ฟิลเลอร์ คืออะไร Filler ช่วยอะไรได้บ้าง?
การฉีดฟิลเลอร์เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปลักษณ์โดยไม่ต้องพึ่งพาการผ่าตัด แต่สำหรับผู้ที่ไม่เคยฉีดฟิลเลอร์มาก่อน อาจมีคำถามและข้อกังวลมากมาย ดังนั้นการเตรียมตัวให้พร้อมและรู้ข้อมูลสำคัญก่อนเข้ารับบริการครั้งแรกจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ในบทความนี้ Atita Clinic จะพาคุณไปทำความรู้จักกับข้อควรรู้และเคล็ดลับต่าง ๆ ที่ควรทราบก่อนการฉีดฟิลเลอร์
Table of Contents
ฟิลเลอร์คืออะไร
ฟิลเลอร์ คือ การฉีดสารเติมเต็มผิวด้วยสารไฮยาลูโรนิคแอซิด ( Hyaluronic Acid ) หรือเรียกว่า “HA” เพื่อช่วยเติมเต็มหรือเสริมในชั้นผิวหนังและใต้ผิวหนัง HA จะช่วยกักเก็บน้ำให้แก่ชั้นใต้ผิวในจุดที่ต้องการได้รับการแก้ไขเพื่อเติมเต็มช่องว่างให้กับเซลล์ผิวหนัง ทำให้ผิวเกิดความยืดหยุ่น เพิ่มความเต่งตึงเนียนเรียบ ปราศจากริ้วรอย เราจะใช้ ฟิลเลอร์ ในส่วนที่เป็นริ้วรอยร่องลึก ที่เกิดขึ้นตามจุดต่างๆบนใบหน้าทำให้ร่องดูตื้นขึ้น และเป็นการเติมใยคอลลาเจนที่หายไป ให้กลับมาดูอิ่มเอิบ ส่งผลให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์กว่าวัยได้อย่างชัดเจน ฟิลเลอร์แท้ สามารถสลายตัวไปได้เองตามธรรมชาติ ฟิลเลอร์ยังสามารถนำมาช่วยในการแก้ไขในปรับแต่งรูปหน้าได้อีกด้วย คนไข้ที่เริ่มมีอายุมากขึ้น ทำให้คอลลาเจนลดลงหรือกระดูกยุบตัวลง สามารถใช้ฟิลเลอร์ในการแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ แม้กระทั่งการนำมาใช้ในการบำรุงผิวให้กระชับเปล่งปลั่งชุ่มชื้นขึ้น
ฟิลเลอร์มีกี่แบบ?
ฟิลเลอร์ที่ใช้ในทางการแพทย์เสริมความงามมีหลายประเภท โดยแต่ละชนิดมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้รับบริการและตำแหน่งที่ต้องการฉีด โดยทั่วไปแล้ว ฟิลเลอร์มักแบ่งตามส่วนประกอบหลักและระยะเวลาการคงอยู่ในร่างกาย
- ฟิลเลอร์ไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) – เป็นสารธรรมชาติที่มีอยู่แล้วในร่างกาย อยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน เหมาะสำหรับการเติมเต็มริ้วรอยและเพิ่มปริมาตร
- ฟิลเลอร์แคลเซียม ไฮดรอกซีอะพาไทต์ (Calcium Hydroxyapatite) – มีความหนาแน่นสูง คงอยู่ได้นานถึง 12-24 เดือน นิยมใช้สำหรับเพิ่มปริมาตรและกระชับผิว
- ฟิลเลอร์โพลี่-แอล-แลคติก แอซิด (Poly-L-Lactic Acid) – กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ผลลัพธ์คงอยู่ได้ถึง 2 ปี เหมาะกับการฟื้นฟูผิวและเพิ่มความยืดหยุ่น
- ฟิลเลอร์ไมโครสเฟียร์ (Polymethyl methacrylate) – เป็นฟิลเลอร์ถาวร ใช้สำหรับแก้ไขรอยลึกอย่างถาวร แต่มีความเสี่ยงสูงกว่าประเภทอื่น
- ฟิลเลอร์ออโตโลกัส (Autologous Filler) – ใช้ไขมันจากร่างกายของผู้รับบริการเอง เพื่อลดการแพ้ มีความเป็นธรรมชาติสูง
ฟิลเลอร์ฉีดตรงไหนได้บ้าง
การฉีดฟิลเลอร์สามารถทำได้หลากหลายตำแหน่งบนใบหน้า เพื่อปรับแต่งโครงสร้างและเติมเต็มจุดที่ต้องการ โดยตำแหน่งที่นิยมฉีดฟิลเลอร์มีดังนี้
หน้าผาก
การฉีดฟิลเลอร์บริเวณหน้าผากช่วยเติมเต็มให้หน้าผากดูกลมสวย สมบูรณ์ และเสริมโหงวเฮ้งตามความเชื่อเรื่องโชคลาภ นอกจากนี้ยังช่วยแก้ไขหน้าผากที่ตอบหรือมีรอยบุ๋ม ทำให้โครงหน้าดูอ่อนเยาว์และสมส่วนยิ่งขึ้น
ร่องคิ้ว
การเติมเต็มร่องเหนือคิ้วช่วยแก้ไขปัญหาร่องลึกที่เกิดจากวัยและการเสื่อมของเนื้อเยื่อ ทำให้ดวงตาดูสดใสและเปล่งประกายมากขึ้น การเติมในตำแหน่งนี้ยังช่วยลดรอยเหี่ยวย่นและทำให้ดูมีชีวิตชีวา
ร่องลึกหว่างคิ้ว : ร่องลึกระหว่างคิ้วหรือที่เรียกว่า “ร่องกังวล” มักเกิดจากการขมวดคิ้วบ่อย ๆ การฉีดฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มร่องลึกนี้ ทำให้ใบหน้าดูผ่อนคลายและไม่มีร่องรอยความเครียด ลดความดุดันของใบหน้า
- ใต้ตา : การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาร่องลึกใต้ตาและถุงใต้ตาที่ได้ผลดี ช่วยให้ดวงตาดูสดใส ไม่หมองคล้ำ ลดรอยคล้ำใต้ตาและทำให้ใบหน้าดูสดชื่น ไม่อ่อนเพลีย ฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ให้กับดวงตา
- ขมับ : สำหรับผู้ที่มีปัญหาขมับตอบหรือบุ๋ม การฉีดฟิลเลอร์ที่ขมับจะช่วยเติมเต็มให้ดูอิ่มเต็มและสมดุลกับโครงหน้า ทำให้รูปหน้าดูสมส่วนและอ่อนเยาว์ขึ้น ลดความแหลมคมของใบหน้าส่วนบน
- จมูก : การฉีดฟิลเลอร์ที่จมูกช่วยปรับโครงสร้างให้สันจมูกโด่ง คม และชัดขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด สามารถแก้ไขปลายจมูกบุ๋ม จมูกคด หรือสันจมูกที่ไม่สม่ำเสมอได้ ทำให้โครงหน้าดูโดดเด่นเป็นธรรมชาติ
- ร่องแก้ม : ร่องแก้มลึกมักเกิดจากการสูญเสียไขมันใต้ผิวหนังตามวัย การฉีดฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มร่องลึกนี้ ลดความลึกของร่องแก้ม ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และมีมิติที่สวยงามยิ่งขึ้น
- แก้มส้ม : การเติมฟิลเลอร์ที่แก้มช่วยเพิ่มปริมาตร ทำให้ใบหน้าดูเอิบอิ่ม อ่อนเยาว์ และมีสุขภาพดี เหมาะสำหรับผู้ที่มีใบหน้าผอม แก้มตอบ หรือต้องการเพิ่มความอวบอิ่มให้กับใบหน้า
- ปาก : การฉีดฟิลเลอร์ที่ริมฝีปากช่วยเติมเต็มให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม เสริมขอบปากให้ชัดเจน ปรับรูปทรง แก้ไขความไม่สมมาตร หรือเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้รอยยิ้มดูสวยงามเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น
- คาง : การฉีดฟิลเลอร์ที่คางช่วยเสริมให้คางเรียวสวย ยาวขึ้น หรือเพิ่มความโดดเด่นของโครงหน้า แก้ไขคางสั้น คางเล็ก หรือปรับสมดุลของใบหน้าให้ดูสมส่วนมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด
ฉีดฟิลเลอร์แต่ละส่วนใช้กี่ CC
- ฟิลเลอร์ใต้ตา : 2 – 4 CC
- ฟิลเลอร์หน้าผาก : 3 – 5 CC
- ฟิลเลอร์แก้มส้ม : 1 – 2 CC
- ฟิลเลอร์ขมับ : 2 – 4 CC
- ฟิลเลอร์ปาก : 1 – 2 CC
- ฟิลเลอร์คาง : 1 -2 CC
- ฟิลเลอร์ร่องแก้ม : 1 – 3 CC
ฉีดฟิลเลอร์เจ็บไหม บวมกี่วัน
การฉีดฟิลเลอร์มีความเจ็บปวดน้อยมาก เนื่องจากแพทย์ที่มีประสบการณ์มักจะใช้เข็มที่เล็กและบางพิเศษ และมีการทายาชาเฉพาะที่ก่อนการฉีด ผู้รับบริการอาจรู้สึกเพียงแค่แรงกดเล็กน้อยหรือรู้สึกเสียวเล็กน้อยในขณะที่มีการฉีด ซึ่งทนได้ง่าย โดยระดับความเจ็บปวดขึ้นอยู่กับความอ่อนไหวของแต่ละบุคคลและตำแหน่งที่ฉีด บริเวณที่มีเส้นประสาทมาก เช่น ริมฝีปาก อาจมีความรู้สึกไวกว่าบริเวณอื่น
หลังการฉีดสารฟิลเลอร์ อาการบวมเล็กน้อยมักจะเกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติ มักพบในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรกและค่อยๆ ลดลงจนหายไปภายใน 3-7 วัน ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด ปริมาณสารที่ใช้ และการตอบสนองของร่างกายแต่ละบุคคล ทั้งนี้ บริเวณที่ไวต่อการบวมมากที่สุด ได้แก่ ริมฝีปากและใต้ตา ซึ่งอาจใช้เวลานานถึง 7-10 วันกว่าจะหายบวมสนิท
ถ้าไม่หายบวมควรทำอย่างไร วิธีแก้ฟิลเลอร์
ในบางกรณี อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์อาจคงอยู่นานกว่าปกติ หรือเกิดการอักเสบที่ไม่พึงประสงค์ สิ่งสำคัญคือการติดตามอาการและรู้จักวิธีการแก้ไขอย่างถูกต้อง
1. ฉีดสลายฟิลเลอร์
สำหรับคนที่ฉีดฟิลเลอร์ไประยะหนึ่งแล้วพบอาการบวม เป็นก้อน กดไม่ลง หรือไม่พอใจกับผลลัพธ์ที่ฉีด เป็นปัญหาทำให้กังวลและเสียความมั่นใจ หากปรึกษาหมอแล้วพิจารณาว่าเกิดจากเทคนิคการฉีดและฉีดโดยใช้ฟิลเลอร์แท้ จะสามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์
โดยปกติฟิลเลอร์แท้ Hyaluronic Acid ที่ได้มาตรฐานจะสลายไปเองตามธรรมชาติ เร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของแต่ละยี่ห้อ แต่หากต้องการสลายทันทีก็สามารถใช้เอนไซม์ที่ Hyaluronidase ช่วยละลายออกได้ เป็นวิธีทำให้ฟิลเลอร์สลายอย่างรวดเร็ว ทำให้ผิวกลับคืนสภาพเดิม หลังจากนั้นหากอยากฉีดฟิลเลอร์เพิ่มอีกก็สามารถทำได้
2. ขูดฟิลเลอร์
หากมีอาการบวม แดง อักเสบ จากการพลาดฉีดฟิลเลอร์ปลอม เนื้อฟิลเลอร์ไม่สามารถสลายไปเองได้เมื่อเวลาผ่านไปจะทำให้เกิดเป็นก้อนแข็ง ไหลย้อย วิธีแก้ไขคือต้องผ่าตัดหรือขูดฟิลเลอร์ออก ซึ่งหากฉีดมาเป็นเวลานานจนเป็นพังผืดเกาะ ก็อาจไม่สามารถเอาเนื้อฟิลเลอร์ปลอมออกได้ทั้งหมด
3. ผ่าตัดเอาฟิลเลอร์ออก
กรณีนี้แก้ไขในผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์ประเภทซิโคนเหลว เป็นก้อนขนาดใหญ่และแข็งมาก รวมไปถึงผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์มานานจนเป็นพังผืดเกาะ การผ่าตัดส่วนใหญ่จะไม่สามารถเอาฟิลเลอร์ออกได้หมด ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดมา ต้องระวังทั้งเรื่องของเส้นประสาท เส้นเลือดสำคัญต่าง ๆ ควรปรึกษาแพทย์ศัลยกรรมในโรงพยาบาล
ฟิลเลอร์อันตรายไหม ?
การฉีดฟิลเลอร์ เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน และขณะนี้มีฟิลเลอร์ให้เลือกใช้มากมาย หลายยี่ห้อ หลายรุ่น สามารถฉีดได้หลายตำแหน่ง ถ้าใช้ฟิลเลอร์แท้ซึ่งเป็นสาร HA (Hyaluronic acid) 100% ฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง โดยแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญ
หากมีการใช้สารอื่นแทนฟิลเลอร์ เช่น ซิลิโคนเหลว ฟิลเลอร์ปลอม ก็อาจจะเกิดผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดและเป็นอันตรายได้ ปัญหาเหล่านี้มักเกิดจากการทำฟิลเลอร์ กับแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญพอ และฟิลเลอร์ไม่มีมาตรฐาน
การฉีด Filler ต้องทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล ?
โดยทั่วไปฟิลเลอร์จะเห็นผลชัดเจน ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ จะอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน บางคนอาจจะทำน้อยหรือมากกว่านี้ขึ้นกับอายุ การดูแลผิว และการดำเนินชีวิต
* ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกาและกดนวดในจุดที่ฉีด อาจมีอาการบวมแดงหรือเขียวช้ำเป็นปกติ จะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2-3 วัน (หากหลังจาก 3 วันไปแล้ว มีอาการบวมมากขึ้นให้ติดต่อกลับมาที่คลินิกเพื่อรับยากินเพิ่ม)
- หากก่อนทำไม่ได้กินยาฆ่าเชื้อ หลังทำควรรีบกินยาฆ่าเชื้อทันที นอกจากนี้ยังมียาแก้ปวด ลดบวมกลับไปให้ทานด้วย
- ควรอยู่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม. เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ตากแดด
- ให้งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิดอย่างน้อย 1 เดือน
- อย่าขยับผิวในจุดที่ทำมากโดยเฉพาะช่วง 3 วันแรก เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนได้
- ควรงดทานอาหารบางอย่างที่ส่งผลต่อการอักเสบ บวมและทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้า ดังนี้
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
- อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ หมูกระทะ ชาบู
- อาหารหมักดอง อาหารที่เผ็ดมาก ๆ จนหน้าแดง อาหารหวานจัดและอาหารดิบจากร้านที่ไม่สะอาด
- งดสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้ยุบบวมช้าและส่งผลการรักษาอยู่ได้สั้นลงด้วย
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์
- ฟิลเลอร์ช่วยชะลอวัย
- ฉีดฟิลเลอร์ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง
- ฟิลเลอร์ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีรอยแผลเป็น
- ฟิลเลอร์สามารถเติมได้ปรับแต่งได้ (สามารถฉีดสลายออกได้)
- ฟิลเลอร์ให้ผลได้แม่นยำ สวยเป็นธรรมชาติ
- ฟิลเลอร์มีหลายรุ่น ความละเอียดของเนื้อฟิลเลอร์แตกต่างกัน สามารถเลือกใช้รุ่นที่เหมาะเฉพาะบริเวณได้
หลังฟิลเลอร์สลายหมดแล้ว เปลี่ยนยี่ห้อที่ฉีดได้ไหม?
หากหลังจากที่ฟิลเลอร์สลายไปหมดแล้ว อยากเติมเพิ่มอีก สามารถเปลี่ยนยี่ห้อได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องฉีดยี่ห้อเดิม
ฉีดฟิลเลอร์ ราคาเท่าไหร่?
Filler ราคาจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่ใช้ และปริมาณที่ฉีด สามารถเช็กราคาโปรโมชันได้ที่นี่
เราจะเลือกฉีดตัวไหนดีคะหมอ?
ฟิลเลอร์แต่ละรุ่นเหมาะกับการใช้ฉีดในจุดต่าง ๆ ของใบหน้าไม่เหมือนกันค่ะ ถ้าเปรียบง่าย ๆ ฟิลเลอร์เป็นกระเป๋าสักใบ ซึ่งก็มี หลายรุ่น หลายแบรนด์ แต่ละแบรนด์ ก็จะมีหลายคอลเลคชั่น และราคาถูก-แพง ไปตามแบรนด์ต่าง ๆ ส่วนคุณสมบัติแต่ละรุ่น ก็จะแตกต่างกันไปตามการใช้งาน ฟังก์ชั่นต่าง ๆ ค่ะ และแน่นอน มีของแท้ ก็ต้องมีของปลอม ของก๊อปออกมาให้ปวดหัวไปอีกค่ะ ของปลอมราคาถูกก็จริง แต่อย่าถามถึงคุณภาพนะคะ เสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงแถมไม่ย่อยสลายและตกค้างในร่างกาย ไม่คุ้มเลยค่ะ
ฟิลเลอร์ปลอม vs ของแท้ มันมีจุดแตกต่างกันที่เราสามารถเช็คได้ค่ะ ทีนี้เราจะมีวิธีการเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะกับจุดที่เราต้องการฉีด เหมาะกับความต้องการของเรา และที่สำคัญคือเหมาะกับงบที่เรามีด้วย อันนี้ก็สำคัญใช่มั้ยคะ
เรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำคนไข้ที่สนใจฉีดฟิลเลอร์เติมเต็ม แก้ไขปัญหาร่องลึกต่าง ๆ บนใบหน้า โดยเราจะวิเคราะห์ใบหน้าแบบ personalize เคสต่อเคส โดยรักษาแบบองค์รวม เพื่อให้ทั้งใบหน้าดูสวยขึ้น ดูดีขึ้น รับกับใบหน้าเดิม และได้ผลลัพธ์ออกมาแบบไม่ปลอม ไม่โป๊ะ หน้าไม่แข็ง ซึ่งก็เป็นโจทย์ของการออกแบบใบหน้า ให้แลดูสวยขึ้นแบบเป็นธรรมชาติมากที่สุด Beauty look Natural ซึ่ง อทิตาคลินิก เรามีชื่อเสียง อันดับหนึ่งในด้านการปรับรูปหน้า ออกแบบใบหน้า และดีไซน์ใบหน้าด้วยค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี
1. JUVEDERM
ฟิลเลอร์ Juvederm (จูวีเดิม) เป็นฟิลเลอร์จากประเทศอเมริกา จัดอยู่ในกลุ่มสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid (HA) ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศไทย (THFDA) สหรัฐอเมริกา (USFDA) และ EDQM ผลิตโดยบริษัท Allergan บริษัทเดียวกับ Botox Allergan และถูกนำเข้ามาในประเทศไทยโดยบริษัท Allergan Thailand
จุดเด่นของฟิลเลอร์ Juvederm มีอะไรบ้าง?
จุดเด่นของฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm คือเทคโนโลยี Hylacross และ Vycross ที่จะทำให้เนื้อฟิลเลอร์สามารถอุ้มน้ำได้ดี มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับของผิวหน้าได้ดี มีอัตราการบวมน้ำน้อย ส่งผลให้ผลลัพธ์หลังฉีด ผิวมีความเรียบเนียน ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน อีกทั้งยังมีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) ช่วยให้บรรเทาความเจ็บปวดบริเวณที่ฉีด Hylacross Technology คือเทคโนโลยีที่มีความโดดเด่นในเรื่องของค่าความอุ้มน้ำได้มาก ฉีดแล้วฟู เนื้อเจลมีความเนียนละเอียด สารเติมเต็ม Hyaluronic Acid มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับได้ดี จึงเหมาะแก่การฉีดบริเวณผิวที่มีการขยับบ่อย ๆ เช่น บริเวณร่องแก้ม บริเวณปาก Vycross Technology คือเทคโนโลยีที่พัฒนามาจากกลุ่ม Hylacross มีโมเลกุลยึกเกาะหนาแน่น มีคุณสมบัติช่วยยกกระชับ มีอัตราการบวมน้ำน้อย และค่าอุ้มน้ำน้อย ผลลัพธ์หลังฉีดจะไม่เป็นก้อน มีความเรียบเนียน ดูเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นาน สามารถใช้ยกกระชับได้ ข้อมูลฟิลเลอร์ Juvederm เพิ่มเติม…
2. Restylane
ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ จาก ประเทศสวีเดน จากบริษัท Galderma เป็นผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ผ่านปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางโมเลกุลน้อยที่สุด (ต่ำกว่า 1% Minimal Stabilization) ทําให้มีความใกล้เคียงกับ สารไฮยาลูโรนิคแอซิด ตามธรรมชาติที่มีอยู่ในร่ายกายของเรา ทําให้สามารถใช้กับร่างกายของเราได้ดี และไม่ส่งผลให้เกิดอาการแพ้ Restylane คุณสมบัติในการยกผิว (Lifting Capacity) ทําให้สามารถใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณเพียงเล็กน้อย ก็ทําให้ยกกระชับใบหน้าได้ โดยความแตกต่างอีกอย่างหนึ่งที่เป็นจุดเด่นของตัวผลิตภัณฑ์ Restylane นั้น คือการใช้เทคโนโลยีใน การผลิตที่แตกต่างกัน โดยจะถูกแบ่งออกเป็น 2 แบบได้แก่
ฟิลเลอร์ Restylane มีการใช้เทคโนโลยีใน การผลิตที่แตกต่างกัน แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ
1. NASHA (Non-Animal Stabilized Hyaluronic Acid)
เป็นเทคนิคพิเศษ ทําให้เกิดอาการแพ้หรือระคาย เคืองได้น้อยมาก
ได้แก่รุ่น Lidocain, LIFT, Skinbooster Vital, Skinbooster Vital light
2. OBT (Optimal Balance Technology)
เป็นเทคโนโลยีการผลิตใหม่ จุดเด่นคือ ฟิลเลอร์มีเนื้อเจลนิ่ม มีความยืดหยุ่นสูง สมานเข้ากับเนื้อเยื่อได้ดี สามารถช่วยเติมเต็ม และปรับรูปหน้าให้สวยละมุนอย่างเป็นธรรมชาติ
ได้แก่รุ่น Volyme, Defyne, Refyne, Fyness, Kysse ข้อมูลฟิลเลอร์ Restylane เพิ่มเติม…
3. NEURAMIS
Neuramis รุ่น DEEP เป็นฟิลเลอร์ใหม่ล่าสุดจากประเทศเกาหลี จากบริษัทที่ผลิตตัวยาปรับรูปหน้ายี่ห้อที่เรารู้จักกันดี ปัจจุบันได้ส่งออกผลิตภัณต์ขายไปแล้วหลายประเทศทั่วโลก
Neuramis รุ่น Deep (แบบไม่ผสมยาชา) ผ่านการรับรองจาก FDA องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกามาด้วย สำหรับตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับการเติม คือ จุดที่ volume หายไป เช่น ร่องแก้ม ขมับ คาง เป็นต้น ส่วนจุดที่ไม่ควรเติมเต็มด้วย Neuramis deep คือบริเวณใต้ตา เพราะจะเป็นก้อนได้
จุดเด่นของรุ่น
- ใช้เติมส่วนที่ต้องการเพิ่มวอลลุ่มได้ดี
- ราคาไม่แพงมาก
- ฟิลเลอร์ HA สูง อยู่ได้นานถึง 12 เดือน
4. Belotero
ฟิลเลอร์ Belotero เป็นตระกูลยี่ห้อฟิลเลอร์จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ซึ่งถูกซื้อโดยบริษัท Merz ของเยอรมันเจ้าของลิขสิทธิ์เครื่อง Ulthera หรืออัลเธอร่านั่นเองซึ่งฟิลเลอร์ตระกูล Beloteroนี้มีหลายรุ่นหรือหลายชนิดเช่นกัน มีสีสันสดใสและมีหลากสีสัน แต่ละสีเหมาะกับบางจุด เพื่อให้แต่ละจุดเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ฟิลเลอร์ Belotero เป็นฟิลเลอร์จากสวิสเซอร์แลนด์ ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะราคาไม่แพง ทุกคนสามารถจับต้องได้ นำเข้าโดยบริษัท Merz Aesthetic Thailand ผ่านการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง จึงสามารถมั่นใจได้ว่าฉีด ฟิลเลอร์ Belotero ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามที่ต้องการ
ด้วยผลิตด้วยเทคโนโลยี CPM Technology ซึ่งเป็นนวัตกรรมการผลิตพิเศษที่มีแค่ยี่ห้อนี้เท่านั้น ทำให้ได้เนื้อเจลที่มีความเรียบเนียน กลืนกับผิวหน้าได้ดี สามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกสภาพผิว และพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อแก้ปัญหาผิวเฉพาะจุดในระดับความรุนแรงของริ้วรอยที่แตกต่างกัน ข้อมูลฟิลเลอร์ Belotero เพิ่มเติม…
5. Neauvia
Neauvia Filler: นวัตกรรมฟิลเลอร์จากอิตาลีเพื่อผิวสวยสมบูรณ์แบบ
Neauvia Filler คือนวัตกรรมฟิลเลอร์รุ่นใหม่จากประเทศอิตาลี ที่มาพร้อมความโดดเด่นในด้านการฟื้นฟูและเสริมสร้างผิวอย่างล้ำลึก ชื่อ “Neauvia” มีความหมายว่า “New Way Filler” หรือฟิลเลอร์แนวทางใหม่ ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี พ.ศ. 2012 และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในกว่า 80 ประเทศทั่วโลก
Neauvia Filler หรือ Neauvia Hybrid Filler ไม่ได้เป็นเพียงฟิลเลอร์สำหรับลดริ้วรอยทั่วไป แต่ยังมีคุณสมบัติพิเศษในการกระตุ้นการทำงานของไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ใต้ชั้นผิวหนัง ซึ่งช่วยส่งเสริมการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ส่งผลให้ผิวดูยืดหยุ่น เนียนนุ่ม และลดเลือนริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Neauvia Filler มีคุณสมบัติพิเศษที่แตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไป ดังนี้:
กระตุ้นคอลลาเจนธรรมชาติ: ด้วยส่วนผสมที่มีทั้ง Organic Hyaluronic Acid, Polyethylene Glycol (PEG) และ Calcium Hydroxyapatite (CaHA) ทำให้สามารถเสริมสร้างคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เทคโนโลยี SMART XROSS LINK Technology: ใช้เทคโนโลยีเฉพาะที่ทำให้ฟิลเลอร์มีความคงตัวสูง และผลลัพธ์อยู่ได้นาน
ปลอดภัยและไม่กระตุ้นภูมิคุ้มกัน: ใช้ PEG ในการ Crosslink แทนสาร BDDE ทำให้ลดความเสี่ยงในการเกิดอาการแพ้และอักเสบ
ความยืดหยุ่นสูง: ทนต่อความร้อนได้ดี ทำให้สามารถใช้ร่วมกับการทำเลเซอร์ได้อย่างปลอดภัย
เพิ่มความชุ่มชื้นและลดอาการบวม: ด้วยส่วนผสมของ L-Proline และ Glycine ที่ช่วยฟื้นฟูความชุ่มชื้นของผิว ลดอาการบวมหลังฉีด
6. e.p.t.q
ฟิลเลอร์ e.p.t.q แบรนด์ตัวใหม่จากประเทศเกาหลีใต้ มีคุณสมบัติในการช่วยฟื้นฟู และเติมเต็มให้ใบหน้ายกกระชับ แก้ไขปัญหาความหมองคล้ำ ใบหน้าไม่สมมาตร และคืนความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้า บริษัท JETEMA Co., Ltd. ประเทศเกาหลีใต้ ได้ผลิตฟิลเลอร์ e.p.t.q. ที่ผลิตจากสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid : HA) ซึ่งเป็นสารเติมเต็มที่มีคุณสมบัติของการเติมเต็มร่องลึก ลดริ้วรอย และปรับรูปหน้า เพื่อแก้ไขปัญหาบนใบหน้า ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการรับรองจาก U.S. FDA และ EDQM ในประเทศไทยว่ามีความปลอดภัย ซึ่งปี 2020 บริษัท Aestema Thailand เป็นที่นำเข้าฟิลเลอร์นี้เข้ามาในประเทศไทยอย่างมีคุณภาพ และน่าเชื่อถือ
ฟิลเลอร์ e.p.t.q. มีโครงสร้างโมเลกุลของสาร HA รูปแบบรวงผึ้ง หรือ HIVE ซึ่งมีความเข้มข้นสูง 24 mg/ml ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความหนืดและยืดหยุ่นมากโดยกระบวนการทำงานของ e.p.t.q. filler กระบวนการผลิต รวมถึงเทคโนโลยีที่ใช้ เป็นอย่างไร อธิบายดังนี้
e : efficiency ใช้ Hyaluronic Acid (HA) ในปริมาณความเข้มข้น 24 mg/ml ในแบบโครงสร้าง HIVE Structure
p : potential ใช้กระบวนการผลิตแบบ ZEEP Technology (Zero Endotoxin & BDDE Entire Process) ช่วยลดโอกาสการแพ้และผลข้างเคียงน้อยลง
t : technology ฟิลเลอร์ e.p.t.q. จะใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ 2CM Technology (2 Crosslinking Method) เพิ่มประสิทธิภาพการยืดหยุน และยึดเกาะของโมเลกุล HA ให้แน่นยิ่งขึ้น
q : quality ใช้เกณฑ์ The 9 Essential ช่วยควบคุม และเพิ่มคุณภาพการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
7. Biohyalux
BIOHYALUX ได้พัฒนา HA โดยใช้เป็นแบบ cross-linked คุณภาพสูง สารเติมเต็มชนิดนี้สามารถทนต่อการย่อยสลายของเอ็นไซม์ตามธรรมชาติได้ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้อยู่ได้ระยะเวลาที่นานขึ้น เช่นเดียวกับ HA ที่ผลิตขึ้นตามธรรมชาติ และ Biohyalux Filler ได้ใช้เทคโนโลยี BIOHYALUX ปลอดภัย ได้อย.อมเริกา และ อย.ไทย ได้รับการไว้วางใจจากทั่วโลก ฟิลเลอร์ Biohyalux ยังมีความปลอดภัยสูงเนื่องจากได้รับการรับรองว่าผ่านมาตรฐานความปลอดภัยในการผลิตของ GMP ISO ได้รับอย.ไทย และยุโรป นำเข้าจัดจำหน่ายในประเทศไทยโดย บริษัท โซว เมดิคอล จำกัด ปัจจุบันได้จำหน่ายใน 12 ประเทศทั่วโลก และหนึ่งใน 12 ประเทศทั่วโลกยังมีประเทศรัสเซียที่เข้มงวดเรื่องการนำเข้าผลิตภัณฑ์ต่างๆ
BIOHYALUX มีทั้งหมด 4 รุ่น ถูกออกแบบมาเฉพาะ เพื่อใช้ในแต่ละบริเวณตามความเหมาะสม
- Biohyalux Fine Lines
- Biohyalux Lips
- Biohyalux Derm Lines
- Biohyalux Deep Dermis
8. Definisse
Definisse ฟิลเลอร์ระดับพรีเมี่ยมสัญชาติอิตาลีอย่าง Filler Definisse ที่มีเนื้อเจลที่เนียนกลืนกับผิวได้ดี ไม่บวมน้ำ ให้ผลลัพธ์ที่สวยเป็นธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ Definisse มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากใช้สาร Hyaluronic Acid (HA) เป็นสารตั้งต้น ซึ่งสามารถสลายได้เองและไม่ตกค้างในร่างกาย และมีการรับรองจาก THFDA หรือ อย.ไทย ซึ่งฟิลเลอร์ตระกูล Definisse นี้มีหลายรุ่นเหมาะกับแต่ละปัญหา แต่ละพื้นที่บนใบหน้า เพื่อให้แต่ละจุดเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
DEFINISSE ฟิลเลอร์ Definisse เป็นฟิลเลอร์จากอิตาลี่ ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยคุณภาพที่คุ้มค่ากับราคา ผลิตโดยบริษัท Relife Company เป็นบริษัทในเครือ A.Menarini อิตาลี มีการนำเข้าและจัดจำหน่ายในประเทศไทยโดยบริษัท A.Menarini Thailandฟ ผ่านการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องโดย อย. สหรัฐอเมริกา ยุโรปและไทย จึงสามารถมั่นใจฉีด ฟิลเลอร์ Definisse ได้อย่างปลอดภัย ได้ผลลัพธ์ที่สวยตรงใจตามที่ต้องการ
ด้วยผลิตด้วยเทคโนโลยี XTR™ Technology (eXcellent Three-Dimensional Reticulation) ซึ่งเป็นนวัตกรรมการผลิตพิเศษที่มีแค่ยี่ห้อนี้เท่านั้น ทำให้ได้เนื้อฟิลเลอร์พรีเมี่ยม มีคุณสมบัติในการเติมเต็ม ยกกระชับและปรับรูปหน้าได้อย่างสมบูรณ์ ไม่บวมน้ำ ประเมินผลลัพธ์ได้เลยในตอนที่ฉีด โดยใช้ปริมาณฟิลเลอร์ในปริมาณที่พอเหมาะ (Optimal volumization)ทำให้เห็นผลลัพธ์การรักษาได้ชัดเจนทันทีหลังทำ และได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
9. Saypha
Saypha เป็นผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์จากบริษัท Croma ที่มีประสบการณ์การผลิตฟิลเลอร์ HA มายาวนานกว่า 40 ปี พัฒนาด้วยเทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะ จำหน่ายใน 79 ประเทศทั่วโลก มียอดขายมากกว่า 50 ล้านชิ้น ผลิตภัณฑ์ผ่านการรับรองมาตรฐานและมีความน่าเชื่อถือในระดับสากล ใช้กรดไฮยาลูโรนิกที่ไม่มีส่วนผสมจากสัตว์ และกระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงที่ให้ผลลัพธ์คุณภาพสูงสุด
ฟิลเลอร์ Saypha มีอะไรบ้าง
- Saypha RICH – เติมเต็มความชุ่มชื่น ลดการสูญเสียน้ำ เหมาะสำหรับริ้วรอยเล็กๆ เช่น ตีนกา เส้นยิ้ม และรอยย่นรอบปาก
- Saypha FILLER – เน้นเติมเต็มบริเวณร่องแก้ม ร่องปาก และร่องจมูก ฉีดในชั้นผิวกลางถึงลึก ช่วยให้ใบหน้าดูอิ่มเต่งตึง
- Saypha VOLUME – แก้ไขริ้วรอยลึก เติมเต็มแผลเป็น ช่วยรักษาไขมันบนใบหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 30-65 ปี
- Saypha VOLUME PLUS – ฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูงสุด เหมาะสำหรับการปรับรูปหน้า โดยเฉพาะบริเวณแก้ม ขมับ คาง และแนวกราม
ข้อดีของฟิลเลอร์ Saypha
- เข้ากับผิวได้ดี เพราะใช้กรดไฮยาลูโรนิกที่ไม่มีส่วนผสมจากสัตว์
- ฉีดแล้วเจ็บน้อย ด้วยการออกแบบเข็มฉีดที่ทันสมัย
- ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและคงอยู่ได้นานหลายเดือน
- เห็นผลทันทีหลังการรักษา
- มีความปลอดภัยสูง ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากล
- ได้รับความพึงพอใจจากผู้ใช้สูงถึง 98%
10. Profhilo
Profhilo คือ ตัวยากลุ่มที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ เมื่อผิวอายุมากขึ้นจะมีคอลลาเจนน้อยลง จนเกิดความหลวม ไม่ยืดหยุ่น ริ้วรอย ความไม่กระชับคืนตัว ลักษณะผิวดูมีอายุมากขึ้น Profhilo จะเข้าไปกระตุ้นและซ่อมแซมเซลล์ผิวต่างๆ โดยเฉพาะเซลล์ที่ทำหน้าที่ในการสร้างคอลลาเจนหรือ Fibroblast
Profhilo มีองค์ประกอบสำคัญคือ Hyaluronic acid ที่ทุกคนคุ้นเคย แต่เป็น Hyaluronic acid ที่ผ่านกระบวนการพิเศษที่ติดสิทธิบัตรคือ เทคโนโลยี NAHYCO ซึ่งเป็นการสร้างพลังงานความร้อนแบบจำเพาะ ทำให้ Hyaluronic acid สองขนาด เกิดการสร้างพันธะต่อกันเป็นโครงสร้างแบบพิเศษเรียกว่า HCC หรือ Hybrid Cooperative complex ซึ่งมีปริมาณ Hyaluronic acid มากที่สุดในท้องตลาด แต่กระจายตัวได้ดี มีลักษณะเป็นของเหลว ไม่เป็นก้อน และแสดงคุณสมบัติในการกระตุ้นคอลลาเจน ซึ่งแตกต่างจากฟิลเลอร์ประเภท cross-linked Hyaluronic acid ซึ่งไม่ได้ถูกผลิตมาเพื่อการกระตุ้นคอลลาเจน
11. Harmonyca
HArmonyCa คือฟิลเลอร์นวัตกรรมใหม่จากบริษัท Allergan ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ความงามทางการแพทย์จากสหรัฐอเมริกา ด้วยคุณสมบัติพิเศษที่เป็นฟิลเลอร์แบบไฮบริด สามารถช่วยเติมเต็มผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้ในเวลาเดียวกัน โดยมีส่วนผสมหลัก 2 ชนิดที่ทำงานผสานกันอย่างลงตัว
ส่วนประกอบสำคัญของ HArmonyCa
- Hyaluronic Acid (HA) ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นของผิว พร้อมลดเลือนริ้วรอย
- Calcium Hydroxyapatite (CaHA) กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เสริมความแข็งแรงของโครงสร้างผิว
ฟิลเลอร์ชนิดนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเติมเต็มผิวให้ดูอิ่มฟู พร้อมทั้งยกกระชับและลดเลือนริ้วรอยได้ในระยะยาว
จุดเด่นของ HArmonyCa
- เพิ่มความแข็งแรงให้ผิว
- CaHA ช่วยเสริมโครงสร้างผิว ทำให้ผิวแข็งแรงและยกกระชับ ลดปัญหาผิวหย่อนคล้อย
- เพิ่มความยืดหยุ่นและชุ่มชื้น
- HA ช่วยให้ผิวดูยืดหยุ่น สุขภาพดี พร้อมลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ บนผิว
- กระจายตัวได้ดี
- ฟิลเลอร์กลืนไปกับผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ กระจายตัวสม่ำเสมอ ไม่เป็นก้อน
- กระตุ้นคอลลาเจนในระยะยาว
- CaHA ช่วยปรับโครงสร้างผิว เพิ่มคอลลาเจน ทำให้ริ้วรอยตื้นและร่องลึกจางลง
12. Skinvive
โปรแกรม Skinvive เป็นสารเติมเต็มในกลุ่มงานผิวที่ใช้ไฮยาลูรอนิกแอซิด ซึ่งถูกปรับเปลี่ยนเป็นไมโครดรอปเล็ตของกรดไฮยาลูรอนิก (Microdroplets of Hyaluronic Acid) โดยเฉพาะ เป็นผลิตภัณฑ์แรกและตัวเดียวที่ได้รับการรับรองความปลอดภัยจากอย. อเมริกา (USFDA)
ผลิตภัณฑ์นี้มีความเข้มข้นสูงเพื่อส่งตรงเข้าสู่ชั้นผิวหนังแท้ ทำให้กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่และส่งเสริมการผลิตองค์ประกอบสำคัญในชั้นผิวถึง 3 ชนิด ได้แก่ อควาพอริน 3 (Aquaporin 3) ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยกักเก็บน้ำในผิวชั้นหนังกำพร้าและชั้นแท้, อิลาสติน, และคอลลาเจน ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวที่มีสุขภาพดีขึ้น สามารถใช้ในการรักษาริ้วรอย, ร่องลึก, รูขุมขน, เพิ่มความชุ่มชื้น และปรับสภาพผิวโดยรวม โดยผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานกว่าสกินบูสเตอร์ทั่วไปถึง 3 เท่า
ผิววับ โกลว์ใส ที่เล่นกับแสงเป็นความฝันของใครหลายคน Skinvive เป็นทางลัดที่ช่วยให้ผิวของคุณดูเปล่งประกายได้ง่ายขึ้น Skinvive ออกแบบมาเพื่อรักษาความชุ่มชื้นในผิวโดยเฉพาะ ล็อกความชุ่มชื้นได้อย่างยาวนาน พร้อมทั้งฟื้นฟูให้ผิวกระจ่างใส ลดความหมองคล้ำ ปรับผิวโกลว์ใส เล่นแสงทุกมุม
ในปัจจุบัน เทรนด์ผิวฉ่ำวาวหรือ Glass Skin ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะเมื่อผิวโกลว์ใสจะสื่อถึงผิวที่มีสุขภาพดี อิ่มฟู ชุ่มชื้น ดูเป็นธรรมชาติ โดยไม่จำเป็นต้องแต่งหน้ามาก Skinvive จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการมีผิววิบวับและเปล่งประกาย สร้างผิววับ โกลว์ใส หลังการรักษาเพียงแค่ครั้งเดียว!
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฟิลเลอร์
1. ไม่กล้าฉีดฟิลเลอร์เพราะกลัวไหลไปยังส่วนอื่นของใบหน้า เป็นได้จริงหรือไม่ ?
- ไม่ฉีดฟิลเลอร์ที่มีการอวดอ้างสรรพคุณ ว่าฟิลเลอร์ที่ฉีดให้เป็นแบบกึ่งถาวร หรือสามารถอยู่ได้นานเกินกว่า 5 ปี เพราะเป็นฟิลเลอร์ที่ไม่สามารถสลายเองได้ ฟิลเลอร์หากอยู่ใต้ผิวหนังเป็นระยะเวลานานเกินไป อาจจะมีการเคลื่อนตำแหน่งไปยังจุดอื่นบนใบหน้าได้ เมื่อคนไข้จะฉีดฟิลเลอร์ ควรศึกษา-วิธีการสังเกตฟิลเลอร์ของแท้ยี่ห้อต่าง ๆ ที่สำคัญคือ ก่อนฉีดฟิลเลอร์ควรให้หมอแกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า และขอกล่องและหลอดกลับบ้าน หรือถ่ายรูปเก็บไว้ตรวจสอบ เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐานจะดีที่สุด
- ควรเลือกฟิลเลอร์ที่มีลักษณะโมเลกุลเล็ก มีความละเอียดเหมาะสมกับผิวหนังในบริเวณที่ต้องการฉีดแก้ไข เพราะถ้าฉีดฟิลเลอร์ชนิดที่มีความละเอียดของโมเลกุลใหญ่มากเกินไป จะไม่เหมาะกับผิวบริเวณที่ฉีด ส่งผลให้หนักและหน่วงผิว ทำให้ฟิลเลอร์เกิดการเคลื่อนที่ ยังบริเวณอื่นบนใบหน้าได้ (คนทั่วไปจะเรียกกันว่า ฟิลเลอร์ไหล)
ดังนั้นคนไข้ควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์สูงเฉพาะทาง ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยเลือกฟิลเลอร์ให้เหมาะสม โดยเลือกฟิลเลอร์ที่มีขนาดโมเลกุลละเอียดกับผิวบริเวณที่ต้องการฉีด
2. ถ้าฉีดฟิลเลอร์แล้วไม่ฉีดอีกจะทำให้หน้ายิ่งเหี่ยวหนักกว่าเดิม จริงหรือไม่?
คำตอบคือ ไม่จริง เพราะฟิลเลอร์แท้จะสลายหมด 100% ไม่มีสารตกค้าง ไม่มีผลทำให้ผิวหน้าเหี่ยวมากกว่าเดิม หากถ้าไม่ได้ฉีดฟิลเลอร์ต่อเนื่อง ผิวก็จะกลับคืนสภาพเดิม แต่ยังดีกว่าเดิม เนื่องจากฟิลเลอร์จะทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดและรอบ ๆ มีความชุ่นชื้น มีน้ำมาหล่อเลี้ยงมากขึ้น ทำให้คอลลาเจนและอิลาสตินบริเวณนั้นถูกสร้างขึ้นมาด้วย ต่อให้ฟิลเลอร์สลายหมด คอลลาเจน และอิลาสตินของร่างกายก็ยังคงอยู่
ที่มีการกล่าวว่า ถ้าไม่ฉีดต่อเนื่องจะทำให้หน้าเหี่ยวกว่าเดิม เป็นเพราะไม่คุ้นเคยกับลักษณะของผิวหน้าตัวเองในตอนที่ฟิลเลอร์สลายหมดแล้ว หรืออาจเกิดจากลักษณะการใช้ชีวิต (lifestyle) ที่ไม่ดูแลรักษาสุขภาพของตนเอง เช่น นอนดึก ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ออกกำลังกาย ตากแดด โดยไม่ปกป้องผิวด้วยการทาครีมกันแดดหรือกางร่ม รวมทั้งอายุที่เพิ่มมากขึ้นด้วยค่ะ
3. ต้องรอฟิลเลอร์เก่าสลายหมดก่อนไหม ถึงจะฉีดเพิ่มได้?
การฉีดฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะตำแหน่งไหนสามารถเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ ตามความเหมาะสม โดยไม่ต้องรอให้ฟิลเลอร์ที่เคยฉีดไปแล้วสลายหมดก่อน ไม่มีผลเสียค่ะ
4. หลังฟิลเลอร์สลายหมดแล้ว เปลี่ยนยี่ห้อที่ฉีดได้ไหม?
หากหลังจากที่ฟิลเลอร์สลายไปหมดแล้ว อยากเติมเพิ่มอีก สามารถเปลี่ยนยี่ห้อได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องฉีดยี่ห้อเดิม
5. ฉีดฟิลเลอร์บวมกี่วัน กี่วันเห็นผล
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ อาจมีอาการบวมเล็กน้อยในช่วง 1-3 วันแรก ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีดและสภาพผิวของแต่ละคน ผลลัพธ์จะเริ่มเห็นได้ชัดเจนภายใน 7-14 วัน เมื่อฟิลเลอร์เซ็ตตัวเต็มที่และอาการบวมลดลงค่ะ
6. ฟิลเลอร์อยู่ได้นานไหม
ฟิลเลอร์สามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ การดูแลรักษาหลังการฉีด และปัจจัยส่วนบุคคล เช่น การใช้ชีวิตและการดูแลผิว ยิ่งฟิลเลอร์มีคุณภาพสูงและการดูแลผิวหลังการฉีดเหมาะสม ฟิลเลอร์ก็จะอยู่ได้นานมากขึ้นค่ะ
7. อาการแพ้ฟิลเลอร์เป็นอย่างไร
อาการแพ้ฟิลเลอร์อาจเกิดขึ้นได้แม้จะพบได้น้อย ซึ่งอาการที่ควรระวัง ได้แก่
- ผื่นแดงหรือบวมมากผิดปกติบริเวณที่ฉีด
- คันหรือแสบร้อนที่ผิว
- ผิวเปลี่ยนสีหรือเป็นรอยคล้ำ
- มีตุ่มหรือก้อนที่บริเวณฉีด
- อาการหายใจลำบากหรืออาการแพ้รุนแรงอื่น ๆ ควรรีบพบแพทย์ทันที
8. ฟิลเลอร์ทำให้หน้าใสไหม
สารไฮยาลูรอนิกแอซิด (HA) ที่ใช้ในฟิลเลอร์ยังมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความกระจ่างใสให้กับบริเวณที่ฉีด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ ขอบตาดำ หรือดวงตาที่ลึกโหล การฉีดฟิลเลอร์สามารถทำให้ผิวกลับมาดูสดใส เปล่งปลั่ง และดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้ค่ะ
ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์ที่อทิตาคลินิก
อทิตาคลินิกเราใส่ใจคนไข้ในทุกเคส เพื่อผลลัพธ์การรักษาที่ดีเยี่ยม เราวิเคราะห์ใบหน้าแบบเคสต่อเคส เพราะใบหน้าแต่ละคนมีพื้นฐาน และปัญหาที่ต่างกันออกไป ทำให้แพทย์สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด การปรับแต่งดีไซน์ใบหน้าของทางอทิตาคลินิกเป็นการปรับแต่งที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อนใด ๆ เนื่องจากเราใช้เข็มทู่ในการรักษา หลังทำคนไข้สามารถไปทำงานหรือใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติหลังการรักษา
ฉีดฟิลเลอร์ที่อทิตาคลินิก ไม่ต้องซื้อเพิ่ม เราให้ฟรี 4 รายการ !!
- Free ฟรี ทาครีมยาชาก่อนทำ
- Free ฟรี ฉีดยาชาก่อนทำ
- Free ฟรี เข็มทู่ ( Blunt Cannula )
- Free ฟรี ยาทานหลังทำ