ปัญหาคางสั้น เป็นหนึ่งในปัญหากวนใจของทุกเพศ โดยเฉพาะผู้หญิง เนื่องจากลักษณะของคางที่สั้นนั้น ส่งผลให้ใบหน้าดูไม่เรียวยาว ใบหน้าดูสั้น บางคนใบหน้าเป็นดูเป็นทรงสี่เหลี่ยม ทำให้หลายคนขาดความมั่นใจในตนเอง รู้สึกกังวลใจ โหงวเฮ้งใบหน้าไม่ดี อยากแก้ไขจุดบกพร่องบนใบหน้า ดังกล่าว ซึ่งนวัตกรรมทางการแพทย์ด้านความงามทุกวันนี้มีเยอะมาก เช่น การเสริมคาง การฉีดฟิลเลอร์ ฯลฯ ทว่าแต่ละวิธีในการปรับแต่งรูปหน้า ต้องอยู่ในดุลพินิจของแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น ผู้เข้ารับการแก้ไขเอง ก็ต้องศึกษาหาความรู้ไปก่อน เพื่อจะได้เข้าใจได้ตรงกันมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีข้อมูลไหนที่น่าสนใจบ้าง สามารถอ่านได้ที่นี่เลย
ปัญหาคางสั้นเกิดจากอะไรได้บ้าง
Table of Contents
ก่อนที่จะเข้าเรื่องสาเหตุที่ทำให้คางสั้น ควรแยกให้ออกก่อนว่าลักษณะของคางที่สั้นเป็นอย่างไร ซึ่งคางที่สั้นจะมีลักษณะสั้นกว่าส่วนอื่น ๆ บนใบหน้า เมื่อลองมองพิจารณาส่วนต่าง ๆ บนใบหน้าแล้ว คางจะเป็นส่วนที่สั้นที่สุด ทำให้ใบหน้าไม่เรียว ดูกลม ดูเหลี่ยม ไม่มีมิติบนใบหน้า โดยสาเหตุของ คางสั้น เกิดจากพันธุกรรมเกี่ยวกับกระดูกกรามหรือกระดูกขากรรไกรนั้นสั้น จึงส่งผลให้กระดูกคางจึงมีลักษณะที่ไม่ยาวจนดูไม่สมดุลกับส่วนอื่นบนใบหน้านั้นเอง
คางสั้นแก้ไขยังไง
แม้ว่าลักษณะของคางที่สั้นจะไม่มีอันตรายต่อสุขภาพ แต่คางสั้นทำให้ขาดความมั่นใจในตนเอง สร้างความวิตกกังวลในเรื่องของโหงวเฮ้งบนใบหน้า เพราะว่าตำแหน่งคางเป็นตำแหน่งของครอบครัว คนรัก ตามความเชื่อ หากคางไม่ได้สัดส่วนตามตำราจะส่งผลให้ครอบครัวและความรักมีปัญหาได้ ดังนั้นหลายคนจึงมองหาวิธีการแก้ไข ซึ่งทุกวันนี้ก็มีหลากหลายวิธีมากที่ปั้นคางเรียวยาว ให้ใบหน้าสวยมีมิติได้ แต่แพทย์ส่วนใหญ่แนะนำเพียง 2 วิธี ได้แก่ การเสริมคาง และการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งมีรายละเอียดต่อไปนี้
ศัลยกรรมเสริมคาง
การศัลยกรรมเสริมคางเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน มองไปแล้วเห็นเป็นมิติที่สวยงาม ด้วยวิธีการผ่าตัดเพื่อนำซิลิโคนใส่เข้าไปบริเวณคาง ทำให้จากคางสั้นกลายเป็นเรียวยาวได้ตามความต้องการ ทว่าทุกอย่างแพทย์จะเป็นผู้ประเมินเอง แล้วหากต้องการเปลี่ยนขนาดความยาวของคางหรือต้องการเพิ่มมิติใบหน้าให้ดูดีขึ้น ก็สามารถถอดแล้วเสริมใหม่ได้เช่นกัน โดยการผ่าตัดเสริมคาง จะมี 2 รูปแบบ
- การผ่าตัดเสริมคางแบบแผลนอก แพทย์จะเปิดแผลจากด้านนอก เพื่อนำซิลิโคนใส่เข้าไป ซึ่งข้อดีของการเสริมแบบแผลนอก คือ สามารถทานอาหารได้ตามปกติ วางตำแหน่งของซิลิโคนได้ตรงจุดมากขึ้น แต่ข้อจำกัด คือ มีโอกาสเกิดเป็นแผลเป็นหรือแผลติดเชื้อ หากดูแลความสะอาดของแผลไม่ดีพอ
- การผ่าตัดเสริมคางแบบแผลใน แพทย์จะเปิดแผลบริเวณซอกเหงือกและริมฝีปากด้านล่าง ขนาดแผลไม่เกิน 2 เซนติเมตรแล้วใส่ซิลิโคนเข้าไป ก่อนที่จะเย็บปิดปากแผล ซึ่งข้อดีของการเสริมแผลใน คือ จะไม่เห็นรอยการผ่าตัด ไม่มีแผลเป็นใด ๆ ข้อจำกัด คือ ต้องล้างแผลบ่อย ต้องดูแลความสะอาดมากขึ้น มีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากกว่าวิธีการผ่าตัดเสริมคางแบบแผลนอก
ฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์แก้ปัญหาคางสั้น เป็นอีกหนึ่งทางเลือกยอดนิยมในปัจจุบัน สำหรับบุคคลที่ไม่ต้องการผ่าตัดศัลยกรรม ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ โดยสามารถใช้ฟิลเลอร์ซึ่งเป็นสารเหลวชนิดหนึ่งที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย สามารถสลายเองได้ หากเป็นฟิลเลอร์แท้ที่มีมาตรฐาน ซึ่งการรักษาปรับรูปคาง แพทย์จะประเมินก่อนว่าจะต้องใช้ฟิลเลอร์จำนวนกี่ซีซี เพื่อให้ได้สัดส่วนของใบหน้าที่ดีเป็นไปตามความต้องการของผู้เข้ารับการแก้ไข เมื่อได้จำนวนซีซีแล้ว แพทย์จะฉีดฟิลเลอร์เข้าไปบริเวณปลายคาง แล้วปั้นแต่งทรงที่เข้ากับรูปหน้า
ทว่าการฉีดฟิลเลอร์ ไม่ได้มีอายุการใช้งานนานมากเหมือนการเสริมคาง เพราะฟิลเลอร์สามารถสลายเองได้ หลังฉีดไปแล้ว 12-18 เดือน เมื่อระยะเวลาผ่านไปขนาดความยาวของคางจะค่อย ๆ ลดลง ทำให้กลับมาคางสั้นเหมือนเดิมได้ ต้องใช้การฉีดซ้ำ ถือเป็นข้อจำกัดของการเสริมคางด้วยวิธีการฉีดฟิลเลอร์ แต่หากต้องการให้ฟิลเลอร์อยู่กับเราได้ยาวนานที่สุด จะมีข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์เพื่อให้มีประสิทธิภาพดีที่สุด มี 6 ข้อ ดังนี้
- ดื่มน้ำเปล่าสะอาดให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย อย่างน้อย 1.5 ลิตร เพื่อให้ฟิลลเลอร์ออกฤทธิ์ได้ดีหลังฉีด
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดและควรทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน จะช่วยชะลอการสลายตัวของฟิลเลอร์ได้
- ไม่ควรบีบ คลึง นวดบริเวณที่ได้รับการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อป้องกันฟิลเลอร์ไหลไปในจุดที่เราไม่ต้องการ ซึ่งอาจทำให้ไม่ได้รูปทรงที่สวยงามได้
- งดออกกำลังกายช่วง 2 วันแรก หลังจากที่ฉีดฟิลเลอร์คางมา
- ไม่เข้ารับการเลเซอร์หรือกระทำการต่าง ๆ ที่เกิดความร้อนบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
- งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 วัน เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพมากที่สุด
เสริมคางเหมาะกับใครบ้าง
การทำศัลยกรรมเสริมคาง เป็นวิธีแพทย์ไม่ได้บังคับให้ผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาคางสั้น ต้องแก้ปัญหานี้ด้วยการทำศัลยกรรมเสริมคางทุกคน ทว่าเลือกแนะนำตามความเหมาะสมของปัญหาที่แต่ละบุคคลต้องการเข้ารับการแก้ไข โดยบุคคลที่เหมาะสมกับการเสริมคาง ได้แก่ ทุกคน ทุกเพศ สามารถทำหัตถการนี้ได้ เมื่อมีลักษณะของคางสั้น ใบหน้าไม่ได้สัดส่วนและอยากมีใบหน้าเรียวที่อยู่ได้ระยะยาว ประกอบกับมีความต้องการเสริมคางให้ยาวขึ้นมากกว่า 1 เซนติเมตร ซึ่งลักษณะดังกล่าวนี้จะไม่เหมาะกับการแก้ปัญหาคางสั้นด้วยการฉีดฟิลเลอร์ การเสริมคางใช้ซิลิโคนจึงเป็นวิธีหลักที่เหมาะสมที่สุด บุคคลที่จะเข้ารับการแก้ไขปัญหาคางสั้น ควรทราบด้วยว่าซิลิโคนเสริมคางนั้นมี 2 แบบแต่ละแบบเหมาะสมกับลักษณะคางที่สั้นแตกต่างกัน ดังนี้
- ซิลิโคนขาสั้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขส่วนปลายของคางให้ยาวขึ้นเท่านั้น ซึ่งซิลิโคนขาสั้นจะมีลักษณะเล็กมาก เพราะต้องสวมใส่ตรงปลายคางนั้นเอง
- ซิลิโคนขายาว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขส่วนคางทั้งหมด เป็นบุคคลที่มีลักษณะคางสั้นมาก ๆ ซึ่งซิลิโคนขายาวจะอยู่ในองศาเดียวกับขอบหน้าพอดี ทำให้สวมใส่ไปแล้ว คางยาวขึ้นจริง และไม่เกิดรอยต่อของซิลิโคน
สรุปเกี่ยวกับวิธีแก้ไขคางสั้น
คางสั้นเกิดจากกรรมพันธุ์ที่มีกระดูกกราม หรือกระดูกขากรรไกรสั้นเกินไป ทำให้ใบหน้าไม่ได้สัดส่วน ซึ่งไม่ได้มีผลอันตรายต่อสุขภาพร่างกายแต่มีผลกระทบต่อจิตใจ ทำให้กังวลใจในหลาย ๆ เรื่องเกี่ยวกับบุคลิกภาพของตนเอง ซึ่งวิธีการแก้ไขจุดบกพร่องดังกล่าว แพทย์นิยมใช้การศัลยกรรมเสริมคางโดยการผ่าตัดนำซิลิโคนใส่ลงไปหรือการฉีดฟิลเลอร์หรือฉีดสารเหลวเข้าไป เพื่อปั้นให้คางได้รูปและขนาดที่ต้องการ โดยจะเลือกตามความเหมาะสมของรูปทรงคางที่ผู้รับหัตถการต้องการ ซึ่งทั้งสองวิธีสามารถแก้ไขปัญหาคางที่สั้นได้ แต่ควรเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญมาก ๆ เพื่อความสวยที่สมบูรณ์แบบที่สุด และหากคุณกำลังมีปัญหากังวลใจในเรื่องคางสั้นอยู่นั้นสามารถดูรีวิวศัลยกรรมคาง และรีวิวฉีดฟิลเลอร์คางก่อนได้ เพราะที่อทิตาคลินิกมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมปั้นรูปค้างให้คุณได้อย่างสวยงามและปลอดภัย สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ฟรีที่ โทร. 087-1329996