Sculptra คืออะไร ราคาเท่าไหร่ ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้อย่างไร
โปรร้อยไหม-โปรร้อยไหมราคาถูก-ร้อยไหมที่ไหนดี-2025
harmonyca ราคา, harmonyca คือ, profhilo ราคา, profhilo คือ
โปรร้อยไหม-โปรร้อยไหมราคาถูก-ร้อยไหมที่ไหนดี-โปรฟิลเลอร์-โปรโบท็อกซ์-ฉีดฟิลเลอร์ทีไหนดี-ฉีดโบท็อกซ์ที่ไหนดี-2025
cover-atita-2024---cover-the-master---sculptra
ร้อยไหมที่ไหนดี-2025
อทิตาคลินิก คลินิกเสริมความงาม
cover-allergan
previous arrowprevious arrow
next arrownext arrow

ฟิลเลอร์ คืออะไร Filler ช่วยอะไรได้บ้าง?

การฉีดฟิลเลอร์เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปลักษณ์โดยไม่ต้องพึ่งพาการผ่าตัด แต่สำหรับผู้ที่ไม่เคยฉีดฟิลเลอร์มาก่อน อาจมีคำถามและข้อกังวลมากมาย ดังนั้นการเตรียมตัวให้พร้อมและรู้ข้อมูลสำคัญก่อนเข้ารับบริการครั้งแรกจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ในบทความนี้ Atita Clinic จะพาคุณไปทำความรู้จักกับข้อควรรู้และเคล็ดลับต่าง ๆ ที่ควรทราบก่อนการฉีดฟิลเลอร์

Table of Contents

ฟิลเลอร์คืออะไร

ฟิลเลอร์ คือ การฉีดสารเติมเต็มผิวด้วยสารไฮยาลูโรนิคแอซิด ( Hyaluronic Acid ) หรือเรียกว่า “HA” เพื่อช่วยเติมเต็มหรือเสริมในชั้นผิวหนังและใต้ผิวหนัง  HA จะช่วยกักเก็บน้ำให้แก่ชั้นใต้ผิวในจุดที่ต้องการได้รับการแก้ไขเพื่อเติมเต็มช่องว่างให้กับเซลล์ผิวหนัง ทำให้ผิวเกิดความยืดหยุ่น เพิ่มความเต่งตึงเนียนเรียบ ปราศจากริ้วรอย เราจะใช้ ฟิลเลอร์ ในส่วนที่เป็นริ้วรอยร่องลึก ที่เกิดขึ้นตามจุดต่างๆบนใบหน้าทำให้ร่องดูตื้นขึ้น และเป็นการเติมใยคอลลาเจนที่หายไป ให้กลับมาดูอิ่มเอิบ ส่งผลให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์กว่าวัยได้อย่างชัดเจน ฟิลเลอร์แท้ สามารถสลายตัวไปได้เองตามธรรมชาติ  ฟิลเลอร์ยังสามารถนำมาช่วยในการแก้ไขในปรับแต่งรูปหน้าได้อีกด้วย คนไข้ที่เริ่มมีอายุมากขึ้น ทำให้คอลลาเจนลดลงหรือกระดูกยุบตัวลง สามารถใช้ฟิลเลอร์ในการแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ แม้กระทั่งการนำมาใช้ในการบำรุงผิวให้กระชับเปล่งปลั่งชุ่มชื้นขึ้น

ฟิลเลอร์ฉีดตรงไหนได้บ้าง

  • หน้าผาก : เติมเต็มหน้าผากกลมสวย เสริมโหงวเฮ้ง  
  • ร่องคิ้ว : เติมเต็มร่องเหนือคิ้ว   
  • ร่องลึกหว่างคิ้ว : เติมร่องลึกระหว่างคิ้ว   
  • ใต้ตา : เติมเต็มใต้ตาลึก แก้ปัญหาถุงใต้ตา   
  • ขมับ : เติมเต็มขมับตอบให้อิ่มเต็มยิ่งขึ้น   
  • จมูก : เติมสันจมูกให้โด่ง คม ชัดขึ้น  
  • ร่องแก้ม : เติมเต็มร่องแก้มลึก  
  • แก้มส้ม : เติมเต็มให้ใบหน้าเอิบอิ่มอ่อนเยาว์   
  • ปาก : เติมเต็มให้ปากสวยอวบอิ่ม เติมขอบปากแต่งทรงของปากให้สวยชัดดูสวยขึ้น   
  • คาง : เติมเต็มคาง เสริมคางให้เรียวขึ้น  

 ฉีดฟิลเลอร์แต่ละส่วนใช้กี่ CC

  • ฟิลเลอร์ใต้ตา : 2 – 4 CC
  • ฟิลเลอร์หน้าผาก : 3 – 5 CC
  • ฟิลเลอร์แก้มส้ม : 1 – 2 CC
  • ฟิลเลอร์ขมับ : 2 – 4 CC
  • ฟิลเลอร์ปาก : 1 – 2 CC
  • ฟิลเลอร์คาง : 1 -2 CC
  • ฟิลเลอร์ร่องแก้ม : 1 – 3 CC
แพทย์หญิงอาทิตยา เม่งศิริ

ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์ที่อทิตาคลินิก

อทิตาคลินิกเราใส่ใจคนไข้ในทุกเคส เพื่อผลลัพธ์การรักษาที่ดีเยี่ยม เราวิเคราะห์ใบหน้าแบบเคสต่อเคส เพราะใบหน้าแต่ละคนมีพื้นฐาน และปัญหาที่ต่างกันออกไป ทำให้แพทย์สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด การปรับแต่งดีไซน์ใบหน้าของทางอทิตาคลินิกเป็นการปรับแต่งที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อนใด ๆ เนื่องจากเราใช้เข็มทู่ในการรักษา หลังทำคนไข้สามารถไปทำงานหรือใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติหลังการรักษา 

ฉีดฟิลเลอร์ที่อทิตาคลินิก ไม่ต้องซื้อเพิ่ม เราให้ฟรี 4 รายการ !! 

  • Free ฟรี ทาครีมยาชาก่อนทำ 
  • Free ฟรี ฉีดยาชาก่อนทำ 
  • Free ฟรี เข็มทู่ ( Blunt Cannula ) 
  • Free ฟรี ยาทานหลังทำ

กดเลือกอ่านตามหัวข้อต่าง ๆ

ฟิลเลอร์อันตรายไหม ?

การฉีดฟิลเลอร์ เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน และขณะนี้มีฟิลเลอร์ให้เลือกใช้มากมาย  หลายยี่ห้อ หลายรุ่น สามารถฉีดได้หลายตำแหน่ง ถ้าใช้ฟิลเลอร์แท้ซึ่งเป็นสาร HA (Hyaluronic acid) 100% ฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง โดยแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญ
หากมีการใช้สารอื่นแทนฟิลเลอร์ เช่น ซิลิโคนเหลว ฟิลเลอร์ปลอม ก็อาจจะเกิดผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดและเป็นอันตรายได้ ปัญหาเหล่านี้มักเกิดจากการทำฟิลเลอร์ กับแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญพอ  และฟิลเลอร์ไม่มีมาตรฐาน

แพทย์หญิงอาทิตยา เม่งศิริ

ไม่กล้าฉีดฟิลเลอร์เพราะกลัวไหลไปยังส่วนอื่นของใบหน้า เป็นไปได้จริงหรือไม่ ?

1.ไม่ฉีดฟิลเลอร์ที่มีการอวดอ้างสรรพคุณ ว่าฟิลเลอร์ที่ฉีดให้เป็นแบบกึ่งถาวร หรือสามารถอยู่ได้นานเกินกว่า 5 ปี เพราะเป็นฟิลเลอร์ที่ไม่สามารถสลายเองได้ ฟิลเลอร์หากอยู่ใต้ผิวหนังเป็นระยะเวลานานเกินไป อาจจะมีการเคลื่อนตำแหน่งไปยังจุดอื่นบนใบหน้าได้ 

เมื่อคนไข้จะฉีดฟิลเลอร์ ควรศึกษา-วิธีการสังเกตฟิลเลอร์ของแท้ยี่ห้อต่างๆ ที่สำคัญคือ ก่อนฉีดฟิลเลอร์ควรให้หมอแกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า และขอกล่องและหลอดกลับบ้าน หรือถ่ายรูปเก็บไว้ตรวจสอบ เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐานจะดีที่สุด 

2.ควรเลือกฟิลเลอร์ที่มีลักษณะโมเลกุลเล็ก มีความละเอียดเหมาะสมกับผิวหนังในบริเวณที่ต้องการฉีดแก้ไข เพราะถ้าฉีดฟิลเลอร์ชนิดที่มีความละเอียดของโมเลกุลใหญ่มากเกินไป จะไม่เหมาะกับผิวบริเวณที่ฉีด ส่งผลให้หนักและหน่วงผิว ทำให้ฟิลเลอร์เกิดการเคลื่อนที่ ยังบริเวณอื่นบนใบหน้าได้ (คนทั่วไปจะเรียกกันว่า ฟิลเลอร์ไหล) 

ดังนั้นคนไข้ควรปรึกษากับแพทย์ผู้ความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์สูงเฉพาะทาง ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยเลือกฟิลเลอร์ให้เหมาะสม โดยเลือกฟิลเลอร์ที่มีขนาดโมเลกุลละเอียดกับผิวบริเวณที่ต้องการฉีด

การฉีด Filler ต้องทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล ?

โดยทั่วไปฟิลเลอร์จะเห็นผลชัดเจน ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ จะอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน บางคนอาจจะทำน้อยหรือมากกว่านี้ขึ้นกับอายุ การดูแลผิว และการดำเนินชีวิต

* ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

ถ้าฉีดฟิลเลอร์แล้วไม่ฉีดอีกจะทำให้หน้ายิ่งเหี่ยวหนักกว่าเดิม จริงหรือไม่?

คำตอบคือ ไม่จริง เพราะฟิลเลอร์แท้จะสลายหมด 100% ไม่มีสารตกค้าง ไม่มีผลทำให้ผิวหน้าเหี่ยวมากกว่าเดิม หากถ้าไม่ได้ฉีดฟิลเลอร์ต่อเนื่อง ผิวก็จะกลับคืนสภาพเดิม แต่ยังดีกว่าเดิม เนื่องจากฟิลเลอร์จะทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดและรอบๆ มีความชุ่นชื้น มีน้ำมาหล่อเลี้ยงมากขึ้น ทำให้คอลลาเจนและอิลาสตินบริเวณนั้นถูกสร้างขึ้นมาด้วย ต่อให้ฟิลเลอร์สลายหมด คอลลาเจน และอิลาสตินของร่างกายก็ยังคงอยู่

ที่มีการกล่าวว่า ถ้าไม่ฉีดต่อเนื่องจะทำให้หน้าเหี่ยวกว่าเดิม เป็นเพราะไม่คุ้นเคยกับลักษณะของผิวหน้าตัวเองในตอนที่ฟิลเลอร์สลายหมดแล้ว หรืออาจเกิดจากลักษณะการใช้ชีวิต (lifestyle) ที่ไม่ดูแลรักษาสุขภาพของตนเอง เช่น นอนดึก ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ออกกำลังกาย ตากแดด โดยไม่ปกป้องผิวด้วยการทาครีมกันแดดหรือกางร่ม รวมทั้งอายุที่เพิ่มมากขึ้นด้วยค่ะ

อาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นหลังการฉีดฟิลเลอร์

หลังฉีดฟิลเลอร์ อาจมีรอยแดงจากเข็ม หายไปเองได้ใน 2-3 วัน และจะอาการบวมหลังฉีด เป็นปกติค่ะ สามารถหายบวมไปเองได้ ประมาณ 7-14 วัน ฟิลเลอร์จะเข้าที่ และเห็นผลลัพธ์ชัดเจน

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์

  1. หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกาและกดนวดในจุดที่ฉีด อาจมีอาการบวมแดงหรือเขียวช้ำเป็นปกติ จะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2-3 วัน (หากหลังจาก 3 วันไปแล้ว มีอาการบวมมากขึ้นให้ติดต่อกลับมาที่คลินิกเพื่อรับยากินเพิ่ม)
  2. หากก่อนทำไม่ได้กินยาฆ่าเชื้อ หลังทำควรรีบกินยาฆ่าเชื้อทันที นอกจากนี้ยังมียาแก้ปวด ลดบวมกลับไปให้ทานด้วย
  3. ควรอยู่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม. เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ตากแดด
  4. ให้งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิดอย่างน้อย 1 เดือน
  5. อย่าขยับผิวในจุดที่ทำมากโดยเฉพาะช่วง 3 วันแรก เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนได้
  6. ควรงดทานอาหารบางอย่างที่ส่งผลต่อการอักเสบ บวมและทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้า ดังนี้
    • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
    • อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ หมูกระทะ ชาบู
    • อาหารหมักดอง อาหารที่เผ็ดมาก ๆ จนหน้าแดง อาหารหวานจัดและอาหารดิบจากร้านที่ไม่สะอาด
    • งดสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้ยุบบวมช้าและส่งผลการรักษาอยู่ได้สั้นลงด้วย
* ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

ฉีดฟิลเลอร์บริเวณไหนได้บ้าง

  • หน้าผาก เติมเต็มหน้าผากกลมสวย เสริมโหงวเฮ้ง  
  • ร่องคิ้ว เติมเต็มร่องเหนือคิ้ว   
  • ร่องลึกหว่างคิ้ว เติมร่องลึกระหว่างคิ้ว   
  • ใต้ตา เติมเต็มใต้ตาลึก แก้ปัญหาถุงใต้ตา   
  • ขมับ เติมเต็มขมับตอบให้อิ่มเต็มยิ่งขึ้น   
  • จมูก เติมสันจมูกให้โด่ง คม ชัดขึ้น  
  • ร่องแก้ม เติมเต็มร่องแก้มลึก  
  • แก้มส้ม เติมเต็มให้ใบหน้าเอิบอิ่มอ่อนเยาว์   
  • ปาก เติมเต็มให้ปากสวยอวบอิ่ม เติมขอบปากแต่งทรงของปากให้สวยชัดดูสวยขึ้น   
  • คาง เติมเต็มคาง เสริมคางให้เรียวขึ้น  
  • ฉีดทั่วหน้า เติมความชุ่มชื้นให้ผิว เติมริ้วรอยตื้นๆ เติมหลุมสิว เติมรอยแผลเป็นได้

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์

  1. ฟิลเลอร์ช่วยชะลอวัย
  2. ฉีดฟิลเลอร์ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง 
  3. ฟิลเลอร์ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีรอยแผลเป็น 
  4. ฟิลเลอร์สามารถเติมได้ปรับแต่งได้ (สามารถฉีดสลายออกได้) 
  5. ฟิลเลอร์ให้ผลได้แม่นยำ สวยเป็นธรรมชาติ
  6. ฟิลเลอร์มีหลายรุ่น ความละเอียดของเนื้อฟิลเลอร์แตกต่างกัน สามารถเลือกใช้รุ่นที่เหมาะเฉพาะบริเวณได้

ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์

  1. ฟิลเลอร์ ไม่สามารถอยู่ได้ถาวร 
  2. ฟิลเลอร์ราคาค่อนข้างสูง 
  3. ฟิลเลอร์ ไม่เหมาะกับบางตำแหน่งในร่างกาย เช่น หน้าอก สะโพก เพราะต้องใช้ฟิลเลอร์ปริมาณมาก หลายร้อย cc ราคาอาจจะสูงเกิน 1 ล้านบาท (บริเวณเหล่านี้ ใช้การผ่าตัดเสริมซิลิโคน จะดีที่สุด)

ฉีดสลายฟิลเลอร์

สำหรับคนที่ฉีดฟิลเลอร์ไประยะหนึ่งแล้วพบอาการบวม เป็นก้อน กดไม่ลง หรือไม่พอใจกับผลลัพธ์ที่ฉีด เป็นปัญหาทำให้กังวลและเสียความมั่นใจ

หากปรึกษาหมอแล้วพิจารณาว่าเกิดจากเทคนิคการฉีดและฉีดโดยใช้ฟิลเลอร์แท้ จะสามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์

โดยปกติฟิลเลอร์แท้ Hyaluronic Acid ที่ได้มาตรฐานจะสลายไปเองตามธรรมชาติ เร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของแต่ละยี่ห้อ แต่หากต้องการสลายทันทีก็สามารถใช้เอนไซม์ที่ Hyaluronidase ช่วยละลายออกได้ เป็นวิธีทำให้ฟิลเลอร์สลายอย่างรวดเร็ว ทำให้ผิวกลับคืนสภาพเดิม หลังจากนั้นหากอยากฉีดฟิลเลอร์เพิ่มอีกก็สามารถทำได้ค่ะ

ขูดฟิลเลอร์

หากมีอาการบวม แดง อักเสบ จากการพลาดฉีดฟิลเลอร์ปลอม เนื้อฟิลเลอร์ไม่สามารถสลายไปเองได้เมื่อเวลาผ่านไปจะทำให้เกิดเป็นก้อนแข็ง ไหลย้อย วิธีแก้ไขคือต้องผ่าตัดหรือขูดฟิลเลอร์ออก ซึ่งหากฉีดมาเป็นเวลานานจนเป็นพังผืดเกาะ ก็อาจไม่สามารถเอาเนื้อฟิลเลอร์ปลอมออกได้ทั้งหมด

ผ่าตัดเอาฟิลเลอร์ออก

กรณีนี้แก้ไขในผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์ประเภทซิโคนเหลว เป็นก้อนขนาดใหญ่และแข็งมาก รวมไปถึงผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์มานานจนเป็นพังผืดเกาะ

การผ่าตัดส่วนใหญ่จะไม่สามารถเอาฟิลเลอร์ออกได้หมด ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดมา ต้องระวังทั้งเรื่องของเส้นประสาท เส้นเลือดสำคัญต่าง ๆ ควรปรึกษาแพทย์ศัลยกรรมในโรงพยาบาล

ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี รุ่นไหนดี?

การฉีดฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะตำแหน่งไหนสามารถเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ ตามความเหมาะสม โดยไม่ต้องรอให้ฟิลเลอร์ที่เคยฉีดไปแล้วสลายหมดก่อน ไม่มีผลเสียค่ะ

หลังฟิลเลอร์สลายหมดแล้ว เปลี่ยนยี่ห้อที่ฉีดได้ไหม?

หากหลังจากที่ฟิลเลอร์สลายไปหมดแล้ว อยากเติมเพิ่มอีก สามารถเปลี่ยนยี่ห้อได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องฉีดยี่ห้อเดิม

 ฉีดฟิลเลอร์ ราคาเท่าไหร่?

Filler ราคาจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่ใช้ และปริมาณที่ฉีด สามารถเช็กราคาโปรโมชันได้ที่นี่

นอกจาก Filler แล้ว ยังมีโปรโมชันบริการอื่น ๆ ของอทิตาคลินิกเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น ร้อยไหม เสริมจมูก เสริมคาง ทำตาสองชั้น ทำปากกระจับ ยกกระชับหน้าด้วย HIFU หรือ Ulthra SPT และอื่น ๆ

เราจะเลือกฉีดตัวไหนดีคะหมอ?

ฟิลเลอร์แต่ละรุ่นเหมาะกับการใช้ฉีดในจุดต่าง ๆ ของใบหน้าไม่เหมือนกันค่ะ  ถ้าเปรียบง่าย ๆ ฟิลเลอร์เป็นกระเป๋าสักใบ ซึ่งก็มี หลายรุ่น หลายแบรนด์ แต่ละแบรนด์ ก็จะมีหลายคอลเลคชั่น และราคาถูก-แพง ไปตามแบรนด์ต่าง ๆ ส่วนคุณสมบัติแต่ละรุ่น ก็จะแตกต่างกันไปตามการใช้งาน ฟังก์ชั่นต่าง ๆ ค่ะ และแน่นอน มีของแท้ ก็ต้องมีของปลอม ของก๊อปออกมาให้ปวดหัวไปอีกค่ะ ของปลอมราคาถูกก็จริง แต่อย่าถามถึงคุณภาพนะคะ เสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงแถมไม่ย่อยสลายและตกค้างในร่างกาย ไม่คุ้มเลยค่ะ


ฟิลเลอร์ปลอม vs ของแท้ มันมีจุดแตกต่างกันที่เราสามารถเช็คได้ค่ะ ทีนี้เราจะมีวิธีการเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะกับจุดที่เราต้องการฉีด เหมาะกับความต้องการของเรา และที่สำคัญคือเหมาะกับงบที่เรามีด้วย อันนี้ก็สำคัญใช่มั้ยคะ 

เรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำคนไข้ที่สนใจฉีดฟิลเลอร์เติมเต็ม แก้ไขปัญหาร่องลึกต่าง ๆ บนใบหน้า โดยเราจะวิเคราะห์ใบหน้าแบบ personalize เคสต่อเคส โดยรักษาแบบองค์รวม เพื่อให้ทั้งใบหน้าดูสวยขึ้น ดูดีขึ้น รับกับใบหน้าเดิม และได้ผลลัพธ์ออกมาแบบไม่ปลอม ไม่โป๊ะ หน้าไม่แข็ง ซึ่งก็เป็นโจทย์ของการออกแบบใบหน้า ให้แลดูสวยขึ้นแบบเป็นธรรมชาติมากที่สุด  Beauty look Natural ซึ่ง อทิตาคลินิก เรามีชื่อเสียง อันดับหนึ่งในด้านการปรับรูปหน้า ออกแบบใบหน้า และดีไซน์ใบหน้าด้วยค่ะ

ฟิลเลอร์  5 แบรนด์ ที่ อทิตาคลินิก

JUVEDERM

ฟิลเลอร์ Juvederm (จูวีเดิม) เป็นฟิลเลอร์จากประเทศอเมริกา จัดอยู่ในกลุ่มสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid (HA) ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศไทย (THFDA) สหรัฐอเมริกา (USFDA) และ EDQM ผลิตโดยบริษัท Allergan บริษัทเดียวกับ Botox Allergan และถูกนำเข้ามาในประเทศไทยโดยบริษัท Allergan Thailand

 

จุดเด่นของฟิลเลอร์ Juvederm มีอะไรบ้าง?

จุดเด่นของฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm คือเทคโนโลยี Hylacross และ Vycross ที่จะทำให้เนื้อฟิลเลอร์สามารถอุ้มน้ำได้ดี มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับของผิวหน้าได้ดี มีอัตราการบวมน้ำน้อย ส่งผลให้ผลลัพธ์หลังฉีด ผิวมีความเรียบเนียน ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน อีกทั้งยังมีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) ช่วยให้บรรเทาความเจ็บปวดบริเวณที่ฉีด Hylacross Technology คือเทคโนโลยีที่มีความโดดเด่นในเรื่องของค่าความอุ้มน้ำได้มาก ฉีดแล้วฟู เนื้อเจลมีความเนียนละเอียด สารเติมเต็ม Hyaluronic Acid มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับได้ดี จึงเหมาะแก่การฉีดบริเวณผิวที่มีการขยับบ่อย ๆ เช่น บริเวณร่องแก้ม บริเวณปาก Vycross Technology คือเทคโนโลยีที่พัฒนามาจากกลุ่ม Hylacross มีโมเลกุลยึกเกาะหนาแน่น มีคุณสมบัติช่วยยกกระชับ มีอัตราการบวมน้ำน้อย และค่าอุ้มน้ำน้อย ผลลัพธ์หลังฉีดจะไม่เป็นก้อน มีความเรียบเนียน ดูเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นาน สามารถใช้ยกกระชับได้

 

ข้อมูลฟิลเลอร์ Juvederm เพิ่มเติม…

Restylane

ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ จาก ประเทศสวีเดน จากบริษัท Galderma  เป็นผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ผ่านปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางโมเลกุลน้อยที่สุด (ต่ำกว่า 1% Minimal Stabilization) ทําให้มีความใกล้เคียงกับ สารไฮยาลูโรนิคแอซิด ตามธรรมชาติที่มีอยู่ในร่ายกายของเรา ทําให้สามารถใช้กับร่างกายของเราได้ดี และไม่ส่งผลให้เกิดอาการแพ้ Restylane คุณสมบัติในการยกผิว (Lifting Capacity) ทําให้สามารถใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณเพียงเล็กน้อย ก็ทําให้ยกกระชับใบหน้าได้ โดยความแตกต่างอีกอย่างหนึ่งที่เป็นจุดเด่นของตัวผลิตภัณฑ์ Restylane นั้น คือการใช้เทคโนโลยีใน การผลิตที่แตกต่างกัน โดยจะถูกแบ่งออกเป็น 2 แบบได้แก่ 

ฟิลเลอร์ Restylane มีการใช้เทคโนโลยีใน การผลิตที่แตกต่างกัน แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ

NASHA (Non-Animal Stabilized Hyaluronic Acid)

เป็นเทคนิคพิเศษ ทําให้เกิดอาการแพ้หรือระคาย เคืองได้น้อยมาก

ได้แก่รุ่น  Lidocain, LIFT, Skinbooster Vital, Skinbooster Vital light

OBT (Optimal Balance Technology)

เป็นเทคโนโลยีการผลิตใหม่ จุดเด่นคือ ฟิลเลอร์มีเนื้อเจลนิ่ม มีความยืดหยุ่นสูง สมานเข้ากับเนื้อเยื่อได้ดี สามารถช่วยเติมเต็ม และปรับรูปหน้าให้สวยละมุนอย่างเป็นธรรมชาติ

ได้แก่รุ่น Volyme, Defyne, Refyne, Fyness, Kysse

 

ข้อมูลฟิลเลอร์ Restylane เพิ่มเติม…

NEURAMIS

จุดเด่นของรุ่น

  • ใช้เติมส่วนที่ต้องการเพิ่มวอลลุ่มได้ดี 
  • ราคาไม่แพงมาก
  • ฟิลเลอร์ HA สูง อยู่ได้นานถึง 12 เดือน 

Neuramis รุ่น DEEP เป็นฟิลเลอร์ใหม่ล่าสุดจากประเทศเกาหลี จากบริษัทที่ผลิตตัวยาปรับรูปหน้ายี่ห้อที่เรารู้จักกันดี ปัจจุบันได้ส่งออกผลิตภัณต์ขายไปแล้วหลายประเทศทั่วโลก 
Neuramis รุ่น Deep (แบบไม่ผสมยาชา) ผ่านการรับรองจาก FDA องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกามาด้วย สำหรับตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับการเติม คือ จุดที่ volume หายไป เช่น ร่องแก้ม ขมับ คาง เป็นต้น ส่วนจุดที่ไม่ควรเติมเต็มด้วย Neuramis deep คือบริเวณใต้ตา เพราะจะเป็นก้อนได้

ข้อมูลฟิลเลอร์ Nueramis เพิ่มเติม…

Belotero

ฟิลเลอร์ Belotero เป็นตระกูลยี่ห้อฟิลเลอร์จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ซึ่งถูกซื้อโดยบริษัท Merz ของเยอรมันเจ้าของลิขสิทธิ์เครื่อง Ulthera หรืออัลเธอร่านั่นเองซึ่งฟิลเลอร์ตระกูล Beloteroนี้มีหลายรุ่นหรือหลายชนิดเช่นกัน มีสีสันสดใสและมีหลากสีสัน แต่ละสีเหมาะกับบางจุด เพื่อให้แต่ละจุดเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

BELOTERO ฟิลเลอร์ Belotero เป็นฟิลเลอร์จากสวิสเซอร์แลนด์ ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะราคาไม่แพง ทุกคนสามารถจับต้องได้ นำเข้าโดยบริษัท Merz Aesthetic Thailand ผ่านการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง จึงสามารถมั่นใจได้ว่าฉีด ฟิลเลอร์ Belotero ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามที่ต้องการ

ด้วยผลิตด้วยเทคโนโลยี CPM Technology ซึ่งเป็นนวัตกรรมการผลิตพิเศษที่มีแค่ยี่ห้อนี้เท่านั้น ทำให้ได้เนื้อเจลที่มีความเรียบเนียน กลืนกับผิวหน้าได้ดี สามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกสภาพผิว และพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อแก้ปัญหาผิวเฉพาะจุดในระดับความรุนแรงของริ้วรอยที่แตกต่างกัน

ข้อมูลฟิลเลอร์ Belotero เพิ่มเติม…

Saypha

Saypha เป็นผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์จากบริษัท Croma ที่มีประสบการณ์การผลิตฟิลเลอร์ HA มายาวนานกว่า 40 ปี พัฒนาด้วยเทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะ จำหน่ายใน 79 ประเทศทั่วโลก มียอดขายมากกว่า 50 ล้านชิ้น ผลิตภัณฑ์ผ่านการรับรองมาตรฐานและมีความน่าเชื่อถือในระดับสากล ใช้กรดไฮยาลูโรนิกที่ไม่มีส่วนผสมจากสัตว์ และกระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงที่ให้ผลลัพธ์คุณภาพสูงสุด

ฟิลเลอร์ Saypha มีอะไรบ้าง

  1. Saypha RICH – เติมเต็มความชุ่มชื่น ลดการสูญเสียน้ำ เหมาะสำหรับริ้วรอยเล็กๆ เช่น ตีนกา เส้นยิ้ม และรอยย่นรอบปาก
  2. Saypha FILLER – เน้นเติมเต็มบริเวณร่องแก้ม ร่องปาก และร่องจมูก ฉีดในชั้นผิวกลางถึงลึก ช่วยให้ใบหน้าดูอิ่มเต่งตึง
  3. Saypha VOLUME – แก้ไขริ้วรอยลึก เติมเต็มแผลเป็น ช่วยรักษาไขมันบนใบหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 30-65 ปี
  4. Saypha VOLUME PLUS – ฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูงสุด เหมาะสำหรับการปรับรูปหน้า โดยเฉพาะบริเวณแก้ม ขมับ คาง และแนวกราม

ข้อดีของฟิลเลอร์ Saypha

  • เข้ากับผิวได้ดี เพราะใช้กรดไฮยาลูโรนิกที่ไม่มีส่วนผสมจากสัตว์
  • ฉีดแล้วเจ็บน้อย ด้วยการออกแบบเข็มฉีดที่ทันสมัย
  • ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและคงอยู่ได้นานหลายเดือน
  • เห็นผลทันทีหลังการรักษา
  • มีความปลอดภัยสูง ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากล
  • ได้รับความพึงพอใจจากผู้ใช้สูงถึง 98%

ข้อมูลฟิลเลอร์ Saypha เพิ่มเติม…

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฟิลเลอร์

1. ไม่กล้าฉีดฟิลเลอร์เพราะกลัวไหลไปยังส่วนอื่นของใบหน้า เป็นได้จริงหรือไม่ ?

  • ไม่ฉีดฟิลเลอร์ที่มีการอวดอ้างสรรพคุณ ว่าฟิลเลอร์ที่ฉีดให้เป็นแบบกึ่งถาวร หรือสามารถอยู่ได้นานเกินกว่า 5 ปี เพราะเป็นฟิลเลอร์ที่ไม่สามารถสลายเองได้ ฟิลเลอร์หากอยู่ใต้ผิวหนังเป็นระยะเวลานานเกินไป อาจจะมีการเคลื่อนตำแหน่งไปยังจุดอื่นบนใบหน้าได้ เมื่อคนไข้จะฉีดฟิลเลอร์ ควรศึกษา-วิธีการสังเกตฟิลเลอร์ของแท้ยี่ห้อต่าง ๆ ที่สำคัญคือ ก่อนฉีดฟิลเลอร์ควรให้หมอแกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า และขอกล่องและหลอดกลับบ้าน หรือถ่ายรูปเก็บไว้ตรวจสอบ เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐานจะดีที่สุด 
  • ควรเลือกฟิลเลอร์ที่มีลักษณะโมเลกุลเล็ก มีความละเอียดเหมาะสมกับผิวหนังในบริเวณที่ต้องการฉีดแก้ไข เพราะถ้าฉีดฟิลเลอร์ชนิดที่มีความละเอียดของโมเลกุลใหญ่มากเกินไป จะไม่เหมาะกับผิวบริเวณที่ฉีด ส่งผลให้หนักและหน่วงผิว ทำให้ฟิลเลอร์เกิดการเคลื่อนที่ ยังบริเวณอื่นบนใบหน้าได้ (คนทั่วไปจะเรียกกันว่า ฟิลเลอร์ไหล)

    ดังนั้นคนไข้ควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์สูงเฉพาะทาง ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยเลือกฟิลเลอร์ให้เหมาะสม โดยเลือกฟิลเลอร์ที่มีขนาดโมเลกุลละเอียดกับผิวบริเวณที่ต้องการฉีด

2. ถ้าฉีดฟิลเลอร์แล้วไม่ฉีดอีกจะทำให้หน้ายิ่งเหี่ยวหนักกว่าเดิม จริงหรือไม่?

คำตอบคือ ไม่จริง เพราะฟิลเลอร์แท้จะสลายหมด 100% ไม่มีสารตกค้าง ไม่มีผลทำให้ผิวหน้าเหี่ยวมากกว่าเดิม หากถ้าไม่ได้ฉีดฟิลเลอร์ต่อเนื่อง ผิวก็จะกลับคืนสภาพเดิม แต่ยังดีกว่าเดิม เนื่องจากฟิลเลอร์จะทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดและรอบ ๆ มีความชุ่นชื้น มีน้ำมาหล่อเลี้ยงมากขึ้น ทำให้คอลลาเจนและอิลาสตินบริเวณนั้นถูกสร้างขึ้นมาด้วย ต่อให้ฟิลเลอร์สลายหมด คอลลาเจน และอิลาสตินของร่างกายก็ยังคงอยู่

ที่มีการกล่าวว่า ถ้าไม่ฉีดต่อเนื่องจะทำให้หน้าเหี่ยวกว่าเดิม เป็นเพราะไม่คุ้นเคยกับลักษณะของผิวหน้าตัวเองในตอนที่ฟิลเลอร์สลายหมดแล้ว หรืออาจเกิดจากลักษณะการใช้ชีวิต (lifestyle) ที่ไม่ดูแลรักษาสุขภาพของตนเอง เช่น นอนดึก ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ออกกำลังกาย ตากแดด โดยไม่ปกป้องผิวด้วยการทาครีมกันแดดหรือกางร่ม รวมทั้งอายุที่เพิ่มมากขึ้นด้วยค่ะ

3. ต้องรอฟิลเลอร์เก่าสลายหมดก่อนไหม ถึงจะฉีดเพิ่มได้?

การฉีดฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะตำแหน่งไหนสามารถเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ ตามความเหมาะสม โดยไม่ต้องรอให้ฟิลเลอร์ที่เคยฉีดไปแล้วสลายหมดก่อน ไม่มีผลเสียค่ะ

4. หลังฟิลเลอร์สลายหมดแล้ว เปลี่ยนยี่ห้อที่ฉีดได้ไหม?

หากหลังจากที่ฟิลเลอร์สลายไปหมดแล้ว อยากเติมเพิ่มอีก สามารถเปลี่ยนยี่ห้อได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องฉีดยี่ห้อเดิม

5. ฉีดฟิลเลอร์บวมกี่วัน กี่วันเห็นผล

หลังจากฉีดฟิลเลอร์ อาจมีอาการบวมเล็กน้อยในช่วง 1-3 วันแรก ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดและสภาพผิวของแต่ละคน ผลลัพธ์จะเริ่มเห็นได้ชัดเจนภายใน 7-14 วัน เมื่อฟิลเลอร์เซ็ตตัวเต็มที่และอาการบวมลดลงค่ะ

6. ฟิลเลอร์อยู่ได้นานไหม

ฟิลเลอร์สามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ การดูแลรักษาหลังการฉีด และปัจจัยส่วนบุคคล เช่น การใช้ชีวิตและการดูแลผิว ยิ่งฟิลเลอร์มีคุณภาพสูงและการดูแลผิวหลังการฉีดเหมาะสม ฟิลเลอร์ก็จะอยู่ได้นานมากขึ้นค่ะ

7. อาการแพ้ฟิลเลอร์เป็นอย่างไร 

อาการแพ้ฟิลเลอร์อาจเกิดขึ้นได้แม้จะพบได้น้อย ซึ่งอาการที่ควรระวัง ได้แก่

  • ผื่นแดงหรือบวมมากผิดปกติบริเวณที่ฉีด
  • คันหรือแสบร้อนที่ผิว
  • ผิวเปลี่ยนสีหรือเป็นรอยคล้ำ
  • มีตุ่มหรือก้อนที่บริเวณฉีด
  • อาการหายใจลำบากหรืออาการแพ้รุนแรงอื่น ๆ ควรรีบพบแพทย์ทันที

8. ฟิลเลอร์ทำให้หน้าใสไหม

สารไฮยาลูรอนิกแอซิด (HA) ที่ใช้ในฟิลเลอร์ยังมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความกระจ่างใสให้กับบริเวณที่ฉีด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ ขอบตาดำ หรือดวงตาที่ลึกโหล การฉีดฟิลเลอร์สามารถทำให้ผิวกลับมาดูสดใส เปล่งปลั่ง และดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้ค่ะ

Certificate

แพทย์หญิงอาทิตยา เม่งศิริ
certificate-neuramis
filler_cer_subskin

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save