ขอบตาดำ ปัญหาผิวที่ไม่ร้ายแรง แต่สร้างความกังวลให้ใครหลายคนไม่น้อย เพราะทำให้ใบหน้าโดยรวมแลดูโทรม ไม่สดใส แถมยังอาจต้องเสียเวลาแต่งหน้า ลงเมคอัพหนา ๆ บริเวณใต้ตาเพื่อกลบความหมองคล้ำนี้อีกด้วย ซึ่งปัญหาขอบตาดำสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกเพศทุกวัย และสามารถบรรเทาอาการให้ดีขึ้นได้ด้วยตนเอง หรือจะปรึกษาแพทย์ด้านความงามเพื่อการรักษาที่ตรงจุดมากที่สุดก็ได้
ในบทความนี้ Atita Clinic จะพาไปทำความเข้าใจ ขอบตาดําเกิดจากอะไร และมีวิธีแก้ปัญหาอย่างไรบ้าง
Table of Contents
ปัจจัยใดที่ส่งผลทำให้ขอบตาดำ
ขอบตาดําเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน ทั้งพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันก็ดี หรือโรคภัยไข้เจ็บ ภาวะทางสุขภาพต่าง ๆ ก็ดี ไม่ว่าจะเป็น
- อายุที่เพิ่มขึ้น และปริมาณคอลลาเจนใต้ชั้นผิวลดลง ทำให้ผิวใต้ตาที่เคยตึงกระชับเริ่มหย่อนคล้อย และกลายเป็นถุงใต้ตา ตกกระทบเป็นเงาคล้ำใต้ตาในที่สุด บวกกับผิวเริ่มบาง ทำให้เห็นเส้นเลือดใต้ตาชัดขึ้น ก็ทำให้ดูขอบตาดำตามไปด้วยนั่นเอง
- ภาวะเครียด และพักผ่อนน้อย การพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลให้ผิวบริเวณใต้ตาบาง ลึกเป็นหลุมบ่อจนเห็นเป็นรอยคล้ำใต้ตาชัดเจน
- อาการจากโรคภูมิแพ้ ซึ่งจะส่งผลให้เส้นเลือดบริเวณจมูกและใต้ตาเกิดอาการขยายตัว เลือดไหลเวียนไม่สะดวก และเห็นเป็นรอยคล้ำ ขอบตาดำในที่สุด
- ภาวะตั้งครรภ์ ที่เส้นเลือดใต้ตาจะขยายตัวเนื่องจากปริมาณฮอร์โมนในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง
- แสงแดด เนื่องจากรังสียูวี หรือสารอนุมูลอิสระส่งผลให้ผิวบาง ขณะเดียวกันก็มีส่วนไปกระตุ้นการผลิตเม็ดสีในชั้นผิวให้มากผิดปกติยิ่งขึ้น ทำให้ขอบตาดำคล้ำขึ้น
- การสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์ ส่งผลให้เส้นเลือดใต้ผิวหนังบริเวณใต้ดวงตาขยายตัว
- ภาวะขาดน้ำ ส่งผลให้ผิวขาดความชุ่มชื่น มีความคล้ำโทรมและขาดความสดใส
7 วิธีแก้ปัญหาขอบตาดำ
ปัญหาขอบตาดำนั้นไม่ได้ส่งผลอันตรายต่อร่างกายแต่อย่างใด เพียงแต่อาจทำให้เราสูญเสียความมั่นใจ เพราะใบหน้าโดยรวมแลดูโทรมไม่สดใสได้ ซึ่งสามารถแก้ปัญหาขอบตาดำได้ ดังนี้
1. ลดความเครียด
ความเครียดส่งผลเสียต่อสุขภาพมากมายหลายอย่าง โดยเฉพาะการพักผ่อนนอนหลับ ซึ่งยิ่งเครียดมากเท่าไหร่ ก็อาจทำให้มีปัญหาในการนอนหลับมากเท่านั้น และส่งผลให้ผิวใต้ตาที่เคยสดใสเต่งตึงกลายเป็นคล้ำโทรมลึกโหลได้ ฉะนั้นถ้าต้องการบรรเทาอาการขอบตาดำ ควรเริ่มจากการจัดการความเครียด และพักผ่อนให้เพียงพอก่อนเป็นอันดับแรก
2. หลีกเลี่ยงแสงแดด
แสงแดดนั้นเต็มไปด้วยรังสียูวี และสารอนุมูลอิสระที่ส่งผลเสียต่อร่างกายและผิวพรรณ หากผิวบริเวณใต้ตาที่มีความบางอยู่แล้วสัมผัสแดดโดนตรงมากเกินไป อาจทำให้ผิวบริเวณนั้นบาง และก่อให้เกิดการสร้างเม็ดสีที่มากผิดปกติได้ ฉะนั้นควรหมั่นทาครีมกันแดดบริเวณใต้ตาด้วย หรือหากจำเป็นต้องออกแดด ควรใส่แว่นตากันแดด และหมวกปีกกว้างให้เรียบร้อย
3. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
การดื่มน้ำให้เพียงพอไม่เพียงแต่จะช่วยให้สุขภาพร่างกายดีเท่านั้น ยังส่งผลดีต่อสุขภาพผิวพรรณอีกด้วย โดยเฉพาะผิวใต้ตาที่จะมีความอิ่มฟู กระจ่างใส สามารถลดเลือนรอยดำคล้ำใต้ตาได้
4. เลิกดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
เพราะสารเคมีในบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นอันตรายต่อสุขภาพร่างกายและผิวพรรณของเราอย่างมาก หากต้องการลดเลือนใต้ตาดำ หรือแก้ปัญหาขอบตาดำล่ะก็ ควรลด ละ เลิกดื่มแอลกอฮอล์และไม่สูบบุหรี่ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผิวบริเวณใต้ตาบาง และเส้นเลือดใต้ผิวขยายตัวจนเห็นเป็นรอยดำคล้ำใต้ตา
5. บำรุงรอบดวงตาด้วยการมาสก์ตา
การมาสก์ตาเป็นวิธีที่ช่วยฟื้นฟูผิวรอบดวงตาได้ดี เนื่องจากมาสก์ตาส่วนใหญ่มีส่วนผสมที่ช่วยให้ความชุ่มชื้น เช่น กรดไฮยาลูรอนิก วิตามินซี หรือคอลลาเจน ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดรอยคล้ำและลดอาการบวมใต้ตา ควรมาสก์ตาเป็นประจำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อฟื้นฟูผิวรอบดวงตาให้กลับมาดูกระจ่างใสขึ้น นอกจากนี้ การมาสก์ตายังช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ช่วยลดความเครียดที่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งของขอบตาดำคล้ำได้อีกด้วย
6. ใช้แผ่นเจลเย็นปิดตา
แผ่นเจลเย็นสำหรับปิดตาเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดรอยคล้ำใต้ตาได้อย่างรวดเร็ว ความเย็นของแผ่นเจลจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดรอบดวงตา ทำให้อาการบวมลดลง และช่วยให้รอยคล้ำจางลงไปด้วย การใช้แผ่นเจลเย็นแปะตาควรทำหลังจากตื่นนอนหรือเมื่อต้องการลดความเหนื่อยล้าจากการใช้สายตานาน ๆ เพื่อช่วยฟื้นฟูผิวรอบดวงตาให้สดชื่นมากขึ้น
7. รักษาด้วยวิธีทางการแพทย์
นอกเหนือไปจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน และดูแลตัวเองตามคำแนะนำข้างต้นแล้ว หากอาการขอบตาดำ ใต้ตาดำคล้ำนั้นยังไม่ดีขึ้น ควรเข้ารับการปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและแนวทางการรักษาที่ถูกจุดมากที่สุด เช่น
- รักษาโรคที่มีส่วนทำให้ขอบตาดำคล้ำ เช่น โรคภูมิแพ้ โรคไซนัสอักเสบ
- ใช้ยาที่มีคุณสมบัติเป็น Whitening เพิ่มความกระจ่างใสให้ผิวใต้ตา
- ใช้เลเซอร์เพื่อลดปริมาณเม็ดสีผิวบริเวณใต้ตา
- ศัลยกรรมผ่าตัดถุงใต้ตา เพื่อลดรอยเงาตกกระทบใต้ตาทำให้ขอบตาแลดูดำคล้ำ
- ฉีดสารเติมเต็ม เช่น กลุ่ม HA หรือฟิลเลอร์ เพื่อลดเงาตกกระทบใต้ตา และฟื้นบำรุงผิวใต้ตาให้อิ่มฟูสุขภาพดี
จบปัญหาขอบตาดำ ได้ที่ Atita Clinic
บอกลาปัญหาขอบตาดำ สาเหตุที่ทำให้ใบหน้าดูโทรมไม่สดใส ด้วยโปรแกรมความงามที่ Atita Clinic ไม่ว่าจะเป็น
- โปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตา หรือฉีดฟิลเลอร์สารเติมเต็มประเภท HA เพื่อเติมเต็มผิวใต้ตาให้อิ่มฟู และลดรอยคล้ำใต้ตา มอบผลลัพธ์ยาวนานสูงสุด 12-18 เดือนเลยทีเดียว
- โปรแกรมฉีดไหมน้ำ เช่น ไหมน้ำ NANO LIFT, ไหมน้ำ Gouri และ ไหมน้ำ Sculptra สารเติมเต็มอีกหนึ่งประเภทที่สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทำให้ขอบตาดำ หรือรอยหมองคล้ำใต้ตาแลดูจางลง ทั้งยังช่วยให้ผิวบริเวณรอบดวงตาแลดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้นอีกด้วย
- โปรแกรมเติมไขมันหน้าเด็ก ที่ไม่เพียงแต่จะช่วยเติมเต็มใบหน้าให้ดูละมุนอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้นแล้ว ยังสามารถช่วยให้ใต้ตาแลดูอิ่มฟู ตื้นขึ้น รอยหมองคล้ำลดลงได้เช่นกัน
สรุปบทความ
ขอบตาดําเกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันก็ดี หรือโรคภัยไข้เจ็บอย่างภูมิแพ้ก็ดี สามารถรักษาและบรรเทาให้อาการดีขึ้นได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต และเข้ารับการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินถึงสาเหตุและออกแบบการรักษาขอบตาดำให้ตรงจุดมากที่สุด ซึ่งใครที่กำลังเผชิญกับปัญหาขอบตาดำ ใบหน้าแลดูโทรมไม่สดใสอยู่ ก็สามารถเข้ามาปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือสอบถามโปรโมชันฟิลเลอร์ ข้อมูลบริการรักษาขอบตาดำอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ฟรีที่ อทิตาคลินิก