การดูแลผิวหน้าและลดเลือนริ้วรอยในปัจจุบันมีหลากหลายวิธี หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายคือการใช้สารเติมเต็มอย่าง radiesse vs radiesse plus ซึ่งเป็นที่รู้จักในวงการความงามว่าเป็นตัวช่วยที่สามารถคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แต่หลายคนอาจสงสัยว่า radiesse vs radiesse plus แตกต่างกันอย่างไร และควรเลือกใช้อะไรให้เหมาะสมกับสภาพผิวและความต้องการของตัวเอง บทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับผลิตภัณฑ์ทั้งสองนี้อย่างละเอียด
Radiesse คืออะไร
Table of Contents
Radiesse คือสารเติมเต็ม (dermal filler) ที่มีส่วนประกอบหลักคือแคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ (Calcium Hydroxylapatite หรือ CaHA) ซึ่งเป็นสารที่พบได้ในร่างกายตามธรรมชาติ ทำให้ปลอดภัยในการฉีดและช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว
คุณสมบัติเด่นของ Radiesse คือ ช่วยให้ผิวหน้าดูกระชับ เต่งตึง และลดเลือนริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังฉีด และคงอยู่ได้นานถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลรักษาของแต่ละบุคคล
Radiesse Plus คืออะไร
Radiesse Plus เป็นรุ่นที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Radiesse โดยมีจุดเด่นในการเพิ่มความสามารถในการฉีดให้ง่ายขึ้นและคงทนยิ่งขึ้น สารเติมเต็มใน Radiesse Plus มีลักษณะคล้ายกับ Radiesse แต่ผสมด้วยสารลดความหนืด (lidocaine) ซึ่งช่วยลดความเจ็บปวดในขณะฉีด และทำให้กระจายตัวได้ดีขึ้นในชั้นผิว เหมาะกับการเติมเต็มในบริเวณที่ต้องการปริมาตรมาก เช่น บริเวณแก้ม กรอบหน้า และลำคอ
เรเดียสพลัสเน้นการ Lifting และ Contour ใบหน้า ช่วยเรื่องการยกกระชับ ใบหน้าพุ่งสวย คมชัด
Radiesse vs Radiesse Plus ต่างกันอย่างไร
เมื่อเปรียบเทียบ radiesse vs radiesse plus เราจะเห็นความแตกต่างหลัก ๆ ดังนี้
- ความสะดวกในการฉีด : Radiesse Plus มีการผสมสาร lidocaine ซึ่งช่วยลดความรู้สึกเจ็บในขณะฉีด ทำให้ผู้รับบริการรู้สึกสบายขึ้น ในขณะที่ Radiesse แบบดั้งเดิมไม่มีส่วนผสมนี้ ดังนั้นอาจต้องใช้ยาชาเฉพาะที่เพื่อช่วยลดความเจ็บ
- การกระจายตัวในชั้นผิว : Radiesse Plus มีคุณสมบัติในการกระจายตัวได้ดีกว่า เนื่องจากเนื้อสัมผัสที่เนียนและละเอียดกว่า ทำให้การฉีดดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยเฉพาะในบริเวณที่ต้องการความละเอียดของการปรับรูปหน้า
- ผลลัพธ์ที่คงทน : ทั้ง radiesse vs radiesse plus มีระยะเวลาที่ผลลัพธ์คงอยู่ใกล้เคียงกันประมาณ 2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน แต่การฉีด Radiesse Plus อาจให้ความรู้สึกที่สบายขึ้นหลังฉีดมากกว่า
- ระยะเวลาการรักษา : Radiesse Plus อาจใช้เวลาในการรักษาน้อยกว่า เนื่องจากไม่ต้องรอให้ยาชาออกฤทธิ์
- ราคา : Radiesse Plus มักจะมีราคาสูงกว่า Radiesse เล็กน้อย เนื่องจากมีส่วนผสมเพิ่มเติม
Radiesse vs Radiesse Plus เหมาะกับใคร
ทั้ง radiesse vs radiesse plus เหมาะกับ
- Radiesse เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูโครงสร้างใบหน้า เช่น ร่องแก้มลึก หรือผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่สามารถเห็นได้ทันทีหลังฉีด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการปรับโครงสร้างผิวหน้าแบบรวดเร็วและยาวนาน
- Radiesse Plus เหมาะกับผู้ที่ต้องการการรักษาที่ให้ความรู้สึกสบายมากขึ้น และต้องการการกระจายตัวของสารที่เนียนละเอียดและเป็นธรรมชาติ เหมาะกับผู้ที่มีผิวบอบบางหรือแพ้ง่าย และต้องการลดความรู้สึกเจ็บขณะฉีด
หัตถการ Radiesse ช่วยในเรื่องใดบ้าง
การฉีด radiesse vs radiesse plus ช่วยฟื้นฟูผิวหน้าในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเติมเต็มปริมาตรที่สูญเสียไป ลดเลือนริ้วรอยลึก และปรับโครงสร้างใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์มากขึ้น นอกจากนี้ Radiesse ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว ทำให้ผิวดูอิ่มเอิบและเต่งตึงอยู่ได้นาน
- ลดเลือนริ้วรอยลึก เช่น ร่องแก้มและรอบปาก
- ปรับโครงหน้า เช่น กรอบหน้าที่หย่อนคล้อย และเติมแก้มที่ตอบ
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพื่อให้ผิวหน้าเต่งตึงในระยะยาว
สรุปบทความ
การเลือกระหว่าง radiesse vs radiesse plus ไม่มีคำตอบตายตัวว่าอะไรดีกว่ากัน ทั้งคู่มีประสิทธิภาพในการเติมเต็มและกระตุ้นคอลลาเจนที่เทียบเท่ากัน ความแตกต่างหลักอยู่ที่การมีลิโดเคนใน Radiesse Plus ซึ่งช่วยลดความเจ็บปวดระหว่างการรักษา
สิ่งสำคัญที่สุดคือการปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพผิวและความต้องการของคุณ แพทย์จะสามารถแนะนำว่าผลิตภัณฑ์ใดเหมาะสมกับคุณมากที่สุด โดยคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความทนต่อความเจ็บปวด ประวัติการแพ้ยา และงบประมาณของแต่ละคน
สำหรับท่านใดที่สนใจหัตถการ Radiesse สามารถนัดคิวเข้ามาใช้บริการกับเราได้เลยทุกสาขา ผ่านเบอร์โทรศัพท์ 094-324-4442 หรือไลน์ @atitaclinic เจ้าหน้าที่ของเราพร้อมให้คำแนะนำข้อมูลด้วยความใส่ใจ ทุกเคสได้รับการดูแลโดยทีมแพทย์อทิตาคลินิกอย่างใกล้ชิด รับรองว่าไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน!