ฉีดฟิลเลอร์ปาก คืออะไร? แก้ไขทรงปากให้สวยอวบอิ่มได้จริงหรือเปล่า? แล้วสัดส่วนปากที่สวยงามต้องเป็นอย่างไร? หลักฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วดูแลยากไหม คำถามมากมายที่หลายคนสงสัยอยู่ เพราะการทำฟิลเลอร์ปากยังถือเป็นหัตถการที่หลายคนยังไม่กล้าเปิดใจ แม้ว่าจะดูเคสรีวิวฟิลเลอร์ปากมามากมาย หรือแม้แต่ตอนนี้จะมีปัญหา เช่น ปากไม่เข้ารูป ปากบาง หรือรูปทรงปากไม่ได้สัดส่วนที่สวยงามอยู่ก็ตาม หรือหลายคนอาจจะอยากแก้ไขให้ได้รูปทรงปากสวย ๆ เพื่อเสริมเสน่ห์ให้ใบหน้าอยู่ แต่ก็ลังเลใจ
วันนี้ Atita Clinic จะพามาทำความรู้จักเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ปากให้มากยิ่งขึ้นกับ 5 ข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรก จะมีอะไรบ้างนั้น ติดตามกันได้เลย
Table of Contents
ทำความรู้จักการฉีดฟิลเลอร์ปาก
การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นการเสริมความงามเฉพาะที่ โดยการใช้สารไฮยาลูรอนนิก แอซิด ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติโครงสร้างของผิวหนัง เพื่อปรับรูปทรงของปากให้สวยงาม โดดเด่น เพิ่มเสน่ห์ โดยมีทรงปากที่นิยมในตอนนี้แบ่งหลัก ๆ ออกเป็น 2 สไตล์ คือ
- ทรงปากกระจับ หรือเรียกว่า ปากเกาหลี เน้นให้ริมฝีปากล่างดูอวบอิ่ม และเรียวสวยราวกับปีกนก
- ทรงปากสายฝอ เน้นความอวบอิ่มของริมฝีปากบนและล่าง ให้สวยสะกดใจ ดูเป็นสาวเซ็กซี่และมีเสน่ห์ที่น่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น
นอกจากแก้ไขรูปทรงปากให้สวยตามเทรนด์ที่นิยมแล้ว ยังสามารถปรับทรงปากให้สวยได้สัดส่วนเข้ากับใบหน้าได้ด้วย เพราะแต่ละคนมีรูปทรงปากที่แตกต่างกัน ซึ่งแพทย์จะประเมินและเลือกทรงที่เหมาะสมกับใบหน้าให้ได้ใกล้เคียงกับความต้องการของผู้รับหัตถการมากที่สุด อีกทั้งการฉีดฟิลเลอร์ปากยังช่วยแก้ปัญหาริมฝีปากแห้งลอก ทำให้ริมฝีปากกลับมาอวบอิ่ม ชุ่มชื้นยิ่งขึ้นได้อีกด้วย
5 ข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปากครั้งแรก
สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ปากครั้งแรก หลายคนย่อมอยากรู้ว่าจะเลือกฟิลเลอร์อย่างไร? เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ และนอกเหนือจากคำแนะนำของแพทย์ จะต้องศึกษาข้อมูลส่วนไหนเพิ่มเติมบ้าง ใครที่สนใจหัตถการนี้อยู่ล่ะก็ เราสรุปสิ่งสำคัญและจำเป็นต้องรู้ในการฉีดฟิลเลอร์ปากมาให้แล้ว
1. ศึกษาวิธีการดูฟิลเลอร์ของแท้
สิ่งแรกที่จำเป็นต้องรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปากเลย คือ ควรต้องรู้วิธีดูฟิลเลอร์ของแท้นั่นเอง รวมทั้งควรต้องรู้ว่าฟิลเลอร์แท้มีกี่แบรนด์ และจะตรวจสอบได้อย่างไร? เรื่องนี้หลายคนมักมองข้ามไป ซึ่งจะมีข้อมูลหลักที่ต้องศึกษาในการเลือกฉีดฟิลเลอร์ปากของแท้ มีดังนี้
- เช็กแบรนด์ที่ผ่าน อย.ไทย และนำเข้าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
- มีฉลากภาษาไทย มีวันหมดอายุบริเวณกล่องผลิตภัณฑ์ระบุไว้อย่างชัดเจน
- ตรวจสอบรุ่นการผลิตจากกล่อง และทุกส่วนของผลิตภัณฑ์ต้องเป็นเลขเดียวกันทั้งหมด และสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อเช็กข้อมูลผลิตภัณฑ์ หรือโทรสอบถามเลข lot ที่ผลิตกับบริษัทผู้นำเข้าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ที่จะรับการฉีดนั้นเป็นของแท้แน่นอน
- เลือกฉีดกับคลินิกที่ผ่านมาตรฐาน และมีรายชื่ออยู่ในฐานข้อมูลของผู้นำเข้าฟิลเลอร์แท้ว่าคลินิกดังกล่าวได้ซื้อฟิลเลอร์แท้จากบริษัทผู้นำเข้ามาใช้ในคลินิกจริง เพื่อเช็กให้ชัวร์ว่าเป็นฟิลเลอร์แท้แน่นอนก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก
2. ศึกษาวิธีดูแลตัวเองก่อนและหลังฉีด
การเตรียมความพร้อมก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน ควรเช็กก่อนว่าปัญหาที่ต้องการแก้ไขริมฝีปากนั้นมีจุดบกพร่องอะไรบ้าง เพื่อจะได้แจ้งความต้องการกับแพทย์ได้ถูกต้องและครบถ้วน และหากมีโรคประจำตัวจะต้องแจ้งให้แพทย์ทราบเพื่อประเมินการรักษาเบื้องต้น ทั้งนี้ก่อนเข้ารับหัตถการควรพักผ่อนให้เพียงพอ งดสูบบุหรี่ งดดื่มแอลกอฮอล์ และหยุดยาบางชนิดตามแพทย์แนะนำ เพื่อลดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นได้
ส่วนการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก แพทย์จะมีคำแนะนำและข้อควรระวัง ดังนี้
- ควรดื่มน้ำสะอาดต่อวันให้ได้ 8-16 แก้ว เพราะน้ำเปล่าที่ดื่มนั้นจะกระตุ้นให้ฟิลเลอร์ทำงานได้ดีขึ้น
- งดการลอกหนังบริเวณริมฝีปาก
- งดทานของร้อน ของเผ็ดในระยะแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด รวมไปถึงเครื่องดื่มร้อน ๆ เพราะอาจทำให้ปากเกิดอาการบวม หรืออักเสบได้ง่าย
- งดการออกกำลังหนัก ๆ ที่จะทำให้ปากเสียรูปทรง
- ควรงดการทาลิปบริเวณรอยเข็มใน 12 ชั่วโมงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
3. หาสัดส่วนริมฝีปากที่เหมาะสม
สัดส่วนของปากที่สวยงามจะมีขนาดของริมฝีปากบนและริมฝีปากล่างสมดุลกันในอัตราส่วน 1:1.6 โดยริมปากล่างจะหนากว่าริมฝีปากบนเล็กน้อย ริมฝีปากด้านบนมีกระจับเส้นหยักที่โค้งเป็นรูปตัว M สวยสมดุลกันทั้งสองฝั่ง ไม่สูงและไม่ต่ำจนเกินไป ทั้งนี้การหาสัดส่วนริมฝีปากที่เหมาะสมอาจจะยากสักนิดหากเทียบด้วยตัวเอง เพราะต้องเปรียบเทียบสัดส่วนปากกับใบหน้าอย่างละเอียด ซึ่งขอแนะนำให้แพทย์ช่วยประเมินจะสามารถออกแบบทรงให้เหมาะกับใบหน้าได้มากกว่า
4. รู้ถึงผลข้างเคียงหลังฉีด
การฉีดฟิลเลอร์ปาก แม้จะปลอดภัยแต่ก็อาจจะเกิดผลข้างเคียงได้เล็กน้อย ซึ่งไม่อันตราย ซึ่งอาการที่พบบ่อยหลังทำฟิลเลอร์ คือ
- รอยช้ำ รอยแผลเล็ก ๆ จากเข็มที่ฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งสามารถพบได้ และหายเองในระยะเวลา 1 สัปดาห์
- อาการตึง ปวด บริเวณปากหลังฉีด ก็ถือเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งจะค่อย ๆ หายไปได้เอง
- การอักเสบ ซึ่งอาการนี้มักพบบ่อยหลังฉีดฟิลเลอร์หากไม่ระมัดระวังความสะอาดบริเวณปากหลังทำ รวมทั้งการไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ก็อาจทำให้เกิดการอักเสบขึ้นได้เช่นกัน
- สีปากซีด ลอก หลังทำ เป็นอาการที่พบได้แต่เมื่อผ่านไป 1 สัปดาห์ ปากจะมีสีชัดเจนขึ้น อาการต่าง ๆ จะลดลง สิ่งสำคัญคือ ห้ามลอกหนังบริเวณปากเด็ดขาด
5. ระยะเวลาของผลลัพธ์การฉีดฟิลเลอร์
ระยะเวลาหลังฉีดฟิลเลอร์ปากที่จะเห็นผลได้ชัดเจน ริมฝีปากเริ่มมีทรงที่สวยงามเข้ารูปอยู่ที่ประมาณ 2-3 สัปดาห์ และให้ผลลัพธ์ยาวนานประมาณ 18-24 เดือน แต่ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะของทรงปากที่เลือก ปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีด และการดูแลหลังทำด้วย
ฉีดฟิลเลอร์ปากที่ Atita Clinic ดีอย่างไร
สำหรับท่านที่อยากฉีดฟิลเลอร์ปาก ปรับรูปทรงปากให้สวยงาม Atita Clinic มีทีมแพทย์ที่ชำนาญในการเสริมความงามทุกด้าน เราชำนาญด้านการดีไซน์ ออกแบบ และการปรับรูปหน้าด้วยเทคนิคที่ทันสมัย เหมาะกับรูปหน้าของแต่ละบุคคล เพื่อการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด ด้วยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ยาวนานมากกว่า 18 ปี การันตีคุณภาพด้วยรางวัลต่าง ๆ มากมาย
Atita Clinic เป็นคลินิกที่ถูกต้องตามกฎหมาย มีมาตรฐานการบริการ พร้อมด้วยอุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัย ใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้ที่นำเข้าถูกต้อง ผ่านการรับรองจากอย.ไทย การันตีผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจจากหลากหลายผลงานการแก้ไขรูปทรงใบหน้าของคลินิกเรา ไม่ว่าจะ โปรโมชั่นฉีดฟิลเลอร์ปาก, ศัลยกรรมปากกระจับ, ปรับรูปหน้า และอื่น ๆ เราพร้อมดูแลและให้คำปรึกษาทุกปัญหาความงาม สามารถขอคำแนะนำเบื้องต้นได้ที่ Atita Clinic ทุกสาขา โทรศัพท์ 094-324-4442 หรือไลน์ @atitaclinic ได้เลย
สรุปบทความ
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด สามารถปรับรูปปากให้เข้ากับใบหน้า เสริมเสน่ห์และบุคลิกภาพ เพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปาก สามารถเลือกทรงปากตามต้องการได้ หรือปรับแก้ไขจุดบกพร่องที่มีอยู่ให้ดีขึ้น ใช้เวลาในการทำไม่นาน ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ ที่สำคัญหลังฉีดฟิลเลอร์ปากเสร็จ สามารถเห็นผลลัพธ์ที่ถึงความแตกต่างได้ทันที สวยสั่งได้ฉบับทันใจแน่นอน