Ulthera กับ Thermage นวัตกรรมระดับ World Standard ที่ช่วยกระชับผิว คืนความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้า ซึ่ง Ulthera และ Thermage จะเป็นการยกกระชับผิวหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด ทำให้เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะไม่ต้องพักฟื้น และไม่มีรอยแผลเกิดขึ้น แต่แม้ว่าจะมีการทำงานที่คล้ายคลึงกันเท่าไหร่ Ulthera กับ Thermage ก็มีความแตกต่างที่ทำให้หลายคนอาจจะเกิดความสับสน และไม่แน่ใจว่า จะเลือกวิธีไหนในการยกกระชับผิวหน้าดี
ในบทความนี้ Atita Clinic จะมาให้ข้อมูลที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์เกี่ยวกับการทำ Ulthera และ Thermage ให้คุณได้ทราบกัน ใครกำลังลังเลว่าจะเลือกวิธีไหนในการยกกระชับผิวหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ดี ต้องติดตามต่อให้จบ
Ulthera กับ Thermage ต่างกันอย่างไร?
Table of Contents
Ulthera กับ Thermage เป็นวิธียกกระชับผิวที่เน้นกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ให้ผิวกระชับและดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น ซึ่งสิ่งที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดของทั้ง 2 วิธีก็คือ หลักการทำงาน ดังนี้
หลักการทำงานของ Ulthera (คืออะไร ช่วยอะไร มีหลักการทำงานอย่างไร)
Ulthera หรือ Ultherapy เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ความถี่สูงที่ส่งพลังงานลึกลงไปถึงผิวชั้นเดียวกับที่ใช้ผ่าตัดยกกระชับใบหน้า (SMAS – Superficial Muscular Aponeuronic System) เป็นจุดเล็ก ๆ เรียงต่อกัน ทำให้สามารถกำหนดแนวยกกระชับได้อย่างแม่นยำ และสามารถกระตุ้นผิวที่หย่อนคล้อยให้เกิดการหดตัว รวมถึงกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ทำให้ผิวหน้ามีความกระชับ เรียบเนียน และสามารถลดเลือนริ้วรอยได้ โดยจะใช้เวลาในการทำประมาณ 30-45 นาที ขึ้นอยู่กับจำนวนช็อตที่ใช้
หลักการทำงานของ Thermage (คืออะไร ช่วยอะไร มีหลักการทำงานอย่างไร)
Thermage เป็นวิธีที่ใช้การปล่อยคลื่นวิทยุ (Radiofrequency) เข้าไปยังบริเวณที่ต้องการลึกถึงชั้นหนังแท้ ซึ่งหลักการทำงานของ Thermage จะเน้นการทำงานจากผิวหนังด้านในแต่ไม่ลึกเท่า Ulthera เพื่อให้ส่งผลออกมาด้านนอก โดยจะเป็นคลื่นที่กระจายวงกว้าง และค่อย ๆ จางลงเรื่อย ๆ การทำ Thermage จึงเหมาะกับการลดปัญหาบริเวณพื้นผิวมากกว่า และใช้เวลาในการทำประมาณ 2-3 ชั่วโมง เนื่องจากมีจำนวนช็อตที่กำหนดไว้ชัดเจนตั้งแต่แรก
Ulthera กับ Thermage เหมาะกับใคร
เมื่อได้ทราบความแตกต่างของเทคโนโลยีและการทำงานไปแล้ว หลายคนก็คงจะสงสัยว่า แล้ว Ulthera กับ Thermage เหมาะกับใคร ไปดูกันต่อเลย
ใครเหมาะกับการทำ Ulthera
คลื่นอัลตร้าซาวด์ของ Ulthera ที่ยิงลึกลงไปถึงผิวหนังชั้นเดียวกับที่ใช้ในการผ่าตัดยกกระชับใบหน้า ซึ่งจะทำให้สามารถแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้ถึงโครงสร้างภายใน เหมาะกับผู้ที่มีผิวบางถึงปานกลาง และมีไขมันน้อย เพื่อให้คลื่นอัลตราซาวด์สามารถสร้างความร้อน และกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ใครเหมาะกับการทำ Thermage
คลื่นวิทยุที่ใช้ในการทำ Thermage จะมีการกระจายตัวเป็นก้อน ๆ และสามารถส่งความร้อนลงไปได้ประมาณ 3.0 มิลลิเมตรเท่านั้น ทำให้เหมาะกับการลดปัญหาบริเวณชั้นผิวหนังแท้ เช่น กระชับรูขุมขน ริ้วรอยตื้น ๆ รอยสิว ตีนกา เป็นต้น นอกจากนี้ Thermage ยังมีจุดเด่นในเรื่องของการสลายไขมันหรือเซลลูไลท์ (Cellulite) ได้เป็นอย่างดี เหมาะกับผู้ที่มีผิวหนา ผิวมัน และมีไขมันเยอะ
Ulthera กับ Thermage ทำส่วนไหนได้บ้าง?
อย่างที่เราได้กล่าวไปข้างต้นว่า Ulthera จะสามารถแก้ปัญหาได้ลึกถึงโครงสร้างภายใน ซึ่งบริเวณที่สามารถทำ Ulthera ได้มีดังนี้
- รอบใบหน้า
- รอบดวงตา ยกคิ้ว ลดร้อยเหี่ยวย่น
- ยกกระชับใต้คาง (เหนียง) และลำคอ
- หน้าอกด้านบน
- ท้องแขน
- หน้าท้อง
ในส่วนของ Thermage จะสามารถแก้ปัญหาได้เพียงบริเวณพื้นผิวที่ไม่ลึกมาก และเหมาะกับผู้ที่มีผิวหนา ผิวมัน และไขมันเยอะ โดยบริเวณที่สามารถทำได้มีดังนี้
- ลดตีนกา และริ้วรอยบริเวณรอบดวงตา
- ลดเรือนริ้วรอยตื้น ๆ บนผิวหนัง
- สลายไขมันหรือเซลลูไลท์ (Cellulite)
- หน้าอกด้านบน
- ท้องแขน
- หน้าท้อง
ทำ Ulthera กับ Thermage อันไหนเจ็บกว่ากัน?
ขณะทำทั้ง Ulthera และ Thermage จะมีความรู้สึกร้อนข้างในผิวเป็นจุด ๆ คล้ายกับโดนเข็มทิ่ม ซึ่งความเจ็บจะขึ้นอยู่กับอุณหภูมิที่ใช้ในการทำ โดยปกติแล้วจะใช้อุณหภูมิประมาณ 60 องศา ในระหว่างทำหากคนไข้กังวลเรื่องความเจ็บก็สามารถขอแปะยาชาเฉพาะที่ หรือขอลดกำลังเครื่องลงระหว่างทำได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม Ulthera กับ Thermage จะไม่ทำให้เกิดแผลบริเวณผิวชั้นนอกแต่อย่างใด และเมื่อทำเสร็จก็ไม่ต้องพักฟื้น ถือเป็นวิธีกระชับผิวหน้าที่รวดเร็ว ปลอดภัย และเจ็บน้อยเมื่อเทียบกับวิธีอื่น ๆ เช่น ร้อยไหม ผ่าตัดยกกระชับ เป็นต้น
ทำ Ulthera กับ Thermage กี่วันเห็นผล?
ผลลัพธ์จากการทำ Ulthera มักจะเห็นผลหลังจากครั้งแรกที่ทำประมาณ 30% ซึ่งในขณะนั้นร่างกายจะสร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนขึ้นภายใน 2-3 เดือน และผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง และกระบวนการผลิตคอลลาเจนในร่างกาย
ในส่วนผลลัพธ์จากการทำ Thermage จะสามารถเห็นผลได้หลังทำประมาณ 20% และจะเห็นผลเต็มที่ภายใน 2-3 เดือน ซึ่งผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองและการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละคน
ทำ Ulthera กับ Thermage ราคาเท่าไร?
ในส่วนของ Ulthera จะมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 20,000 บาท 200 ช็อต ไปจนถึง 100,000 บาท 1,000 ช็อต ซึ่งคนไข้ควรจะเข้าไปให้แพทย์ประเมินปัญหาและสภาพผิวก่อนทำทุกครั้ง เพื่อให้แพทย์ประเมินจำนวนช็อตที่เหมาะสม ส่วน Thermage จะมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 35,000 บาท ไปจนถึง 80,000 บาท ซึ่งราคาจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อเครื่องที่เลือกใช้ และบริการอื่นที่คนไข้ใช้บริการเพิ่มเติม รวมถึงโปรโมชันของแต่ละคลินิกด้วยเช่นกัน
Add Line เพื่อนัดหมาย หรือรับคำปรึกษาจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลของ Ulthera กับ Thermage ที่ Atita Clinic รวบรวมมาให้ สำหรับคนที่ต้องการยกกระชับใบหน้าก็อย่าลืมนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ในการพิจารณาก่อนเสมอ และเลือกวิธียกกระชับใบหน้าที่เหมาะสมกับปัญหาหรือสภาพผิวของตัวเอง เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หากคุณยังไม่แน่ใจว่า จะเลือก Ulthera หรือ Thermage ดี ก็สามารถเข้ามาให้ Atita Clinic ดูแล และประเมินปัญหาหรือสภาพผิวโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้เลย!