เมื่ออายุมากขึ้นรอยตีนกา (wrinkles หรือที่เรียกว่า crow’s feet) เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก เนื่องจากผิวของเราเสื่อมสภาพเป็นธรรมดาตามกาลเวลา และเมื่อเรายิ้ม หรือหัวเราะ จะเกิดรอยพับ และรอยขีดขึ้น การมีรอยย่นเช่นนั้นก็ทำให้เราดูแก่เกิดอายุได้ จนใบหน้าไปไกลเกินตัวเลข รอยตีนกาจึงเป็นปัญหาผิวหนังที่พบได้บ่อย และมักก่อให้เกิดความไม่พอใจในรูปลักษณ์ของตนเอง
สำหรับใครที่ต้องการรักษาให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ไร้ริ้วรอย อยากหนีให้ห่างจากใบหน้าที่เหี่ยวย่น วันนี้เรามีวิธีจัดการกับรอยตีนกา พร้อมทั้งวิธีป้องกัน และดูแลตัวเอง เพื่อชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคต มาฝากกัน
รอยตีนกาเกิดจากอะไร
Table of Contents
รอยตีนกา (Crow’s feet) คือ ริ้วรอย หรือเส้นขีดที่เกิดขึ้นบนผิวหน้า เมื่อเรายิ้ม หรือแสดงอารมณ์อื่นๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความกระชับของกล้ามเนื้อรอบดวงตา รอยตีนกามักเกิดขึ้นบริเวณข้างดวงตา และเป็นสัญญาณระหว่างวัยของผิวหน้าที่เกิดตามการเสื่อมสภาพของผิว
การแบ่งประเภทของรอยตีนกาจะช่วยให้เราเข้าใจลักษณะ และสาเหตุของรอยตีนกาต่างๆ ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการเลือกวิธีการดูแล และบำรุงผิวหน้าที่เหมาะสมสำหรับรอยตีนกาแต่ละแบบ โดยรอยตีนกาสามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก ดังนี้
1. Dynamic Line
คือรอยตีนกาทั่วไปเป็นริ้วรอยเล็กๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อเราเคลื่อนไหว แสดงอารมณ์ หรือแสดงสีหน้า เช่น รอยตีนกาเมื่อขมวดคิ้ว รอยย่นหน้าผาก ซึ่งเกิดได้กับทุกเพศ ทุกวัย เพราะทุกคนมีกล้ามเนื้อใบหน้าไว้เพื่อแสดงสีหน้า แต่บางคนอาจมีรอยย่นเกิดขึ้นเยอะกว่าคนอื่น เนื่องจากเป็นคนที่แสดงสีหน้าบ่อยๆ หรือบางคนที่เผลอขมวดคิ้วตลอดเวลา ก็จะมีรอยเหล่านี้มากและลึกกว่าคนอื่นได้ หากปล่อยไว้นานๆ ก็อาจทำให้เกิดเป็นริ้วรอยแบบ Static Line ได้
2. Static Line
คือรอยตีนกาลึก เป็นรอยเส้นที่มีความลึกมากขึ้น และสามารถมองเห็นได้ชัดเจนแม้ว่าผิวหน้าจะไม่เคลื่อนไหว รอยย่นประเภทนี้เกิดจากผิวที่มีอายุมากขึ้นมีการสูญเสียคอลลาเจนที่ทำให้เต่งตึงไป ในบางคนที่มี Dynamic Line ที่เริ่มลึก และชอบแสดงสีหน้าบ่อยๆ ก็ทำให้เกิด Static Line ขึ้นได้เช่นกัน ซึ่งก็เหมือนกับผ้าที่พับไว้นานๆ และพับซับทับรอยเดิมๆ รอยพับย่อมจะชัดขึ้นเป็นธรรมดา บางทีเมื่อคลี่แล้ว รอยพับก็ยังไม่หายไปนั่นเอง
ตำแหน่งที่เกิดริ้วรอยได้ชัดเจน
ริ้วรอยหรือรอยตีนกา มักพบบริเวณที่สัมผัสแสงแดดมากๆ สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งบริเวณผิวหน้าและผิวกาย แต่ถ้าเป็นสำหรับใบหน้ามักพบตำแหน่งที่เกิดริ้วรอยได้ชัดเจนมีดังนี้
- รอยตีนการอบดวงตา (Crow’s Feet) รอยตีนกาเหล่านี้จะปรากฏเมื่อยิ้ม หัวเราะ หรือหรี่ตา และมักเกิดบริเวณด้านข้างของหางตา
- ริ้วรอยใต้ตา มักเกิดรอยใต้ตาขึ้นเมื่อผิวหนังบริเวณด้านล่างของตามีความยืดหยุ่นลง ทำให้เห็นเป็นริ้วรอยบริเวณใต้ตา และถุงใต้ตาได้
- ริ้วรอยบริเวณรอบปาก (Smile Lines) หรือที่รู้จักกันในนามของ ร่องแก้ม และร่องน้ำหมาก อาจเกิดจากการที่เราแสดงสีหน้าโดยการยิ้มบ่อยๆ หรือการเคี้ยวอาหารก็มีส่วนที่ทำให้เกิดริ้วรอยนี้
- ริ้วรอยบนหน้าผาก อาจเกิดขึ้นเมื่อสูญเสียความยืดหยุ่นของผิวหนังในบริเวณหน้าผาก มักพบในคนที่ชอบหยักคิ้ว และชอบแสดงสีหน้าตกใจ สงสัย ด้วยการเลิกคิ้ว หรือขมวดคิ้ว
เนื่องจากริ้วรอยต่างๆ จะเกิดขึ้นเมื่อผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่นไป การดูแลผิวหน้าด้วยการใช้ครีมบำรุงผิวที่เหมาะสม และทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันผิวจากรังสี UV จะช่วยชะลอการเกิดรอยตีนกาและรักษาผิวหนังให้คงความยืดหยุ่นได้ดี
วิธีลดรอยตีนกาที่นิยมในปัจจุบัน
ในปัจจุบันมีวิธีลดรอยตีนกาได้หลากหลายวิธี ทั้งเป็นวิธีที่สามารถทำได้ด้วยตนเอง หรือการรักษาโดยผู้เชี่ยวชาญ แต่ทั้งนี้จำเป็นต้องเลือกวิธีที่เหมาะสมสำหรับรูปแบบของรอยตีนกาที่เกิดขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เราจัดการกับปัญหาผิวได้อย่างตรงจุดนั่นเอง
1. ฉีดโบท็อก
การฉีดโบท็อก เป็นวิธีลดรอยตีนกาที่นิยมสำหรับคนที่เพิ่มเริ่มมีริ้วรอยแบบ Static Line ในระยะเริ่มต้น คือ เพิ่งเริ่มเห็นริ้วรอย แม้ไม่ได้แสดงสีหน้า ไปจนถึงระดับที่มีริ้วรอยมาก วิธีนี้ก็ยังคงให้ผลลัพธ์ที่ดี เมื่อฉีดโบท็อกแล้วรอยตีนกา และริ้วรอยจางลงอย่างเห็นได้ชัด โดยผิวจะเริ่มตึงใน 3-4 วัน หลังฉีด เห็นผลชัดเจนใน 2 สัปดาห์
การฉีดโบท็อกจะไปรบกวนการทำงานของระบบประสาท มีผลทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานลดลงชั่วคราว ทำให้กล้ามเนื้อที่แสดงสีหน้ามีการขยับเพื่อแสดงสีหน้าลดลง ผิวหนังก็จะตึงขึ้น ไม่เกิดรอยพับ จึงช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยที่อาจเกิดเพิ่มขึ้นจากการแสดงสีหน้าได้นั่นเอง
2. ฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์ จะเหมาะกับคนที่มีร่องริ้วรอยลึกๆ ไม่สามารถแก้ไขได้โดยใช้โบท็อกเพียงอย่างเดียว ต้องใช้ฟิลเลอร์เพื่อเติมคอลลาเจนโดยฉีดเสริมในผิวชั้นลึก เพื่อเติมเต็มให้ผิวกลับมาเต่งตึง และเพิ่มความชุ่มชื้น โดยฉีดลงไปในบริเวณที่มีรอยตีนกา การฉีดฟิลเลอร์จะช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยที่อาจเกิดเพิ่มในอนาคตได้ด้วย เนื่องจากมีส่วนช่วยให้ผิวชุ่มชื้น และกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้น
3. เลเซอร์
เลเซอร์ตีนกา เป็นหนึ่งในหัตถการที่นิยมใช้เพื่อรักษาผิวได้หลายอย่าง กระตุ้นให้เซลล์ผิวเกิดใหม่ได้ เป็นหนึ่งในวิธีลดรอยตีนกาที่ทำได้ง่าย และให้ผลการรักษาที่ดี ช่วยกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินมากขึ้น ทำให้ผิวดูอิ่มฟู มีการซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหายได้มากขึ้น ทำให้ริ้วรอยค่อยๆ จางลง แต่จะได้ผลดีกับริ้วรอยระดับตื้น หรือรอยตีนกาขนาดเล็ก และต้องทำซ้ำหลายๆ ครั้ง เพื่อให้เห็นผลชัดเจน
4. ลดรอยตีนกาด้วย Hifu
hifu คือ วิธีลดรอยตีนกาที่ใช้นวัตกรรมการทำงานโดยใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวนด์พลังงานสูง ในการส่งคลื่นพลังงานเข้าไปใต้ชั้นผิว ด้วยเทคโนโลยีไมโครโฟกัส (Micrifocus) เข้าไปเป็นจุดเล็กๆ เรียงเป็นแถว ยิงลึกลงไปใต้ชั้นผิวเพื่อให้เนื้อเยื่อหดตัว สามารถกำหนดแนวยกกระชับได้อย่างแม่นยำ ช่วยลดริ้วรอย รวมทั้งรอยตีนกาอย่างเห็นผล
เป็นนวัตกรรมที่มีความปลอดภัยสูง สามารถยิงพลังงานลงผิวบริเวณรอบดวงตาได้โดยไม่เป็นอันตราย ไม่ต้องพักฟื้น นอกจากนี้ยังสามารถช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวเต่งตึง เด้งฟูขึ้นได้
5. ใช้สกินแคร์ลดริ้วรอย
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เวชสำอางที่แก้ปัญหาริ้วรอยที่ต้นเหตุ เป็นหนึ่งในวิธีลดรอยตีนกาที่สามารถทำเองได้ แต่วิธีนี้จะเหมาะสำหรับช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย หรือลดเลือนริ้วรอยแบบ Dynamic Line หรือ Static Line ระยะเริ่มต้นเท่านั้น ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมช่วยลดริ้วรอย เช่น
- ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอล (Retinol) ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอที่มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์และคอลลาเจน ทำให้ริ้วรอยลึกหรือรอยตีนกาตื้นขึ้น
- Niacinamide หรือวิตามินบี 3 ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และช่วยลดเลือนริ้วรอยได้
- กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ที่มวลโมเลกุลขนาดเล็ก ช่วยให้ซึมลงสู่ผิวได้ลึก กักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว และช่วยลดริ้วรอย
- กลุ่ม Peptides ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวแลดูกระชับเต่งตึง ช่วยซ่อมแซมผิวที่เสื่อมสภาพ และยังช่วยลดเลือนริ้วรอยให้แลดูจางลง มอบผิวอิ่มฟูและดูสุขภาพดียิ่งขึ้น
นอกจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมลดริ้วรอย การฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน (Collagen Stimulator Injection) ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีลดริ้วรอย ฟื้นฟูผิวหน้าให้กระจ่างใสที่ได้ผลอย่างรวดเร็ว นับเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
โดยที่อทิตาคลินิก เรามีบริการฉีด Sculptra ซึ่งเป็นสารฉีดกระตุ้นคอลลาเจนที่สังเคราะห์มาจากพืชที่มีความปลอดภัยสูง ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และร่างกายสามารถย่อยสลายได้เอง โดยจะเข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวอย่างเป็นธรรมชาติและต่อเนื่องยาวนานถึง 2 ปี จัดเป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนตัวแรกของโลกและตัวเดียวที่ผ่านการรับรองจาก U.S. FDA หากสนใจสามารถติดต่อเข้ามาใช้บริการที่คลินิกของเราได้เลย
สรุปบทความ
การรักษารอยตีนกา มีหลากหลายวิธี แต่วิธีที่ดีที่สุด คือ การป้องกันตั้งแต่ต้นเหตุเพื่อลดการเกิดรอยตีนกา เช่น ควรบำรุงผิวรอบดวงตาด้วยมอยส์เจอไรเซอร์เป็นประจำ จะช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยได้ แต่ถ้าหากมีริ้วรอยแล้ว และเป็นรอยตีนกาที่แม้ไม่แสดงสีหน้า รอยพับเหล่านั้นก็ยังอยู่ ขอแนะนำให้ไปฉีดโบท็อกจะดีกว่า เพราะเห็นผลทันใจ ราคาไม่แพงมากนัก และช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยเพิ่มได้
แต่ถ้าหากมีริ้วรอยค่อนข้างเยอะและเป็นร่องลึก การฉีดสารเติมเต็มให้ผิวจะช่วยให้ร่องลึกแลดูจางลงได้ และหากใครอยากกระชับผิวให้เต่งตึง ไปพร้อมๆ กับลดเลือนริ้วรอย หรือให้ผิวกระจ่างใสร่วมด้วย การลดตีนกาด้วยการทำ Hifu หรือการทำเลเซอร์ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน เพื่อการรักษาได้อย่างตรงจุด และได้ผลลัพธ์ที่ดีดังใจปรารถนา อทิตาคลินิก พร้อมให้คำปรึกษาเพื่อให้คุณได้รับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมกับทุกปัญหาผิวของคุณ โดยพร้อมให้คำแนะนำและการดูแลอย่างใกล้ชิด สามารถติดต่อขอรับคำปรึกษาได้ที่อทิตาคลินิกทุกสาขา หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 094-324-4442