริ้วรอยร่องลึก (Static Lines) โดยการฉีดสารเติมเต็มประเภทกรดไฮยาลูโรนิกเข้าไปใต้ผิวบริเวณที่เป็นร่องลึก เพื่อเติมเต็มและยกให้ผิวเรียบเนียนขึ้น เหมาะสำหรับริ้วรอยร่องแก้ม ร่องใต้ตา และริ้วรอยรอบปาก ให้ผลลัพธ์ทันทีและอยู่ได้นาน 6-12 เดือน
3. Sculptra ลดริ้วรอยบนใบหน้า
Sculptra เป็นสารเติมเต็มที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในผิวหนัง ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายในให้แข็งแรงขึ้น เต่งตึงขึ้น และลดเลือนริ้วรอยได้อย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่มีริ้วรอยหลายจุดหรือมีผิวหย่อนคล้อย ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ปรากฏหลังการรักษา 4-6 สัปดาห์ และอยู่ได้นานถึง 2 ปี
4. HIFU ลดริ้วรอยบนใบหน้า
HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์พลังงานสูงในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง ช่วยให้ผิวกระชับขึ้น ริ้วรอยตื้นขึ้น และโครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้น เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องใช้เข็ม ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 เดือน และอยู่ได้นาน 1-2 ปี
5. ไหมน้ำ UltraCol ลดริ้วรอยบนใบหน้า
ไหมน้ำ UltraCol เป็นวิธีการลดริ้วรอยโดยการฉีดเส้นใยคอลลาเจนสังเคราะห์เข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยให้ริ้วรอยตื้นขึ้น ผิวเต่งตึงขึ้น และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น สามารถรักษาริ้วรอยได้ทั้งแบบตื้นและแบบลึก ผลลัพธ์จะเห็นได้ชัดหลังการรักษา 1-2 เดือน และอยู่ได้นาน 12-18 เดือน
6. Ulthera ลดริ้วรอยบนใบหน้า
Ulthera เป็นเทคโนโลยี HIFU ที่ช่วยในการยกกระชับผิวและลดริ้วรอย โดยส่งคลื่นอัลตร้าซาวด์ลงลึกถึงชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ทำการผ่าตัดยกกระชับใบหน้า ช่วยให้ผิวกระชับขึ้น ริ้วรอยตื้นขึ้น และมีประสิทธิภาพในการยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 เดือน และอยู่ได้นาน 1-2 ปี
แก้ไขริ้วรอยบนใบหน้าที่ไหนดี?
การเลือกสถานที่รักษาริ้วรอยบนใบหน้า เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ควรเลือกคลินิกที่มีแพทย์ผู้มีประสบการณ์ และใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน อทิตาคลินิก มีแพทย์ที่พร้อมให้การดูแลอย่างใกล้ชิด ประเมินแบบละเอียด และให้คำแนะนำที่ตรงไปตรงมา เพื่อแก้ปัญหาริ้วรอยอย่างตรงจุด ตอบโจทย์ความต้องการของผู้เข้ารับบริการ
ริ้วรอยบนใบหน้า เป็นปัญหาผิวที่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีการที่หลากหลาย การเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับประเภทและความรุนแรงของริ้วรอย รวมถึงสภาพผิวของแต่ละบุคคล หากคุณกำลังมองหาวิธีแก้ไขริ้วรอยบนใบหน้า อทิตาคลินิกพร้อมให้บริการด้วยเทคโนโลยีและความเอาใจใส่ สามารถติดต่อนัดหมายเข้ามาพบแพทย์ที่เบอร์โทรศัพท์ 094-324-4442 หรือแอดไลน์ @atitaclinic เรายินดีให้คำปรึกษา