คุณเคยรู้สึกหงุดหงิดกับปัญหาใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตา หรือร่องใต้ตาลึกที่ทำให้ใบหน้าดูโทรม อ่อนล้าไหม? ฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นหนึ่งในวิธีการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ เพราะเห็นผลไว ไม่ต้องผ่าตัด และมีระยะเวลาพักฟื้นน้อย แต่ฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายไหม? วันนี้เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับฟิลเลอร์ใต้ตา พร้อมข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีดกัน!
Table of Contents
ฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร
ฟิลเลอร์ใต้ตาคือการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไปในบริเวณใต้ตาที่มีปัญหา เพื่อเติมเต็มร่องลึก ลดเลือนริ้วรอย และทำให้บริเวณที่ดูคล้ำหรือหย่อนคล้อยกลับมาดูเต่งตึง อิ่มฟู มีชีวิตชีวามากขึ้น โดยสารไฮยาลูโรนิคนี้เป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายเราอยู่แล้วจึงไม่เป็นอันตรายต่อหลาย ๆ คน
ฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง?
ฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถแก้ไขปัญหาบริเวณใต้ตาได้หลากหลาย ทั้งจากอายุที่มากขึ้น พันธุกรรม ภูมิแพ้ หรือจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน มาดูกันว่าช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง
1. ปัญหาใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ
ฟิลเลอร์ช่วยเพิ่มความหนาให้กับผิวบริเวณใต้ตา ทำให้เส้นเลือดและชั้นกล้ามเนื้อที่มีสีคล้ำด้านล่างถูกบดบังมากขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยให้แสงตกกระทบบริเวณใต้ตาได้ดีขึ้น ลดเงาที่ทำให้ดูคล้ำ ส่งผลให้ใต้ตาดูสว่าง สดใสมากขึ้น
2. ใต้ตาลึก เบ้าตาลึก ตาโหล
เมื่ออายุมากขึ้น กระดูกใต้ตาจะยุบตัวลง เนื้อเยื่อรอบดวงตาลดลง ทำให้เกิดหลุมหรือร่องลึกบริเวณใต้ตา ฟิลเลอร์จะเข้าไปเติมเต็มบริเวณที่ยุบตัวนี้ ทำให้ใต้ตาที่เป็นหลุมลึกดูตื้นขึ้น เบ้าตาดูเต็ม สดใส ไม่โทรม
3. ถุงใต้ตาหย่อนคล้อย ริ้วรอยใต้ตา
ปัญหาถุงใต้ตาและความหย่อนคล้อยเกิดจากเนื้อเยื่อและผิวหนังที่อ่อนแอลง ฟิลเลอร์จะช่วยเสริมโครงสร้างและพยุงผิวที่หย่อนคล้อย ในขณะเดียวกันคุณสมบัติการอุ้มน้ำของไฮยาลูโรนิค แอซิดช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ริ้วรอยใต้ตาดูตื้นขึ้น
ใต้ตาคล้ำ ร่องลึก เกิดจากอะไร?
- อายุที่เพิ่มขึ้น – กระดูกยุบตัว เนื้อเยื่อลดลง คอลลาเจนและอีลาสตินเสื่อมสภาพ
- พันธุกรรม – บางคนมีโครงสร้างกระดูกเบ้าตาที่ลึกมาตั้งแต่กำเนิด หรือมีผิวบางบริเวณใต้ตา
- ภูมิแพ้เรื้อรัง – ทำให้เส้นเลือดใต้ตาขยายตัว มองเห็นเป็นสีคล้ำ
- พฤติกรรม – นอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ ใช้สายตามากเกินไป
- อาหารและสารพิษ – การดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ หรือรับประทานอาหารที่มีรสจัด
ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใคร
- คนที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำ ใต้ตาลึก ริ้วรอยใต้ตา
- คนที่ต้องการเห็นผลลัพธ์รวดเร็ว ไม่ต้องการผ่าตัด
- คนที่มีปัญหาใต้ตาจากกรรมพันธุ์
- คนที่มีถุงใต้ตาในระดับน้อยถึงปานกลาง
- ผู้ที่ไม่มีอาการแพ้รุนแรงบริเวณใต้ตา
กรณีไหนที่ไม่ควรฉีด?
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับภาวะเลือดไหลหยุดยาก
- ผู้ที่มีการติดเชื้อบริเวณที่จะฉีด
- ผู้ที่มีภูมิแพ้รุนแรงต่อส่วนประกอบในฟิลเลอร์
- ผู้ที่มีผิวอักเสบ เป็นแผล หรือติดเชื้อบริเวณใต้ตา
ฟิลเลอร์ใต้ตาใช้กี่ CC ถึงจะเห็นผล?
ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาและเทคนิคการฉีดของแพทย์ โดยทั่วไปแล้ว การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะใช้ประมาณ 0.5-1 CC ต่อข้าง ในกรณีที่มีปัญหาร่องลึกมาก อาจต้องใช้ถึง 1-2 CC ต่อข้าง ทั้งนี้แพทย์จะประเมินและระบุปริมาณที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ซึ่งควรเริ่มจากปริมาณน้อย ๆ ก่อน และค่อย ๆ เพิ่มในครั้งต่อไปหากยังไม่พอใจผลลัพธ์
ผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นอย่างไร?
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คุณจะเห็นผลลัพธ์ทันทีในการเติมเต็มร่องลึกและการลดเลือนริ้วรอย แต่อาจมีอาการบวมเล็กน้อยในช่วง 2-3 วันแรก ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์จะเห็นได้ชัดหลังจาก 1-2 สัปดาห์ เมื่อฟิลเลอร์เซ็ตตัวและอาการบวมหายไป ใบหน้าจะดูสดใส อ่อนเยาว์ ร่องใต้ตาตื้นขึ้น และความคล้ำลดลง
ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหน?
ฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ชนิดและยี่ห้อของฟิลเลอร์ การดูแลหลังฉีด และลักษณะการใช้กล้ามเนื้อบริเวณใต้ตาของแต่ละบุคคล ผู้ที่มีการขยับใบหน้าบ่อย เช่น ยิ้มหรือหัวเราะมาก อาจทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น นอกจากนี้ ควรดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อรักษาความชุ่มชื้นและช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น
ฟิลเลอร์ใต้ตาแบบไหนดีที่สุด?
การเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับบริเวณใต้ตาเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากผิวบริเวณนี้บางและมีเส้นเลือดมาก แต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เหมาะกับการแก้ปัญหาใต้ตาที่ต่างกัน
1. Restylane
Restylane เป็นฟิลเลอร์สัญชาติสวีเดนที่มีเทคโนโลยี NASHA และ OBT ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความละเอียด เกลี่ยง่าย เหมาะสำหรับฉีดในบริเวณที่ผิวบาง เช่น ใต้ตา รุ่นที่เหมาะกับใต้ตาได้แก่ Restylane Vital Light, Restylane Classic และ Restylane Perlane Lyft เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบางและต้องการความเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ
2. Juvederm
Juvederm เป็นฟิลเลอร์จากอเมริกาที่มีเทคโนโลยี Vycross และ Hylacross ทำให้ฟิลเลอร์มีความคงตัวสูง เนื้อแน่น อยู่ได้นาน และมีความยืดหยุ่นดี เหมาะสำหรับบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวบ่อย รุ่นที่เหมาะกับใต้ตาได้แก่ Juvederm Volite, Juvederm Voluma และ Juvederm Volux ซึ่งให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติเมื่อสัมผัส
3. Belotero
Belotero เป็นฟิลเลอร์จากสวิตเซอร์แลนด์ ผลิตด้วยเทคโนโลยี CPM ที่ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูงและเกาะกันเป็นเนื้อเดียว ไม่ไหลเป็นก้อน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับบริเวณใต้ตา รุ่นที่เหมาะคือ Belotero Soft ที่มีเนื้อละเอียด และ Belotero Volume ที่เหมาะสำหรับฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก
ฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม?
ฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม? การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่อันตรายหากทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน แต่บริเวณใต้ตามีเส้นเลือดมาก หากฉีดไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดอาการบวม เขียวช้ำ หรือในกรณีร้ายแรงที่พบได้น้อยมาก อาจทำให้เกิดการอุดตันของเส้นเลือดได้
สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาได้ผลลัพธ์ที่ดี คือเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ และใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ ฟิลเลอร์ไฮยาลูโรนิค แอซิดมีข้อดีคือสามารถฉีดสลายได้ด้วยเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส หากเกิดปัญหาหรือไม่พอใจกับผลลัพธ์
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี? เลือกคลินิกอย่างไร
การเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรเลือกคลินิกที่มีใบอนุญาตถูกต้อง มีแพทย์ประจำที่มีประสบการณ์ และใช้ผลิตภัณฑ์แท้ที่ผ่านการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง
ที่อทิตาคลินิก ผู้เข้ารับบริการจะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ผู้มีประสบการณ์ ที่จะประเมินปัญหาใต้ตาอย่างละเอียด พร้อมให้คำแนะนำตรงไปตรงมา เพื่อให้การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเห็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และแก้ปัญหาอย่างตรงจุด ตอบโจทย์ทุกความต้องการ หากสนใจปรึกษาหรือจองนัดหมาย สามารถติดต่อได้ที่ 094-324-4442 หรือ LINE @atitaclinic