Table of Contents
หน้าหมองคล้ำเกิดจากอะไร พร้อมวิธีป้องกัน
เคยสงสัยไหมว่า ทั้ง ๆ ที่เราดูแลตัวเองเป็นอย่างดี นอนพักผ่อนครบ 8 ชั่วโมง ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว บำรุงผิวด้วยสกินแคร์เป็นประจำ แต่ทำไมผิวของเรายังดูหมองคล้ำจนทำให้รู้สึกไม่มั่นใจอยู่ แน่นอนว่าคนที่ดูแลตัวเองดีขนาดนี้ก็คงจะสงสัยว่า แล้วต้นเหตุที่แท้จริงของปัญหาหน้าหมองคล้ำเกิดจากอะไรกันแน่ แล้วต้องดูแลตัวเองด้วยวิธีไหนถึงจะทำให้หน้าสดใสขึ้นมาได้ โดยในวันนี้ Atita Clinic จะมาเล่าต้นเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาหน้าหมองคล้ำให้คุณได้ทราบกัน พร้อมวิธีป้องกันและดูแลผิวหน้าให้ดูสดใส ไม่หมองคล้ำ จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
หน้าหมองคล้ำเกิดจากอะไร
ปัญหาหน้าหมองคล้ำเกิดจากอะไร คำถามที่สาว ๆ มีคนถาม Atita Clinic เข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งสาเหตุที่ทำให้หน้าหมองคล้ำมีปัจจัยหลากหลาย ทั้งที่เราควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ โดยในวันนี้เราได้รวบรวมปัจจัยต่าง ๆ มาให้ แบ่งเป็นปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน
ปัจจัยภายนอก
- แสงแดดและรังสี UV ในแสงแดดมีรังสีอัลตร้าไวโอเลต หรือรังสี UV ที่เข้ามาทำร้ายผิวและทำให้ผิวดูหมองคล้ำเนื่องจากผิวผลิตเม็ดสีเมลานินออกมามากเกินไป โดยภายในรังสี UV จะประกอบไปด้วย UVA และ UVB โดยรังสี UVA จะทำให้ผิวเกิดรอยเหี่ยวย่น มีริ้วรอย จุดด่างดำ ฝ้า-กระต่าง ๆ นอกจากนี้ยังทำให้มีความเสี่ยงการเกิดเป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย ส่วนรังสี UVB จะทำให้ผิวมีอาการแสบร้อน และทำให้ผิวคล้ำลงได้ ดังนั้นจึงควรทาครีมกันแดดที่ SPF สูง ๆ เป็นประจำ และต้องทาในปริมาณที่ถูกต้องคืออย่างน้อย 2 ข้อนิ้ว เพื่อให้ผิวได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่
- มลพิษทางอากาศ มลพิษในอากาศ เช่น ฝุ่นละออง PM 2.5 ไอเสีย และสารเคมีต่าง ๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศ จะเข้าไปสะสมบนผิวหน้าและทำให้เกิดการอักเสบ ทำลายคอลลาเจน และเร่งกระบวนการเสื่อมสภาพของผิว ส่งผลให้ผิวดูหมองคล้ำ ขาดความสดใส และเกิดจุดด่างดำ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่มีมลพิษสูง การล้างหน้าให้สะอาดอย่างสม่ำเสมอและใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยปกป้องผิวจากมลพิษได้
- สภาพอากาศและความชื้น การอยู่ในห้องแอร์หรือห้องที่มีความชื้นต่ำเป็นเวลานาน จะทำให้ผิวแห้ง แตก เป็นขุย และดูหมองคล้ำได้ เนื่องจากความชุ่มชื้นในผิวถูกดูดออกไปจนหมด นอกจากนี้หากคุณเป็นคนที่ผิวบอบบางก็อาจจะทำให้เกิดผิวหนังเกิดอาการแพ้ ลอก หรืออักเสบได้ ในทางตรงกันข้าม สภาพอากาศที่ชื้นจัดก็อาจทำให้เกิดเชื้อราและแบคทีเรียได้ง่าย
- การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือเครื่องสำอางที่มีสารเคมีรุนแรง หรือไม่เหมาะสมกับสภาพผิว จะทำให้เกิดการระคายเคือง อักเสบ และทำลายเกราะป้องกันธรรมชาติของผิว ส่งผลให้ผิวดูหมองคล้ำ แห้งกร้าน และเสื่อมสภาพเร็วขึ้น การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวและการทดสอบก่อนใช้จึงเป็นสิ่งสำคัญ
- การดูแลผิวที่ไม่ถูกต้อง การขัดผิวแรงเกินไป การล้างหน้าบ่อยเกินไป หรือการใช้แปรงทำความสะอาดหน้าที่หยาบ จะทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง สูญเสียความชุ่มชื้น และเกิดการอักเสบ ทำให้ผิวดูหมองคล้ำและแก่กว่าวัย การล้างหน้าวันละ 2 ครั้งด้วยผลิตภัณฑ์อ่อนโยนและการใช้ผ้าขนหนูที่นุ่มเช็ดหน้าจะช่วยรักษาสุขภาพผิวได้ดีกว่า
- ความเครียดจากสภาพแวดล้อม ความเครียดจากการทำงาน สภาพแวดล้อมที่วุ่นวาย หรือเสียงดังจะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เข้าไปรบกวนการทำงานของกระบวนการผลิตคอลลาเจนในร่างกาย และเมื่อร่างกายไม่สามารถผลิตคอลลาเจนได้เพียงพอ ผิวก็จะอ่อนแอ ดูหมองคล้ำ ไม่สดใส ดูแก่กว่าวัยได้ นอกจากนี้ การขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวขณะที่เราเครียดก็จะทำให้เกิดรอยเหี่ยวย่นบริเวณหน้าผาก และระหว่างคิ้วได้เช่นกัน
- การสูบบุหรี่และสารพิษ การสูบบุหรี่และการสัมผัสกับสารพิษต่าง ๆ จะทำลายคอลลาเจนและอิลาสตินในผิว ทำให้เกิดอนุมูลอิสระที่เร่งการเสื่อมสภาพของผิว ส่งผลให้ผิวดูหมองคล้ำ แก่ก่อนวัย และเกิดริ้วรอยเร็วขึ้น นิโคตินในบุหรี่ยังส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือด ทำให้ผิวได้รับออกซิเจนและสารอาหารไม่เพียงพอ
ปัจจัยภายใน
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดลงตามอายุ หรือในช่วงก่อนมีประจำเดือน ช่วงตั้งครรภ์ และวัยหมดประจำเดือน จะส่งผลต่อการผลิตคอลลาเจนและการทำงานของต่อมไขมันใต้ผิว ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น ดูแห้งกร้าน และเกิดความหมองคล้ำ รวมถึงการเกิดฝ้า กระ ที่เห็นได้ชัดเจนในผู้หญิงที่มีการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนอย่างรุนแรง
- พันธุกรรม ปัจจัยทางพันธุกรรมมีอิทธิพลต่อการเกิดหน้าหมองคล้ำอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของการผลิตเม็ดสีเมลานิน ประเภทผิว และความหนาของชั้นผิวหนัง หากในครอบครัวมีประวัติการเกิดฝ้า กระ หรือปัญหาผิวหมองคล้ำ โอกาสที่เราจะมีปัญหาเหล่านี้ก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งแม้จะเป็นปัจจัยที่เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่เราสามารถป้องกันและชะลอการเกิดขึ้นได้ด้วยการดูแลผิวที่เหมาะสม
- ภาวะอักเสบภายในร่างกาย การมีอาการอักเสบเรื้อรังภายในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นจากการติดเชื้อ โรคประจำตัว หรือการกินอาหารที่ก่อให้เกิดการอักเสบ จะส่งผลต่อสุขภาพผิวโดยรวม ทำให้ผิวดูหมองคล้ำ ขาดความสดใส และฟื้นตัวช้าจากการบาดเจ็บ เนื่องจากร่างกายต้องใช้พลังงานไปกับการรับมือกับอาการอักเสบ แทนที่จะไปซ่อมแซมและบำรุงผิว
- ปัญหาการไหลเวียนโลหิต การไหลเวียนของเลือดที่ไม่ดีจะทำให้ออกซิเจนและสารอาหารไม่สามารถไปเลี้ยงผิวได้อย่างเพียงพอ ส่งผลให้ผิวดูซีด หมองคล้ำ และขาดความสดใส โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะโลหิตจาง การขาดธาตุเหล็ก หรือมีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด การออกกำลังกายสม่ำเสมอและการนวดหน้าเบา ๆ จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตให้ดีขึ้น
- การทำงานของระบบขับถ่าย เมื่อระบบขับถ่ายในร่างกายทำงานไม่เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นผ่านไต ตับ หรือลำไส้ สารพิษและของเสียจะสะสมอยู่ในร่างกาย และแสดงออกผ่านผิวหนัง ทำให้เกิดปัญหาผิวต่าง ๆ เช่น สิว ผื่น และความหมองคล้ำ การดื่มน้ำเพียงพอ รับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง และการออกกำลังกายจะช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น
วิธีดูแลผิว กู้หน้าหมองคล้ำให้กลับมาสดใส
ได้ทราบกันไปแล้วว่า ปัญหาหน้าหมองคล้ำเกิดจากอะไร ใครที่มีพฤติกรรมที่ทำให้ผิวหมองคล้ำอยู่ ก็ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และหาวิธีดูแลผิวให้กลับมาสดใสอีกครั้ง แน่นอนว่าถ้าคุณยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นดูแลผิวให้กลับมาสดใสได้อย่างไรก็ต้องไปติดตามข้อมูลเกี่ยวกับวิธีดูแลผิว กู้หน้าหมองคล้ำให้กลับมาสดใสที่ Atita Clinic นำมาแบ่งปันกันต่อ โดยมีทั้งหมด 5 วิธีด้วยกัน ดังนี้
1.สำรวจและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
อันดับแรกก็ต้องเริ่มจากการสำรวจพฤติกรรมของตัวเองเสียก่อนว่า เรากำลังพฤติกรรมอะไรที่ทำร้ายผิวอยู่บ้าง เช่น มีความเครียดสะสม ทานแต่อาหารที่ไม่มีประโยชน์ หรือนอนไม่เป็นเวลา เป็นต้น เมื่อทราบแล้วก็จะต้องเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ปรับเวลานอนให้เร็วขึ้น แบ่งเวลาพักผ่อนและเวลาทำงานให้ชัดเจน หากิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายความเครียด หมั่นทานผักและผลไม้เป็นประจำ เป็นต้น เพียงเท่านี้สุขภาพร่างกายของเราก็จะได้รับการฟื้นฟู และสุขภาพผิวของเราก็จะกลับมาแข็งแรง และดูสดใสดังเดิม
2. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว
อย่างที่เราได้กล่าวไปในช่วงแรกว่า อายุที่เพิ่มขึ้นทำให้ระยะเวลาในการผลัดเซลล์ผิวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งการที่ผิวของเราไม่สามารถผลัดเซลล์ผิวได้ตามธรรมชาติ หรือผลัดเซลล์ผิวได้ช้า จะทำให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วไม่ถูกผลัดออกไป รวมถึงสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่อยู่บนผิวของเราก็จะเกิดการสะสมไปเรื่อย ๆ จนอุดตันและทำให้เกิดปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมาได้
ดังนั้น การสครับผิวเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง จะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป และเกิดเซลล์ผิวใหม่ที่มีความแข็งแรงขึ้นมาแทนที่ ทำให้ผิวดูกระจ่างใส และนุ่มชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดการอุดตันของสิ่งสกปรกที่เป็นสาเหตุของการเกิดปัญหาผิวได้อีกด้วย
3. ทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ
ควรปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยการทาครีมกันแดดที่มี SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป และสามารถป้องกันรังสี UVA, UVB เป็นประจำแม้จะไม่ได้ออกไปบริเวณที่มีแดดจ้า เพื่อป้องกันไม่ให้รังสี UV ในแสงแดดทำร้ายผิวจนเกิดปัญหาผิวหมองคล้ำ หรือผิวไหม้ นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยงการออกไปที่กลางแจ้งในช่วงเวลาที่แดดจัด เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งผิวหนัง
4. ทานวิตามินเสริม
การทานวิตามินเสริมในกลุ่มที่มีส่วนช่วยเรื่องผิว ไม่ว่าจะเป็นคอลลาเจน เอนไซม์คิวเทน สารสกัดจากเมล็ดองุ่น โดยเฉพาะวิตามินซี ซึ่งมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเสริมภูมิต้านทานให้ร่างกาย และช่วยกระตุ้นกระบวนการผลิตคอลลาเจนในร่างกายให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง และกระจ่างใส โดยก่อนที่จะรับประทานวิตามินเสริมควรจะมีการปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรให้ดีก่อนเสมอ รวมถึงเลือกยี่ห้อที่มีความน่าเชื่อถือ และได้มาตรฐาน
5. ฉีดเมโสหน้าใส
หากคุณมีผิวหน้าที่หมองคล้ำและต้องการการแก้ไขอย่างรวดเร็ว การฉีดเมโสหน้าใสก็ถือเป็นทางลัดที่จะช่วยให้ผิวของคุณกระจ่างใสขึ้นได้ทันที โดยการฉีดเมโสหน้าใส จะเป็นฉีดสารบำรุงต่าง ๆ เข้าสู่ชั้นผิวโดยตรง ทำให้ตัวยาออกฤทธิ์ในการแก้ไขปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ โทรม หรือผิวแห้งได้รวดเร็วและชัดเจนยิ่งขึ้น ต่างจากการบำรุงผิวด้วยสกินแคร์ที่จะมีความสม่ำเสมอและใช้เวลาพอสมควรจึงจะเห็นผล
ฉีดเมโสหน้าใส แก้ผิวหมองคล้ำ กู้หน้าใสได้เร็วกว่า
การฉีดเมโสหน้าใส ทางลัดกู้ผิวหมองคล้ำให้กลับมาสดใสดังเดิม โดยการฉีดเมโสหน้าใสจะเป็นการฉีดวิตามินที่มีส่วนช่วยในการบำรุงผิวเข้าสู่ผิวชั้นในโดยตรง ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ โทรม หรือแห้งกร้านให้กลับมากระจ่างใส ดูเรียบเนียน พร้อมลดเลือนจุดด่างดำได้ในทัน ซึ่งเมโสหน้าใสสามารถแบ่งได้ 3 กลุ่มเพื่อให้ตอบโจทย์กับสภาพผิวที่แตกต่างกัน มีดังนี้
1. สูตรเน้นความขาวใส
เป็นสูตรที่ช่วยแก้ปัญหาความหมองคล้ำจากแดด และมลภาวะได้เป็นอย่างดี โดยตัวยาที่ฉีดเข้าไปจะเป็นส่วนผสมของวิตามินที่ช่วยทำให้หน้าขาว เช่น วิตามิน A, B, C, E, Transamin, Glutathione เป็นต้น
2. สูตรเน้นหน้าใส
ตัวยาที่ฉีดเข้าไปจะมีส่วนผสมของคอลลาเจน และโคเอนไซม์ ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ช่วยให้ผิวหน้าดูกระจ่างใส ไม่โทรม พร้อมเพิ่มความชุ่มชื้น และกระชับรูขุมขน ทำให้ผิวฟูขึ้น
3. สูตรเน้นลดสิว ลดผื่น
เป็นสูตรที่จะช่วยลดการอักเสบ และขับสารพิษที่สะสมอยู่ในผิวออกมา พร้อมเพิ่มคอลลาเจนที่ทำให้ต่อมไขมันทำงานลดลง จึงสามารถลดการเกิดสิว และผื่นได้
4. Belotero Revive
Belotero Revive เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง ซึ่งมีส่วนประกอบหลักคือไฮยาลูโรนิกแอซิดที่ออกแบบมาเฉพาะเพื่อดูแลผิวหน้าให้ดูอิ่มเอิบและเปล่งปลั่ง การฉีด Belotero Revive จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและลดเลือนริ้วรอยเล็กน้อยได้อย่างเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์ที่ได้จะเห็นได้ชัดเจนหลังการฉีดและสามารถคงอยู่ได้นานหลายเดือน ทำให้ผิวหน้าดูสุขภาพดีและมีความกระจ่างใสมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงสภาพผิวให้ดูสดใสโดยไม่ต้องการความเปลี่ยนแปลงที่มากเกินไป
5. Skinvive
Skinvive เป็นนวัตกรรมการดูแลผิวที่ได้รับการอนุญาตให้ใช้ทางการแพทย์ โดยมีเทคโนโลยีการฉีดไฮยาลูโรนิกแอซิดเข้าสู่ชั้นผิวหนังอย่างละเอียดและทั่วถึง ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นให้กับผิว การรักษาด้วย Skinvive จะช่วยปรับปรุงเนื้อผิวให้เรียบเนียน ลดความหยาบกร้านของผิว และทำให้ผิวดูมีความกระจ่างใสมากขึ้น ผลการรักษาจะเห็นได้อย่างค่อยเป็นค่อยไปและสามารถคงอยู่ได้นานหลายเดือน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ ผิวแห้ง หรือต้องการปรับปรุงสภาพผิวโดยรวมให้ดูสุขภาพดีและมีชีวิตชีวามากขึ้น
6. Juvelook
Juvelook เป็นผลิตภัณฑ์ที่อนุญาตให้ใช้ทางการแพทย์ ซึ่งมีส่วนประกอบพิเศษที่ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวดูอิ่มเอิบและมีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น การรักษาด้วย Juvelook จะช่วยปรับปรุงสภาพผิวที่หมองคล้ำ ลดเลือนริ้วรอยเล็กน้อย และเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิวหน้า ผลการรักษาจะเห็นได้อย่างค่อยเป็นค่อยไปภายในไม่กี่สัปดาห์หลังการฉีด และจะให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของคอลลาเจนตามธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงสภาพผิวแบบองค์รวมและต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
ได้ทราบกันไปแล้วว่า ปัญหาหน้าหมองคล้ำเกิดจากอะไร รวมถึงวิธีดูแลผิวให้กลับมากระจ่างใสอีกครั้ง ก็อย่าลืมนำข้อมูลเหล่านี้ไปปรับใช้ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคุณดู รับรองว่า ผิวหมองคล้ำไม่สดใสของคุณจะกลับมาดูกระจ่างใสอีกครั้งได้ แต่ถ้าหากว่าคุณต้องการหาตัวช่วยกู้ผิวหมองคล้ำแบบเร่งด่วน ก็สามารถแอดไลน์หรือเข้ามาให้ Atita Clinic ช่วยดูแลได้เลย โดยเรามีทีมแพทย์คอยให้คำปรึกษา และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการฉีดเมโสหน้าใสที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณ นอกจากนี้ ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปีของเรา คุณสามารถมั่นใจได้เลยว่า หากไว้ใจให้ Atita Clinic ดูแล ผิวหน้าของคุณจะกลับมาสดใส ดูเปล่งปลั่งขึ้น