“ริ้วรอย” สัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่า ผิวต้องได้รับการดูแล เนื่องจากผิวเกิดการสูญเสียคอลลาเจน และอิลาสติน ทำให้ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น และเกิดริ้วรอยบนใบหน้าขึ้นได้ง่าย โดยริ้วรอยเหล่านี้จะเริ่มจากริ้วรอยตื้น ๆ และพัฒนาเป็นริ้วรอยที่มีขนาดใหญ่และลึกขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น และไม่ได้รับการบำรุงที่เพียงพอ ซึ่งสำหรับคนที่มีริ้วรอยตื้น ๆ การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเพื่อเติมความชุ่มชื้น หรือทานคอลลาเจนอาหารเสริมก็จะช่วยฟื้นบำรุงริ้วรอยเหล่านี้ให้ตื้นขึ้นได้บ้าง แต่สำหรับคนที่มีริ้วรอยลึก ๆ การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ จึงต้องพึ่งการทำหัตถการช่วยลดริ้วรอยอย่างการฉีดโบท็อกเข้ามาช่วยแทน
โดยในบทความนี้ Atita Clinic จะพาคุณมาทำความรู้จักกับปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้า และแนวทางการแก้ไข ที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย และคืนความอ่อนเยาว์ให้กับคุณได้ พร้อมวิธีป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้า จะมีข้อมูลใดที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์กับคุณบ้าง ไปติดตามกันต่อเลย
ริ้วรอยบนใบหน้า คืออะไร?
Table of Contents
ริ้วรอย คือ ร่องเส้นที่เกิดขึ้นบนใบหน้าในบริเวณที่มีการขยับบ่อย ๆ เช่น ร่องแก้ม หางตา หน้าผาก เป็นต้น โดยสามารถพบได้ในช่วงอายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป เพราะเมื่ออายุมากขึ้น กระบวนการผลิตเซลล์ผิวจะสามารถทำงานได้ช้าลง ทำให้ร่างกายไม่สามารถผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินที่มีส่วนช่วยในการกักเก็บความชุ่มชื้นได้เพียงพอ จนส่งผลให้ผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น และเกิดเป็นริ้วรอยได้
ประเภทของริ้วรอยบนใบหน้า
ริ้วรอยบนใบหน้า สามารถแบ่งออกได้ 2 ประเภท ดังนี้
- ริ้วรอยแบบตื้น: มีสาเหตุมาจากอายุ สภาพแวดล้อม หรือไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ที่ทำให้ผิวหนังชั้นบนสุดมีความแห้ง และขาดน้ำ จนเกิดเป็นริ้วรอยตื้น ๆ
- ริ้วรอยย่นแบบลึก: เป็นริ้วรอยที่เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อ ที่ส่งผลให้หนังแท้กับหนังกำพร้าดึงเข้าหากันจนเกิดเป็นรอยยับย่น โดยมีสาเหตุมาจากผิวที่แห้งกร้านมาก ๆ บวกกับพฤติกรรมที่มีการแสดงสีหน้าบ่อย ทั้งการขมวดคิ้ว เลิกหน้าผาก ฉีกยิ้มเยอะ เป็นต้น
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้า
นอกจากผิวที่แห้งกร้าน และขาดความชุ่มชื้นจะเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้แล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่กระตุ้นให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรได้อีกด้วย ดังนี้
-
อายุ
อายุที่เพิ่มขึ้น ทำให้กระบวนการผลิตคอลลาเจน และอิลาสตินในร่างกายลดน้อยลง ทำให้ผิวอ่อน เกิดความแห้งกร้าน และขาดความชุ่มชื้น ซึ่งถือเป็นสาเหตุหลักของการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า
-
ความเครียด
เมื่อร่างกายเกิดความเครียด จะมีฮอร์โมนที่ชื่อว่า “คอร์ติซอล” ถูกหลั่งออกมา ซึ่งฮอร์โมนคอร์ติซอลนี้จะเข้าไปรบกวนการทำงานของกระบวนการผลิตคอลลาเจนในร่างกาย และทำลายคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น และเกิดริ้วรอยตามมาได้
-
แสงแดด
รังสียูวีในแสงแดดถือเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดริ้วรอยได้มากถึง 80% เนื่องจากรังสียูวีในแสงแดดจะเข้าไปรบกวนกระบวนการผลิตคอลลาเจน และอิลาสตินในร่างกาย รวมถึงทำลายคอลลาเจนที่อยู่ในชั้นใต้ผิวหนัง ส่งผลให้มีขาดความยืดหยุ่น และแห้งกร้าน จนเกิดเป็นริ้วรอยได้
-
พักผ่อนไม่เพียงพอ
การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ จะทำให้ผิวไม่เต่งตึง และขาดความชุ่มชื้น จนทำให้เกิดริ้วรอยได้เร็วกว่าปกติ นอกจากนี้ ยังเป็นสาเหตุของการเกิดปัญหาผิวอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาผิวหมองคล้ำ ดูไม่สดใส เกิดสิว เป็นต้น
-
การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
สารอนุมูลอิสระในบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะเข้าไปทำลายโครงสร้างผิวหนังโดยตรง ซึ่งถือเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวดูมีอายุ และเกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้ นอกจากนี้ สารนิโคตินและสารอื่น ๆ ในบุหรี่ยังมีส่วนทำให้กระบวนการผลิตคอลลาเจน และคอลลาเจนในชั้นใต้ผิวหนังเสื่อมสภาพได้อีกด้วย
-
การแสดงสีหน้าทางอารมณ์มากไป
ไม่ว่าจะเครียด มีความสุข หรือเศร้า ร่างกายของเรามักจะแสดงอารมณ์เหล่านั้นออกมาผ่านสีหน้า ซึ่งการแสดงสีหน้าบ่อย ๆ เช่น การเลิกคิ้ว การขมวดคิ้ว หรือการเลิกหน้าผาก จะทำให้เนื้อเยื่อคอลลาเจนบริเวณนั้นหดตัวซ้ำ ๆ จนถูกทำลาย และเกิดเป็นริ้วรอยเหี่ยวย่นแบบลึกได้
ตำแหน่งที่มักจะเกิดริ้วรอยบนใบหน้า
โดยปกติแล้ว ริ้วรอยบนใบหน้าจะเกิดขึ้นในบริเวณที่มีการขยับหรือใช้งานบ่อย ดังนี้
- ริ้วรอยบริเวณดวงตา: บริเวณรอบดวงตา เป็นบริเวณที่มีผิวหนังบอบบางกว่าบริเวณอื่นบนใบหน้า ทำให้สามารถเกิดริ้วรอยได้ง่ายกว่า โดยริ้วรอยบริเวณดวงตา ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยรอบดวงตา หางตา หรือตีนกา จะเริ่มจากริ้วรอยบาง ๆ ก่อน และหากไม่ดูแลหรือรักษาริ้วรอยเหล่านั้นก็จะลึกขึ้นจนสามารถเห็นได้ชัด
- ริ้วรอยหน้าผาก: หน้าผาก เป็นบริเวณที่เราใช้งานบ่อยเมื่อแสดงอารมณ์ทางสีหน้า ทำให้เนื้อเยื่อคอลลาเจนถูกน้ำซ้ำ ๆ จนถูกทำลายและกลายเป็นร่องลึก นอกจากนี้ยังเป็นบริเวณที่โดนแดดเป็นประจำ หากทำกิจกรรมกลางแดดเป็นประจำ และไม่ทาครีมกันแดดก็จะทำให้เกิดริ้วรอยบริเวณหน้าผากได้เร็วขึ้นอีกด้วย
- ริ้วรอยร่องแก้ม: เป็นอีกจุดที่พบได้จากการแสดงอารมณ์ทางสีหน้าเวลายิ้ม โดยริ้วรอยบริเวณร่องแก้มจะมีลักษณะเป็นร่องลึก ยาวตั้งแต่บริเวณปีกจมูกโค้งลงมาถึงมุมปาก
- ริ้วรอยบริเวณร่องคิ้ว: เป็นบริเวณที่เชื่อมโยงมาจากหน้าผาก และเกิดจากการขมวดคิ้วบ่อย ๆ นอกจากนี้ยังเป็นจุดที่สามารถเห็นได้ชัดเพราะอยู่บริเวณกลางใบหน้าพอดี
ริ้วรอยบนใบหน้า มีวิธีแก้ไขอย่างไร?
1.ทำทรีทเมนต์ลดริ้วรอย
การทำทรีทเมนต์ เป็นวิธีดูแลใบหน้าเพื่อลดริ้วรอยด้วยการยกกระชับผิว ซึ่งจะเป็นการทำทรีทเมนต์ด้วยการปล่อยคลื่นวิทยุ (Radiofrequency Therapy) เข้าไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน และอิลาสตินในชั้นผิว ทำให้ผิวดูกระชับขึ้น และช่วยลดเลือนริ้วรอยต่าง ๆ ให้ดูจางลง
2.ใช้ผลิตภัณฑ์เติมความชุ่มชื้น และลดริ้วรอย
การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของ AHA ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอิลาตินในผิวหนัง ซึ่งสามารถชะลอการเกิดริ้วรอยได้ นอกจากนี้การเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนิค เอซิด จะช่วยกักเก็บและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น ดูกระชับ เรียบเนียน และช่วยลดเลือนริ้วรอยได้
3.นวดหน้าลดริ้วรอยเป็นประจำ
การนวดหน้าเพื่อลดริ้วรอยเป็นวิธีที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น เห็นได้จากคลิปสอนนวดหน้าที่มีให้ลองทำตามมากมายโดยวิธีนี้จะช่วยให้เลือดมาเลี้ยงผิวหนังบริเวณใบหน้ามากขึ้น และจะต้องทำเป็นประจำสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 15 นาที เพื่อให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง และลดการเกิดริ้วรอย ซึ่งวิธีนี้อาจไม่เหมาะสำหรับคนที่อยากลดริ้วรอยในเวลาอันรวดเร็ว
4.เลเซอร์ลดริ้วรอย
เป็นการนำเครื่องมือเลเซอร์ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ เช่น Fractional Laser, IPL และ NdYag มาใช้เพื่อลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า และจุดด่างดำต่าง ๆ ให้จางลงได้ ซึ่งวิธีนี้จะเห็นผลรวดเร็ว แต่ต้องใช้เวลาฟื้นฟูหลายเดือน เหมาะสำหรับคนที่อยากเห็นผลรวดเร็ว แต่ไม่รีบใช้หน้า
5.ฉีดโบท็อกลดริ้วรอย
การฉีดโบท็อก (Botulinum Toxin A) ถือเป็นวิธีลดเรือนริ้วรอยที่นิยมใช้มากที่สุด เนื่องจากเป็นวิธีที่เห็นผลได้ไว และชัดเจนที่สุด โดยตัวยาที่ฉีดจะเข้าไปรบกวนการทำงานของระบบประสาท ส่งผลให้มัดกล้ามเนื้อทำงานได้น้อยลง เมื่อใบหน้าบริเวณนั้นขยับหรือมีการใช้งาน เนื้อเยื่อคอลลาเจนบริเวณนั้นก็จะไม่ถูกทำลาย และสามารถลดริ้วรอยต่าง ๆ ได้ ถือเป็นวิธีที่เห็นผลชัดเจน ใช้ระยะเวลาไม่นาน และราคาไม่สูงมาก ซึ่งที่ Atita Clinic ก็มีแพ็คเกจพิเศษฉลองเปิดสาขาใหม่ให้เลือกถึง 2 แพ็คเกจ ในราคาเริ่มต้นเพียง 2,999 บาท
โบท็อกริ้วรอย 2,999.- ลดเรือนริ้วรอยบริเวณตีนกา หว่างคิ้ว หน้าผาก และติดตามดูแลผล พร้อมฉีดสลายไขมัน 1 เข้ม และฉีดหน้าใส 1 เข้ม
โบท็อก 100 น 4,999.- เหมาริ้วรอยทั่วหน้า ทั้งหน้าผาก หว่างคิ้ว ตีนกา ลิฟกรอบหน้าและกราม พร้อมฉีดสลายไขมัน 3 เข็ม และฉีดหน้าใส 3 เข็ม
6.ฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มริ้วรอย
การฉีดฟิลเลอร์ เป็นวิธีที่เหมาะกับริ้วรอยที่เป็นร่องลึก เนื่องจากฟิลเลอร์จะเข้าไปเติมเต็มร่องลึกต่าง ๆ ให้ดูตื้นขึ้น ทั้งริ้วรอยร่องแก้ม ร่องมุมปาก หรือร่องใต้ตา
วิธีป้องกันการเกิดริ้วรอยบนใบหน้าด้วยตัวเอง
- หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้โครงสร้างผิวอ่อนแอ: เช่น การพักผ่อนไม่เพียงพอ การเกิดความเครียดสะสม การสูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: โดยเฉพาะผักและผลไม้ ที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ บี ซี อี และสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อช่วยฟื้นฟูการทำงานของเซลล์ผิว และกระบวนการผลิตคอลลาเจนในร่างกาย ทำให้ผิวดูสดใส ชุ่มชื้น และสามารถชะลอการเกิดริ้วรอยได้
- ทานวิตามินและคอลลาเจนเสริม: การทานวิตามินและคอลลาเจนเสริม มีส่วนช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับกระบวนการผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินในร่างกาย พร้อมฟื้นฟูและปกป้องผิวไม่ให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้า นอกจากนี้ยังทำให้คุณมั่นใจได้ว่า ร่างกายของคุณได้รับสารอาหารในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายอีกด้วย
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ: ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพราะน้ำเป็นส่วนประกอบหลักของร่างกาย ที่สามารถช่วยบำรุงผิว และฟื้นฟูการทำงานของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมเติมความชุ่มชื้นให้ผิวไม่แห้งกร้าน และไม่ก่อให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย ๆ
Q&A: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับริ้วรอยบนใบหน้า
Q: การแต่งหน้าบ่อย ๆ ทำให้มีริ้วรอยบนใบหน้าก่อนวัยจริงหรือไม่?
A: การแต่งหน้าไม่ใช่สาเหตุโดยตรงของการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า แต่อาจเกิดจากการแพ้ หรือขั้นตอนการล้างเครื่องสำอางที่รุนแรง หรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว ทำให้ผิวหน้าแห้ง และเกิดริ้วรอยบนใบหน้าขึ้น
Q: ล้างหน้าบ่อย ๆ ทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าหรือไม่?
A: การล้างหน้าบ่อย ๆ ไม่ได้ทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้า แต่ทางที่ดีก็ไม่ควรล้างหน้าเกิน2 ครั้งต่อวัน เพื่อไม่ให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น และสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิวได้อย่างพอดี นอกจากนี้ เช่นเดียวกับที่เราได้กล่าวไปข้างต้นคือ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่เหมาะสภาพผิว และไม่ควรถูหรือเช็ดหน้าแรง ๆ หลังจากล้างหน้าเสร็จ
Add Line เพื่อนัดหมาย หรือรับคำปรึกษาจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
สำหรับคนที่ยังไม่เจอกับปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า ก็อย่าลืมให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเอง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยขึ้นในอนาคต หรือหากคุณกำลังเจอกับปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าที่เป็นริ้วรอยตื้น ๆ ก็ควรจะรีบดูแลและรักษาในทันที เพื่อป้องกันไม่ให้พัฒนาจนกลายเป็นริ้วรอยร่องลึก
สำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึก ก็ควรจะไปปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิว และความตื้น-ลึกของริ้วรอยที่เป็นอยู่ หรือจะเข้ามาให้ Atita Clinic ดูแลและแนะนำก็ได้เช่นกัน สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อเพื่อนัดหมายได้ที่ เบอร์โทร 094-324-4442 หรือแอดไลน์เพื่อเข้าไปสอบถามข้อมูลและพูดคุยกับเราได้เลย!