โบท็อก Aestox คืออะไร ดีหรือไม่ กี่วันเห็นผล
Table of Contents
ทำความรู้จักกับโบท็อก Aestox
โบท็อก Aestox คือ โบท็อกสัญชาติเกาหลีที่นำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างถูกกฎหมายโดยบริษัท เอสเทค ฟาร์มา จำกัด บริษัทนำเข้ายาและเครื่องมือแพทย์ทั่วโลก โดยโบท็อก Aestox ได้รับรองมาตรฐานความปลอดภัยจาก KFDA (องค์การอาหารและยาประเทศเกาหลีใต้) และ ThaiFDA (องค์การอาหารและยาประเทศไทย) ปัจจุบันโบท็อก Aestox มีจัดจำหน่ายเพียงรุ่นเดียว แต่จะมี 3 สี 3 ขนาด คือ กล่องสีชมพูจะมีขนาด 50 ยูนิต กล่องสีฟ้าขนาด 100 ยูนิต และกล่องสีส้มขนาด 200 ยูนิต ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ว่าจะเลือกใช้กี่ยูนิตโบท็อก Aestox ดีอย่างไร
โบท็อก Aestox โดดเด่นมากในเรื่องของคุณภาพ เพราะเป็นโบท็อกที่ผ่านการวิจัย ค้นคว้า และทดลองจากสถาบันมาตรฐานระดับสากลทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมทั้งมีการทำการวิจัยร่วมกับโรงพยาบาลศิริราชเป็นระยะเวลากว่า 5 ปี จึงมั่นใจได้ว่าเป็นตัวยาที่มีความปลอดภัย มีความเสถียรทุกขวด ออกฤทธิ์เร็ว เห็นผลไว เหมาะกับคนไทย ที่สำคัญ คือ ตัวยาที่มีความบริสุทธิ์มากกว่า 99.5% ทำให้เกิดโอกาสที่จะดื้อยาได้น้อย นิยมนำมาใช้ปรับหน้าเรียว ลดริ้วรอยต่าง ๆ ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ในส่วนของประสิทธิภาพของโบท็อก Aestox นั้น มีความใกล้เคียงกับโบท็อกจากสหรัฐอเมริกา แต่อยู่ได้สั้นกว่า และมีราคาถูกกว่าเท่าตัว เรียกได้ว่าเป็นโบท็อกคุณภาพดีที่ราคาจับต้องได้อีกหนึ่งตัวที่น่าสนใจฉีดกี่วันเห็นผล
- โบท็อก Aestox ลดริ้วรอย ปกติจะเริ่มออกฤทธิ์และเห็นผลใน 3-7 วัน และจะเห็นผลเต็มที่ในช่วง 14 วัน หลังฉีด
- โบท็อก Aestox ลดกราม กล้ามเนื้อกรามจะเล็กและนิ่มลงในช่วง 14 วัน แต่ยังไม่เห็นชัดว่าเล็กลง โดยจะเริ่มเห็นผลชัดว่ายุบตอน 1 เดือน และเห็นการเปลี่ยนแปลงเต็มที่ในช่วง 2-3 เดือน
ฉีดครั้งเดียวอยู่ได้นานกี่เดือน
อย่างที่เรากล่าวไปข้างต้นว่าโบท็อก Aestox จะมีอายุการออกฤทธิ์สั้นกว่ากลุ่มโบท็อกจากอเมริกา โดยหลังฉีด โบท็อกจะอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด และการดูแลตัวเองหลังฉีด ใครอยากให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานก็ต้องดูแลตัวเองให้ถูกวิธีตามคำสั่งของแพทย์ควรฉีดกี่ยูนิตถึงจะเห็นผล
คำถามยอดฮิตที่ใครหลาย ๆ คนสงสัยว่าจะต้องฉีดกี่ยูนิตถึงจะเห็นผล ยิ่งฉีดเยอะยิ่งดีจริงหรือไม่ ในส่วนของปริมาณยูนิตจะขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ตามความเหมาะสม ซึ่งปัญหาแต่ละจุด หรือผลลัพธ์ที่คนไข้ต้องการ ก็จะใช้จำนวนยูนิตแตกต่างกัน เช่น ต้องการลดริ้วรอยในบริเวณที่ไม่กว้างมาก เช่น ริ้วรอยหางตา รอยย่นที่จมูก รอยย่นที่หน้าผาก ก็จะใช้ปริมาณยูนิตไม่สูงมาก ไม่เกิน 50 ยูนิตการทำงานของโบท็อก Aestox
แพทย์จะฉีดโบท็อก Aestox ไปยังบริเวณที่ได้ประเมินไว้ โดยสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin type A) ที่ฉีดเข้าไปจะไปจับกับปลายเส้นประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ได้รับโบท็อกหดตัวไม่ได้และเกิดการคลายตัว ส่งผลให้ริ้วรอยที่เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อลดลงโบท็อก Aestox เหมาะกับใครบ้าง
- ผู้ที่ต้องการเห็นผลอย่างรวดเร็ว และเป็นธรรมชาติ
- ผู้ที่มีริ้วรอยบริเวณต่าง ๆ เช่น รอยย่นที่หน้าผาก รอยย่นระหว่างคิ้ว ริ้วรอยหางตา
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูเรียว ลดกราม ลดหน้าเหลี่ยม
- ผู้ที่มีปัญหาเหงื่อออกเยอะ ปัญหารักแร้เปียก
- ผู้ที่ต้องการลดน่อง ลดต้นแขน เพราะโบท็อกจะออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อส่วนน่องหรือต้นแขนที่ใหญ่มีขนาดเล็กลง
เตรียมตัวอย่างไรก่อนฉีดโบท็อก Aestox
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดโบท็อก Aestox ให้รอบคอบ เช่น คุณสมบัติของโบท็อก วิธีการตรวจสอบของแท้ เพื่อความปลอดภัย และลดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย
- หาข้อมูลรีวิวจากลูกค้าจริง หรือจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เพื่อประกอบการตัดสินใจ
- งดยากลุ่มที่ลดการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน NSAIDs
- งดสครับใบหน้า เลเซอร์ หรือนวดผิวบริเวณที่จะฉีด 2-3 วัน เพื่อลดอาการเขียวช้ำ
- เลือกเข้ารับบริการคลินิกที่ได้มาตรฐาน และแพทย์มีประสบการณ์
- หากมีโรคประจำตัว หรือมียาที่รับประทานประจำควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับบริการ
วิธีดูโบท็อก Aestox ของแท้
การใช้โบท็อก Aestox ของแท้ จะช่วยลดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย และทำให้ได้ผลลัพธ์เป็นไปตามที่คาดหวัง ก่อนการฉีดทุกครั้ง คนไข้จึงต้องคำนึงถึงความปลอดภัย และตรวจสอบก่อนว่าโบท็อกที่ใช้เป็นของแท้หรือไม่ ซึ่งหลายคลินิกมีการยืนยันความปลอดภัยโดยเปิดกล่องใหม่ให้คนไข้ดูต่อหน้า และสามารถนำกล่องกลับบ้านได้ โบท็อก Aestro มีวิธีการตรวจสอบ ดังนี้- ตรวจสอบ QR Code ที่ปรากฏด้านบนกล่อง ต้องสามารถขูดออกและสแกนได้
- มีเลขทะเบียนอย. ข้างกล่อง และมีเอกสารกำกับภาษาไทย
- เลข 2 จุดตรงกัน คือ เลข Lot. วันเดือนปีที่ผลิต รุ่นการผลิต วันเดือนปีที่หมดอายุที่กล่อง ตรงกันกับฉลากข้างขวด
- สามารถโทรศัพท์เพื่อตรวจสอบเลข Lot. กับบริษัท เอสเทค ฟาร์มา จำกัด ได้ที่เบอร์ 02-089-1786
- ตัวขวดโบท็อก จะมียาเคลือบที่ก้นขวด ไม่มีน้ำ เมื่อจะทำการฉีด แพทย์จะทำการผสมกับน้ำเกลือเพื่อละลายยา และดูดโบท็อกออกมาฉีดบริเวณต่าง ๆ