Sculptra คืออะไร ราคาเท่าไหร่ ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้อย่างไร
ฟิลเลอร์ Definisse ต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร ฉีดจุดไหนได้บ้าง
อัพเดตเทคนิคการรักษาใหม่ล่าสุด MD Codes หลักการหรือแนวทางในการฉีดฟิลเลอร์
cover-atita-2024---cover-the-master---radiesse2
cover-atita-2024---cover-the-master---radiesse
cover-atita-2024---cover-the-master---sculptra
cover-atita-2024---cover-italy
cover-atita-2024---cover-MDCODE
previous arrowprevious arrow
next arrownext arrow
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ใช้กี่ cc

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ใช้กี่ CC รวมสิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจทำ

ปัญหารอยคล้ำใต้ตา เบ้าตาลึก ริ้วรอยรอบดวงตา เป็นปัญหากวนใจและแก้ได้ยาก ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจึงเป็นทางเลือกที่จะช่วยแก้ปัญหารอบดวงตาให้กลับเป็นสดใสในเวลาอันรวดเร็ว แต่หลายคนคงเกิดคำถามว่าฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรใช้กี่ CC ถึงจะเห็นผล ควรเลือกฟิลเลอร์แบรนด์ไหน บทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนทำ

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาควรใช้กี่ CC

โดยทั่วไป ฟิลเลอร์ใต้ตาใช้ข้างละ 1-2 CC ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชั้นผิวใต้ตา ซึ่งแพทย์จะประเมินตามความเหมาะสม โดยส่วนใหญ่ฟิลเลอร์ 1 CC จะฉีดบริเวณที่ไม่ลึกมาก สำหรับคนไข้ที่มีใต้ตาไม่ลึก ใช้เพียงข้างละ 1 CC ก็สามารถการเปลี่ยนแปลงแล้ว แต่สำหรับคนไข้ที่มีปัญหากระดูกใต้ตาลึกมาก ๆ  จนเกิดเป็นเงาใต้ตา มองเห็นรอยดำคล้ำชัดเจน อาจต้องใช้ข้างละ 1.5-2 CC

แบรนด์ฟิลเลอร์ใต้ตาที่แพทย์ส่วนใหญ่แนะนำ

ใต้ตาเป็นบริเวณที่เนื้อเยื่อค่อนข้างบาง การเลือกฟิลเลอร์ให้เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งฟิลเลอร์ที่เหมาะสำหรับฉีดใต้ตานั้น ควรเป็นฟิลเลอร์ที่มีความคงรูปและยืดหยุ่นสูง เนื้อละเอียด ฉีดแล้วดูเป็นธรรมชาติ โดย 4 ยี่ห้อที่คลินิกหลายแห่งเลือกใช้ ได้แก่ Belotero Neuramis Restylane และ Juvederm

1. Belotero

Belotero

ฟิลเลอร์ Belotero จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผลิตด้วยเทคโนโลยี Cohesive Polydensified Matrix (CPM) ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง เกาะผิวได้ดี ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ซึ่ง Belotero นำเข้าอย่างถูกกฎหมายโดยบริษัท เมิร์ซ เฮลธ์แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด และผ่านการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องจากองค์การอาหารและยาในยุโรป สหรัฐอเมริกา และประเทศไทย มีอีกชื่อเรียกว่า “Colorfull Filler” เพราะมีหลายรุ่น แต่ละรุ่นมีกล่องสีสันสดใส ซึ่งจะเหมาะกับการฉีดบริเวณที่แตกต่างกัน ดังนี้

  • Belotero Volume กล่องสีม่วง มีส่วนผสมของยาชา โดดเด่นในเรื่องของความยืดหยุ่นและความคงตัว เหมาะสำหรับแก้ไขรูปหน้าที่ไม่เข้ารูป เช่น หน้า คาง โหนกแก้ม สามารถแก้ไขปัญหาใบหน้าตอบจากการทรุดตัวของกระดูก นอกจากนี้ยังนิยมใช้ Belotero ฉีดใต้ตา เพื่อแก้ปัญหาถุงใต้ตาหย่อนคล้อย
  • Belotero Intense กล่องสีชมพู มีส่วนผสมของยาชา มีความยืดหยุ่นสูง นิยมฉีดบริเวณร่องแก้มชั้นลึก และการเติมแก้มตอบ รวมทั้งฉีดฟิลเลอร์ปาก เพราะมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับปากซึ่งเป็นบริเวณที่มีการขยับกล้ามเนื้อเยอะ
  • Belotero Balance กล่องสีส้ม นิยมใช้แก้ปัญหาริ้วรอยระดับลึกถึงปานกลาง เช่น ระหว่างคิ้ว ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก จะช่วยปรับริ้วรอยร่องลึกให้ดูตื้นขึ้น
  • Belotero Soft กล่องสีเหลือง มีโมเลกุลเล็กและเนื้อละเอียดมากกว่ารุ่นอื่น ๆ  นิยมฉีดเก็บรายละเอียด หรือฉีดบริเวณริ้วรอยที่เกิดจากผิวชั้นนอกและผิวที่ไม่ได้มีปัญหาริ้วรอยร่องลึกมากนัก เช่น รอยตีนกา รอยย่นบริเวณหน้าผาก

ฟิลเลอร์ Belotero อยู่ได้นานไหม

  • Belotero Volume อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Belotero Intense อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Belotero Balance อยู่ได้นาน 12-18 เดือน
  • Belotero Soft อยู่ได้นาน 6-12 เดือน

2. Neuramis

Neuramis

ฟิลเลอร์ Neuramis จากประเทศเกาหลีใต้ พัฒนาโดยบริษัท Medytox โดยใช้เทคโนโลยีการผลิตที่เรียกว่า SHAPE technology มีความโดดเด่นในเรื่องของราคาที่ย่อมเยากว่าฟิลเลอร์ที่ผ่านอย. รุ่นอื่น ๆ จึงได้รับความนิยมในคลินิกเสริมความงามทั่วไป โดยรุ่นที่นิยมฉีดใต้ตา และผ่านการรับรองจากอย.ไทย มีดังนี้

  • Neuramis รุ่น Deep Classic เป็นเนื้อเจลหนืดปานกลาง ไม่มีส่วนผสมของยาชา มีประสิทธิภาพในการคงตัวค่อนข้างสูง ขึ้นรูปได้ง่าย เหมาะสำหรับเติมเต็มใบหน้าในชั้นลึกมากกว่าชั้นตื้น เช่น ร่องแก้ม ร่องลึกใต้ตา หรือปรับรูปหน้าบริเวณที่ต้องการ เช่น คาง ปาก
  • Neuramis รุ่น Deep Lidocaine เป็นเนื้อเจลหนืดปานกลาง มีส่วนผสมของยาชา ขึ้นรูปได้ง่าย และคงรูปได้ดี เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่นิยมฉีดบริเวณร่องชั้นลึก เช่น ร่องลึกใต้ตา ร่องแก้ม
  • Neuramis รุ่น Volume Lidocaine  เป็นเนื้อเจลหนืด มีส่วนผสมของยาชา มีความคงตัวสูงที่สุดในบรรดา 3 รุ่น เหมาะสำหรับเติมเต็มริ้วรอยระดับกลางถึงลึกมาก เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก

ฟิลเลอร์ Neuramis  อยู่ได้นานไหม

  • Neuramis รุ่น Deep Classic อยู่ได้นาน 6-8 เดือน
  • Neuramis รุ่น Deep Lidocaine อยู่ได้นาน 6-8 เดือน
  • Neuramis รุ่น Volume Lidocaine อยู่ได้นาน 12-24 เดือน

3. Restylane

Restylane

ฟิลเลอร์ Restylane ฟิลเลอร์สัญชาติสวีเดน ผลิตและพัฒนาโดยบริษัท Galderma ที่มีการผลิตมายาวนานที่สุดในโลกและยังคงได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน ความโดดเด่นคือตัวฟิลเลอร์พัฒนาด้วย  NASHA Techology และ OBT Technology ทำให้เนื้อฟิลเลอร์เหมาะกับปัญหาผิวหน้าของคนไข้ในแต่ละจุด โดยขอแนะนำ 4 รุ่น ที่เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา ดังนี้

  • Restylane Perlane Lyft มีส่วนผสมของยาชา มีความคงตัวสูง และสามารถคงรูปได้ดี เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา ฉีดคาง ฉีดจมูกได้
  • Restylane Defyne มีส่วนผสมของยาชา เนื้อเจลแข็งปานกลาง มีความยืดหยุ่นและอุ้มน้ำได้ดี จึงนิยมเติมเต็มร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก หรือฉีดใต้ตาได้
  • Restylane Vital Light ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เหมาะกับแก้ไขจุดเล็ก ๆ นิยมนำมาฉีดเก็บรายละเอียดใต้ตา ปาก หรือผิวที่มีบริเวณไม่ลึกมาก
  • Restylane Classic ฟิลเลอร์อนุภาคใหญ่ เนื้อแข็ง เหมาะกับแก้ปัญหาริ้วรอยระดับปานกลางถึงมาก เช่น ร่องแก้มตื้น ๆ ใต้ตา เป็นต้น

ฟิลเลอร์ Restylane อยู่ได้นานไหม

  • Restylane Perlane Lyft อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Restylane Defyne อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Restylane Vital Light อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
  • Restylane Classic อยู่ได้นาน 12 เดือน

4. Juvederm

Juvederm

มาถึงตัวสุดท้าย ฟิลเลอร์ Juvederm ฟิลเลอร์จากประเทศสหรัฐอเมริกา ผลิตโดยบริษัท Allergan เจ้าของโบท็อกยอดฮิตอย่างโบท็อก Allergan โดยฟิลเลอร์ Juvederm ได้รับการรับรองจาก USFDA และ ThaiFDA ความโดดเด่นของฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้ คือ ความเรียบเนียน ยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับได้ดี จึงเป็นอีกหนึ่งฟิลเลอร์ยอดนิยมที่หลายคลินิกใช้ฉีดใต้ตา ยกตัวอย่างรุ่นที่นิยมใช้ฉีดใต้ตา เช่น

  • Juvederm Volite มีเนื้อละเอียด นิ่มเนียน นิยมใช้ฉีดบริเวณใต้ตา หรือผิวชั้นตื้น 
  • Juvederm Voluma มีเนื้อแน่น ฟูปานกลาง และมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับแก้ไขใต้ตา ร่องแก้ม หรือเติมขมับ คาง หรือส่วนอื่น ๆ ได้ เพราะตัวฟิลเลอร์ปั้นง่าย คงตัวได้ดี
  • Juvederm Volux รุ่นที่มีการพัฒนาออกมาล่าสุด มีโมเลกุลขนาดใหญ่ จึงยืดหยุ่นสูง และคงรูปได้ดีที่สุด เหมาะสำหรับฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก

ฟิลเลอร์ Juvederm อยู่ได้นานไหม

  • Juvederm Volite อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
  • Juvederm Voluma อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Juvederm Volux อยู่ได้นาน 18-24 เดือน

ผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะใช้กี่ CC มากหรือน้อย ก็สามารถเกิดผลข้างเคียงได้เหมือนกัน เนื่องจากบริเวณใต้ตาค่อนข้างบางกว่าบริเวณอื่น

ฉีดแล้วเป็นก้อนที่ใต้ตา

ปัญหาการฉีดใต้ตาแล้วเป็นก้อน ดูไม่เป็นธรรมชาติ เกิดจากการฉีดในชั้นที่ไม่ถูกต้อง ฉีดในชั้นที่ตื้นเกินไป จะทำให้เห็นเป็นก้อนชัดขึ้น จึงเป็นสาเหตุให้เวลาเลือกคลินิกต้องเลือกคลินิกที่แพทย์มีความเชี่ยวชาญและเข้าใจโครงสร้างบนใบหน้าเป็นอย่างดี

มีอาการบวมเข็ม

อาการบวมเข็มจะมีลักษณะบวมแดง ช้ำ ซึ่งเกิดขึ้นได้ปกติ โดยรอยเข็มจะหายเองใน 2-3 วัน และส่วนที่บวมจะยุบในประมาณ 2 สัปดาห์ โดยคนไข้ควรหลีกเลี่ยงการแกะ เกา หรือนวดบริเวณนั้น

วิธีปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์

  1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ 1.5-2 ลิตรต่อวัน จะช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่และอยู่ได้นาน
  2. หากมีอาการบวมให้ประคบเย็นเบา ๆ ไม่ควรกดแรง ๆ 
  3. หากมีอาการปวดให้ทานยาแก้ปวดตามอาการ
  4. 2-3 คืนแรก ให้นอนในห้องแอร์อุณหภูมิ 18-23 องศาเซลเซียส โดยนอนหัวสูงกว่าหน้าอก ไม่นอนตะแคง เพื่อป้องกันการกดทับ
  5. สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ แต่งดทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน

เมื่อถึงตรงนี้คงไขข้อข้องใจให้ใครหลายคนแล้วว่าฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรใช้กี่ CC ซึ่งจะเห็นได้ว่าใช้เพียงไม่กี่ CC ก็สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนแล้ว การฉีดในปริมาณเยอะไม่ใช่ข้อดีเสมอไป สำหรับใครที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ก่อนจะฉีดฟิลเลอร์นั้น ความปลอดภัยต้องมาก่อนเสมอ ดังนั้นผู้ที่สนใจควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ให้ละเอียด ดูรีวิวจากลูกค้าจริงเพื่อประกอบการตัดสินใจ และเลือกเข้ารับบริการคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัยที่สุด

อทิตาคลินิกมีทีมแพทย์คอยแนะนำ ให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า