หนังตาหย่อน หรือหนังตาตก เป็นภาวะที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุทั้งการถ่ายทอดทางพันธุกรรม มีผิวหนัง หรือไขมันส่วนเกินเยอะบริเวณเปลือกตา หรือเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต แม้จะไม่เจ็บปวดแต่อาจส่งผลต่อการมองเห็น ทำให้หน้าตาดูไม่สดใส ซึ่งอาจสูญเสียความมั่นใจหรือเสียบุคลิกได้ ในบทความนี้จึงจะพาไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาหนังตาหย่อน วิธีแก้ปัญหา ที่จะเปลี่ยนให้คุณมีดวงตาที่สดใสมั่นใจกว่าเดิม
Table of Contents
นังตาตกคืออะไร
หนังตาตกคือภาวะที่ผิวหนังบริเวณเปลือกตาบนหย่อนคล้อยลงมามากกว่าปกติ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น อายุที่เพิ่มขึ้น การเสื่อมสภาพของกล้ามเนื้อรอบดวงตา หรือพันธุกรรม ภาวะนี้สามารถส่งผลต่อความสวยงามของใบหน้า ทำให้ดวงตาดูเหนื่อยล้า ไม่สดใส รวมถึงอาจกระทบต่อการมองเห็นหากหนังตาตกลงมามากเกินไป โดยเฉพาะในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงร่วมด้วย
หนังตาตก มีลักษณะอย่างไร?
หนังตาหย่อนมีลักษณะอย่างไร?
หนังตาตกมีลักษณะที่หนังตาหรือเปลือกตาหย่อนลงมาต่ำกว่าปกติ โดยแบ่งออกตาเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่
1. ผิวหนังที่เปลือกตาหย่อน (Dermatochalasis)
เป็นลักษณะของเปลือกตาหย่อนคล้อยลงมามากกว่าปกติ แต่ขอบเปลือกตายังอยู่ในตำแหน่งเดิม ทำให้บดบังการมองเห็น ซึ่งจะพบได้ทั้งในคนอายุน้อยและผู้สูงอายุ โดยคนที่อายุน้อย อาจเกิดจากการมีไขมันบริเวณเปลือกตาหนา หรือขยี้ตาบ่อย ๆ ส่วนคนสูงอายุ เกิดจากโครงสร้างผิวเปลือกตามีความแข็งแรงลดลง ทำให้หนังตาหย่อนคล้อย โดยจะสะสมขึ้นเรื่อย ๆ ตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น
2. หนังตาหย่อนร่วมกับกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Ptosis)
เป็นลักษณะของเปลือกตาหย่อนคล้อยและขอบเปลือกตาลงมาบังลูกตา ซึ่งเกิดจากภาวะกล้ามเนื้อเปลือกตาอ่อนแรง กล้ามเนื้อยกเปลือกตาทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้ขอบตาปิดตาดำมากกว่าปกติ ดูเหมือนคนง่วงนอนตลอดเวลา
ทำไมหนังตาหย่อน หนังตาตก?
หนังตาหย่อน หนังตาตก เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ ดังนี้
1. พันธุกรรม
หนังตาหย่อนตั้งแต่กำเนิดส่วนใหญ่เกิดจากกล้ามเนื้อยกเปลือกตาทำงานผิดปกติ มีการดึงรั้งของกล้ามเนื้อส่วนน้อยตั้งแต่เกิด อาจเกิดจากความผิดปกติของเส้นประสาท หรือเป็นภาวะที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม ส่งผลต่อการมองเห็นของเด็กและแก้ไขได้ยากเมื่อโตขึ้น
2. อายุที่เพิ่มขึ้น
ผิวหนังจะเกิดความหย่อนคล้ายตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ผิวหนังบริเวณเปลือกตายืดหย่อนห้อยลงมา หากปล่อยไว้นาน ๆ ก็มีโอกาสที่จะรบกวนการมองเห็นได้ ทำให้ต้องพยายามเลิกคิ้วให้สูงหรือเลิกหน้าผาก เพื่อดึงเปลือกตาให้ยกขึ้น ส่งผลให้เกิดปัญหาริ้วรอยบนหน้าผาก หน้าผากเหี่ยวย่นตามมา
3. กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
กล้ามเนื้ออ่อนแรงมีทั้งชนิดที่เป็นมาตั้งแต่กำเนิด และเกิดขึ้นภายหลัง โดยเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ เช่น อุบัติเหตุบริเวณเปลือกตา เปลือกตาอักเสบ ทำให้กล้ามเนื้อยกเปลือกตาไม่สามารถออกแรงได้เต็มที่ หนังตาจึงหย่อนปิดทับตาดำมากกว่าปกติ ตาเศร้า ไม่สดใส
4. พฤติกรรมการใช้ชีวิต
การมีพฤติกรรมที่ส่งผลต่อผิวรอบดวงตา เช่น การขยี้ตาบ่อย การใส่คอนแทคเลนส์ การติดสติกเกอร์ตาเป็นเวลานาน เป็นต้น ล้วนส่งผลให้ผิวรอบดวงตา เปลือกตา และกล้ามเนื้อตาต้องทำงานหนักกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการหนังตาหย่อน หนังตาตกได้ง่าย
หนังตาหย่อนส่งผลต่อการใช้ชีวิตอย่างไร?
- บดบังการมองเห็น เพราะหนังตาหย่อนลงมาบดบังดวงตา ทำให้มองเห็นได้ไม่ชัดเหมือนเดิม
- ขนตาทิ่มตา เนื่องจากหนังตาตกทับขนตา ทำให้ขนตาคดเข้าในดวงตา ส่งผลให้เกิดการระคายเคืองดวงตา น้ำตาไหล กะพริบตาบ่อย ๆ หรือถึงขั้นกระจกตาติดเชื้อได้
- หน้าผากเกิดริ้วรอยก่อนวัย เพราะต้องเลิกคิ้ว เลิกหน้าผาก เพื่อให้มองเห็นภาพชัดเจน จนทำให้หน้าผากเต็มไปด้วยริ้วรอยก่อนวัย
วิธีแก้หนังตาตก
สำหรับปัญหาหนังตาหย่อน วิธีแก้นั้นขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการ หากหนังตาหย่อนไม่เยอะ เปลือกตาไม่หนามาก สามารถแก้ปัญหาด้วยการใช้เทปกาวหรือสติกเกอร์ติดตาสองชั้น เพื่อช่วยลดปัญหาหนังตาหย่อนคล้อยได้ชั่วคราว แต่หากผู้ที่มีปัญหาหนังตาหย่อนระดับรุนแรง จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน สามารถใช้วิธีการทางการแพทย์ เช่น การร้อยไหม และการศัลยกรรมตาสองชั้น
การร้อยไหมแก้หนังตาตก
การร้อยไหมแก้หนังตาตก เป็นการร้อยไหมละลายเข้าไปใต้ชั้นผิว แล้วใช้เหงี่ยงยกเกี่ยวหางตาให้กระชับขึ้น ช่วยประคองโครงเบ้าตาของเราให้สวยงามขึ้น ซึ่งวิธีนี้ไม่ต้องกังวลว่าไหมจะเป็นอันตรายและตกค้างอยู่ใต้ผิว เพราะไหมที่ใช้ได้รับรองความปลอดภัยจะสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา รวมทั้งไหมจะละลายไปตามเวลา 6-8 เดือน จึงไม่ตกค้างอยู่ใต้ผิว
การศัลยกรรมตาสองชั้น
อีกหนึ่งวิธีที่ได้ความนิยมคือการทำตาสองชั้น เป็นการแก้ปัญหน้าหนังหย่อน หนังตาตกแบบถาวร โดยจะเป็นการทำตาสองชั้นร่วมกับการผ่าตัดนำไขมันและหนังส่วนเกินบริเวณตาออก ทำให้เห็นชั้นตาชัดขึ้น ดูเป็นธรรมชาติ แก้ไขปัญหาเปลือกตาหย่อนคล้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีป้องกันหนังตาตก
- ดูแลผิวรอบดวงตา ใช้ครีมหรือเซรั่มบำรุงที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนและอีลาสตินเพื่อลดการหย่อนคล้อย
- ปกป้องดวงตาจากแสงแดด ใส่แว่นกันแดดและใช้ครีมกันแดดรอบดวงตาเพื่อลดการทำลายของรังสี UV
- เลี่ยงการขยี้ตาแรง ๆ การถูหรือขยี้ตาบ่อย ๆ อาจทำให้ผิวรอบดวงตาอ่อนแอและเกิดริ้วรอยได้ง่าย
- นอนหลับให้เพียงพอ การพักผ่อนที่ไม่เพียงพออาจทำให้ผิวรอบดวงตาหมองคล้ำและเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
- ออกกำลังกายกล้ามเนื้อตา ฝึกบริหารกล้ามเนื้อตาด้วยการกระพริบตาแรง ๆ หรือมองขึ้นลงซ้ายขวาเพื่อเสริมความแข็งแรง
- ควบคุมน้ำหนักตัว การลดหรือเพิ่มน้ำหนักอย่างรวดเร็วอาจทำให้ผิวสูญเสียความกระชับและเกิดหนังตาตกได้
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ สารพิษในบุหรี่และแอลกอฮอล์สามารถเร่งการเสื่อมสภาพของผิวหนังได้
- พิจารณาการทำหัตถการ หากหนังตาตกเริ่มมีผลกระทบต่อการมองเห็น อาจพิจารณาใช้วิธีทางการแพทย์ เช่น การร้อยไหม หรือศัลยกรรมแก้ไขหนังตาตก
ปัญหาหนังตาหย่อน หนังตาตก ยังไม่ถือว่าเป็นอันตราย แต่หากปล่อยไว้นาน ๆ ก็ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ ดังนั้นจึงควรสังเกตหนังตาอยู่เสมอ หรือตรวจเช็กสุขภาพตากับจักษุแพทย์เป็นประจำ เพื่อรับมือกับความผิดปกติได้ทันท่วงที และสำหรับผู้ที่สนใจแก้ปัญหาหนังตาหย่อนด้วยวิธีทางการแพทย์ไม่ว่าจะเป็นการร้อยไหม หรือการทำตาสองชั้น Atita Clinic ของเรา ให้บริการโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่จบศัลยกรรมจากประเทศเกาหลีโดยตรง มีความรู้เฉพาะทางเกี่ยวกับเปลือกตาเป็นอย่างดี รวมทั้งเครื่องมือที่ทันสมัยและผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ลดโอกาสเกิดผลแทรกซ้อน และปลอดภัยสำหรับดวงตาของคุณ