เมื่อเราอายุเพิ่มมากขึ้น ผิวหนังก็จะผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินได้น้อยลง เมื่อบวกกับมลภาวะที่ต้องพบเจอในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือการทำกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ ก็จะทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่นและเกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อยตามมาได้
อย่างไรก็ตาม เราสามารถชะลอการเกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้ด้วยการดูแลผิวหน้าอย่างเหมาะสม ร่วมกับทำหัตถการต่าง ๆ ที่มีส่วนช่วยในการกระตุ้นคอลลาเจน อิลาสติน และยกกระชับใบหน้าให้ตึง แล้วยกกระชับหน้าวิธีไหนดีที่สุด วิธีทำให้หน้าตึงกระชับมีอะไรบ้าง หาคำตอบได้เลยที่บทความนี้
Table of Contents
หน้าหย่อนคล้อยเกิดจากอะไรได้บ้าง
ก่อนที่เราจะไปดูกันว่า ยกกระชับหน้าวิธีไหนดีที่สุด อทิตาคลินิกจะพาไปดูสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าหย่อนคล้อยก่อน เพื่อที่คุณจะได้หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดผิวหย่อนคล้อย และสามารถดูแลตนเองได้อย่างเหมาะสม โดยสาเหตุที่ทำให้ผิวหน้าหย่อนคล้อย มีดังนี้
- อายุ : เมื่ออายุมากขึ้น การผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวหนังลดลง ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่นและความแข็งแรง ส่งผลให้เกิดการหย่อนคล้อยของผิวหน้า
- พันธุกรรม : บางคนอาจมีแนวโน้มทางพันธุกรรมที่ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นน้อยกว่าปกติ หรือมีโครงสร้างใบหน้าที่อ่อนแอ ส่งผลให้เกิดการหย่อนคล้อยของผิวหน้าได้ง่ายและเร็วกว่าคนทั่วไป
- แรงโน้มถ่วง : แรงดึงดูดของโลกมีผลต่อผิวหนังอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในคนที่มีผิวบางหรือขาดความแข็งแรง ทำให้เกิดการยืดตัวและหย่อนคล้อยของผิวหน้าตามเวลา
- รังสียูวี : การสัมผัสกับรังสียูวีจากแสงแดดเป็นเวลานานสามารถทำลายโครงสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวหนัง ส่งผลให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้นและนำไปสู่การหย่อนคล้อย
- การลดลงของไขมันใต้ผิวหนัง : เมื่อชั้นไขมันใต้ผิวหนังลดปริมาณลง จะทำให้ผิวหน้าขาดความตึงกระชับ เกิดการยุบตัวและหย่อนคล้อย
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต : การสูบบุหรี่ การนอนหลับไม่เพียงพอ หรือการพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือดและการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวหน้าเสื่อมสภาพและหย่อนคล้อยได้เร็วขึ้น
- ความเครียด : ภาวะเครียดทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งกระตุ้นการเกิดอนุมูลอิสระ ส่งผลให้เกิดการสลายตัวของคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวหน้าหย่อนคล้อย
- การพักผ่อนไม่เพียงพอ : การนอนหลับน้อยส่งผลต่อการหลั่งโกรทฮอร์โมน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการซ่อมแซมเซลล์ผิวและสร้างคอลลาเจน การพักผ่อนไม่เพียงพอจึงทำให้ผิวขาดการฟื้นฟูและเกิดการหย่อนคล้อย
- การออกกำลังกายหักโหม : การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วหรือการออกกำลังกายหักโหมเกินไปอาจทำให้เกิดการสูญเสียไขมันใต้ผิวหนังอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ผิวหน้าขาดความยืดหยุ่นและเกิดการหย่อนคล้อย
- การขาดการดูแลความชุ่มชื้นของผิว : การดื่มน้ำไม่เพียงพอ การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แห้งหรือเย็นจัด หรือการไม่ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้น สามารถทำให้ผิวแห้ง ขาดความยืดหยุ่น และนำไปสู่การหย่อนคล้อยได้
วิธียกกระชับหน้าด้วยวิธีธรรมชาติ
- การนวดหน้ายกกระชับ – ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง ทำให้ผิวได้รับสารอาหารดีขึ้น ลดอาการบวมน้ำ และผ่อนคลายกล้ามเนื้อใบหน้า ควรนวดเบา ๆ ในทิศทางขึ้นด้านบนและด้านนอก
- การบริหารกล้ามเนื้อใบหน้า – ทำท่าต่าง ๆ เช่น การเม้มปาก ยิ้มกว้าง เป่าแก้ม เพื่อกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อ 43 มัดบนใบหน้า ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงและชะลอการหย่อนคล้อย
- การนวดกัวซาหน้า – ใช้อุปกรณ์พิเศษที่ทำจากหยกหรือวัสดุธรรมชาติ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด เพิ่มออกซิเจนให้ผิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว – เลือกครีมหรือเซรั่มที่มีส่วนผสมช่วยกระชับผิว เช่น เปปไทด์ วิตามินซี เรตินอล คอลลาเจน หรือสารสกัดจากธรรมชาติ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นให้ผิว
วิธียกกระชับหน้าด้วยวิธีทางการแพทย์
ในปัจจุบันการยกกระชับใบหน้ามีด้วยกันหลายเทคนิค ไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่องเพื่อการยกกระชับใบหน้าอย่าง หรือแม้กระทั่งการใช้สารเติมเต็ม รวมไปถึงการร้อยไหมด้วย ซึ่งที่อทิตาคลินิกของเรามีบริการครบทุกเรื่องในการยกกระชับใบหน้า อันประกอบไปด้วยบริการต่าง ๆ ดังนี้
1. การใช้เครื่อง (Machine) ยกกระชับใบหน้า
HIFU ทางอทิตาคลินิกของเราจะใช้เครื่องยกกระชับหน้ารุ่น ใหม่ล่าสุดของ ULTRA HIFU โดยกระบวนการทำงานจะเป็นการปล่อยพลังงานคลื่นเสียงแบบ 4D ตัวพลังงานจะเข้มข้น และแนวของจุดพลังงานจะถี่ และลึกขึ้น สามารถลงถึงชั้น SMAS เพื่อช่วยให้ผิวแน่นกระชับ เรียว และดูเข้ารูปมากยิ่งขึ้น
รูปประกอบการทำ ULTRA HIFU 4D
DEEP RF จะเป็นการใช้คลื่นพลังงาน RF หรือ เทคโนโลยีกระชับผิวที่ใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง ซึ่งรุ้จักกันดีในชื่อ “เทอร์มาจ” โดยที่อทิตาคลินิกเราใช้นวัตกรรมใหม่ล่าสุดของเทคโนโลยีเทอร์มาจ เป็นรุ่นที่ไม่มีอันตรายต่อผิว และที่สำคัญเมื่อเข้ารับการรักษาจะไม่ส่งผลให้รู้สึกเจ็บ ไม่มีอาการบวม และไม่ต้องพักฟื้น โดยพลังงานที่ปล่อย ออกมาจะช่วยกระตุ้นให้ผิวหนังสร้างคอลลาเจนมากขึ้น ผิวจะกระชับตึงตัวแลดูอ่อนเยาว์ ทำให้ใบหน้ากระชับเข้ารูปมากยิ่งขึ้น
รูปประกอบการทำ RF ยกกระชับผิว
Ulthera SPT เครื่องยกกระชับผิวและลดริ้วรอย ที่จะช่วยเรียกคืนผิวอ่อนเยาว์ให้กลับมา โดยใช้เทคโนโลยีคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความถี่สูง (High Intensity Focused Ultrasound) ยิงลงไปใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวหดตัวและยกกระชับขึ้น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อิลาสติน สามารถแก้ปัญหาผิวได้แม่นยำ ตรงจุด โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ช่วยชะลออายุผิว และลดโอกาสเกิดริ้วรอยในอนาคต
Ulthera SPT เทคนิคยกกระชับผิวแบบใหม่จากอัลเทอร่า (Ulthera) ที่ช่วยให้สามารถออกแบบการรักษาที่เหมาะสมกับใบหน้าของแต่ละบุคคล สามารถยิงลงถึงผิวชั้นลึกได้อย่างแม่นยำ เจ็บน้อยกว่า ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอย และฟื้นฟูผิวให้อ่อนเยาว์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“Ulthera เครื่องมือยกกระชับผิวหน้า ออกแบบเฉพาะบุคคล กว่า 95%* พึงพอใจในผลลัพธ์”
2. การใช้ฟิลเลอร์ ยกกระชับใบหน้า
ฟิลเลอร์ Restylane
ฟิลเลอร์ Restylane รุ่นที่ใช้จะแนะนำเป็น 2 ตัว คือ Volyme และ Defyne เนื่องจาก 2 รุ่นนี้จะมีความสามารถในการยกกระชับใบหน้าได้ด้วยนวัตกรรมในการผลิต OBT* (Optimal Balance Technology) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีในการคัดสรรโมเลกุล HA ให้มีลักษณะเท่า ๆ กัน ซึ่งจะทำให้เกิดการอยู่ตัวของโมเลกุลที่นานขึ้น และเกิดการแผ่กว้างของโมเลกุลที่ส่งผลให้เกิดการยกตัวทำให้ใบหน้ายกกระชับดูเข้ารูป
*OBT (Optimal Balance Technology) ฟิลเลอร์มีเนื้อเจลนิ่ม มีความยืดหยุ่นสูง สามารถช่วยเติมเต็มและ ปรับรูปหน้าให้สวยละมุนอย่างเป็นธรรมชาติ
ฟิลเลอร์ Juvederm
โดยเราจะเลือกเทคโลโลยี VYCROSS ซึ่งเป็นไฮยาลูโรนิกคลอสลิงก์ชนิดใหม่ โดยรุ่นที่ใช้จะแนะนำเป็น 2 ตัว คือ Volift หรือ Voluma
รูปกล่อง Volift และ Voluma
ด้วยนวัตกรรมในการผลิตจะทำให้ฟิลเลอร์รุ่นนี้มีการผสานเข้ากับเนื้อเยื่อได้ดี และช่วยยกใบหน้า ข้อดีก็คือตัวโมเลกุลจะไม่ไหลไปจุดอื่น สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างแม่นยำ ทำให้ผู้รับบริการพอใจในผลการรักษา
Vycross เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ลิขสิทธิ์เฉพาะของ Allergan
ฟิลเลอร์ Juvederm มีเทคโนโลยี 2 แบบ คือ Hylacross และ Vycross โดย Vycross Tecnology เป็นตัวใหม่ ที่ทำให้สารเติมเต็ม สามารถยกกระชับได้ดี มีโมเลกุลยึดเกาะที่เหนี่ยวแน่นขึ้น อัตราการบวมน้ำน้อยมากเมื่อเทียบกับ HA ตัวอื่น ๆ และที่สำคัญยังทำให้ผลลัพธ์หลังฉีด เรียบเนียน ออกมาดูเป็นธรรมชาติและอยู่ได้นานสูงสุดถึง 24 เดือน
โดยปกติสาร Hyaluronic Acid จะเป็นเส้นใยยาว ๆ ละลายเป็นน้ำเหลว ๆ ซึ่งจะต้องผ่านกระบวนการเชื่อมต่อเส้นใยด้วยพันธะ (crosslink) เพื่อให้เกิดเป็นตาข่ายวุ้นเป็นเนื้อเจลฟิลเลอร์นิ่ม ๆ โดยฟิลเลอร์ที่มีจำนวนพันธะเยอะขึ้น สลายช้าลง ซึ่ง Juvederm ได้พัฒนาเทคโนโลยี Vycross โดยใช้ Crosslink ที่มีประสิทธิภาพสูง ทำให้อยู่ได้นานขึ้น
ภาพเปรียบเทียบเทคโนโลยี Hylacross และ Vycross กับ Juvederm รุ่นต่างๆ
เมื่อคนไข้เมื่อรับการรักษาด้วยการฉีดฟิลเลอร์ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ก็จะแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยได้อย่างตรงจุด เทคนิคนี้จะแนะนำสำหรับคนไข้ที่มีใบหน้าผอมแห้ง และเนื้อน้อย ซึ่งเทคนิคนี้จะช่วยให้ผลลัพธ์ในการรักษามีประสิทธิภาพ และออกมาสวยมากขึ้น แต่อาจไม่แนะนำในคนที่มีเนื้อเยอะ แก้มเยอะ โหนกแก้มสูง เพราะอาจทำให้ผลลัพธ์ออกมาไม่ดีเท่าที่ควร เนื่องจากฟิลเลอร์จะเข้าไปเพิ่มปริมาตรของใบหน้าตามจำนวน CC ที่คนไข้รับการฉีดเข้าไป
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ มีหลายคนเข้าใจผิดว่าเมื่อรับการฉีดฟิลเลอร์เพิ่มไปแล้ว ใบหน้าจะมีขนาดเล็กลง ซึ่งความจริงแล้วเป็นการเพิ่มปริมาตร และมิติของการปรับแต่งในงานปั้น จะเห็นว่าใบหน้าดูยกและเรียวขึ้น แต่คนไข้ต้องเข้าใจด้วยว่าฟิลเลอร์ คือ การเติมเต็ม เป็นหลักการเพิ่มปริมาตรมิได้ลดขนาดของใบหน้า หากคนไข้ไม่เข้าใจถึงหลักของการรักษาที่ถูกต้อง คนไข้ควรเข้าพบแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการปรับรูปหน้าโดยตรง เพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม
ดูเนื้อหาเกี่ยวกับ 8 – point Lift คลิกที่นี่
3. การใช้ตัวยาฉีด ยกกระชับใบหน้า
แม้ในปัจจุบันตัวยานี้จะสามารถช่วยลดขนาดของใบหน้า และช่วยยกกระชับได้ แต่ผลที่ได้อาจจะต้องรอ 7 – 21 วัน ซึ่งประสิทธิภาพในการยกกระชับใบหน้าอาจจะได้ดีไม่เท่ากับการร้อยไหม แต่ก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดขนาดใบหน้า และผู้ที่เพิ่งเริ่มเข้าโปรแกรมปรับรูปหน้า สำหรับคนที่กลัวเข็มนั้น การเลือกวิธีนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ดีและไม่น่ากลัวอย่างที่คิด เพราะที่อทิตาคลินิกเรามีเทคนิคที่จะทำให้มีอาการเจ็บน้อยมาก และที่สำคัญคนไข้ไม่ต้องพักฟื้น
การใช้ Nabota lift จะเป็นเทคนิคที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ และราคาไม่สูง ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่กลัวเจ็บ และสามารถรอผลการรักษาได้ ซึ่งถึงแม้ว่าผลของการยกกระชับใบหน้ายังน้อยกว่าการร้อยไหม แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับคนกลัวเจ็บ
โดยจะมีเทคนิคการฉีดโบท็อกเพื่อยกกระชับผิวหน้า 2 เทคนิคหลัก ๆ ดังนี้
เทคนิคการฉีดแบบ Dermolift
Dermolift คือ การฉีดตัวยาลงในชั้นผิวหนัง โดยจะทำให้เกิดการหดตัวของผิวหนังบริเวณกรอบหน้าเพื่อดึงหน้าขึ้นไปหาหนังศีรษะทั้ง 2 ข้าง ซึ่งเป็นผลมาจากการทำงานของ Dermotoxin โดยจะฉีดในแนวจุดสีม่วงตามรูป
เทคนิคการฉีดแบบ Nefertiti lift
เป็นการฉีดตัวยาเข้าไปในกล้ามเนื้อที่มีชื่อว่า Platysma ซึ่งกล้ามมัดนี้จะห่อหุ้มกรอบหน้าส่วนล่างมาหาลำคอ การทำ Nefertiti lift จะแบ่งกล้ามเนื้อใบหน้าออกเป็นส่วนที่ดึงขึ้นกับส่วนที่ดึงลง ปกติ 2 ส่วนนี้จะยื้อกันไว้เหมือนชักเย่อ เราฉีดตัวยาไปในส่วนที่ดึงลงหรือตามแนวจุดสีขาวในรูป จะทำให้ส่วนที่ดึงขึ้นมีแรงมากกว่า และทำให้หน้ายกกระชับ
ผลจากการปรับรูปหน้าด้วยเทคนิค Nefertiti lift จะอยู่ได้นาน 3 – 4 เดือน สามารถทำได้บ่อยครั้งราว ๆ 3 – 6 เดือน
คนไข้ที่ร้อยไหมกับหมอไปแล้ว หมออยากแนะนำให้มา Lift กรอบหน้า ทุก 4 – 6 เดือน เพื่อกระตุ้นคอลลาเจน ส่งเสริมผลของการร้อยไหมให้อยู่ยาวนานมากยิ่งขึ้น
4. การร้อยไหม ยกกระชับใบหน้า
ที่อทิตาคลินิก เรามีนวัตกรรมของเส้นไหมที่แตกต่างจากที่อื่น นั่นคือไหมของเราจะมีขนาดเส้นใหญ่ ประสิทธิภาพของแรงดึงยกสูง เคลือบสารลดอาการบวม และโกรทแฟคเตอร์นาโนสเต็มเซลล์ อีกทั้งเข็มที่เราใช้ เป็นเข็มทู่รุ่นใหม่ล่าสุด [ Bullet blunt needle ]
ซึ่งเป็นนวัตกรรมของเข็มทู่ที่จะไม่ทำลายเนื้อเยื่อข้างเคียง ช่วยให้เกิดการสร้างคอลลาเจนตามแนวเส้นไหม และไม่ก่อให้เกิดผังผืด
*ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
นี่คือ “จุดเด่น” ของอทิตาคลินิกที่ต่างจากที่อื่น และเป็นจุดแข็งที่เมื่อคนไข้เข้ามารับการรักษาด้วยวิธีการร้อยไหม จะช่วยให้ผู้เข้ารับการรักษามีใบหน้าที่ยกกระชับเข้ารูปมากขึ้น และเมื่อผ่าน 6 cycles ของการแบ่งเซลล์โดยเฉลี่ยประมาณ 1 – 2 เดือน คนไข้จะมีใบหน้าที่ขาวใส และอ่อนเยาว์ลง
สรุปผลลัพธ์ในการรักษาด้วยการร้อยไหม
-
ใบหน้ายกกระชับ เฟิร์มขึ้น โครงหน้าได้รูปมากขึ้น
-
ใบหน้าดูขาวกระจ่างใส
-
ริ้วรอยต่าง ๆ ลดเลือนลง แลดูอ่อนเยาว์
การร้อยไหมเป็นวิธีที่ตอบโจทย์การยกกระชับใบหน้ามาก เพราะทำให้ใบหน้ากระชับเข้ารูป และเล็กลง ซึ่งจะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดปริมาตรของใบหน้าลง
ที่หมออธิบายแบบนี้ เพราะวิธีนี้จะต่างการยกกระชับใบหน้าหน้าด้วยฟิลเลอร์ เพราะการยกหน้าด้วยฟิลเลอร์ คือ การยกกระชับและเพิ่มปริมาตรให้กับใบหน้า ส่วนวิธีนี้จะช่วยยกกระชับ และลดปริมาตรของใบหน้านั่นเอง
โปรแกรมร้อยไหมที่ อทิตาคลินิก
1. Program Blue Rose Lifting : ยกกระชับใบหน้าแก้ม เหนียง ร้อยไหม เงี่ยงกุหลาบบลูโรส
2. Program Mini Face Lift : ดึงหน้าไม่ต้องผ่าตัด ร้อยไหม แองเจิ้ล
3. Program Total Face Lift : จัดโครงหน้าถาวร ร้อยไหม Super Lift
4. Program Foxy Eyes Lift : จัดโครงหน้าถาวร ร้อยไหม Foxy eyes
5. Morpheus
Morpheus8 เป็นนวัตกรรมยกกระชับผิวด้วยเทคโนโลยี Fractional RF Microneedling ที่ผสมผสานการทำงานของเข็มขนาดเล็กและคลื่นวิทยุความถี่ เข็มจิ๋วจะส่งพลังงานความร้อนเข้าสู่ชั้นผิวหนังและชั้นไขมันอย่างแม่นยำ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระดับลึก ทำให้ผิวกระชับ เรียบเนียน ลดเลือนริ้วรอย และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอได้ในคราวเดียวกัน
เทคโนโลยี Fractional RF Microneedling ของ Morpheus ทำงานโดยการใช้เข็มจิ๋วสร้างรูเล็ก ๆ บนผิวหน้า จากนั้นส่งพลังงานความร้อนผ่านเข็มเหล่านั้นลงไปในชั้นผิวลึก กระบวนการนี้จะกระตุ้นให้ร่างกายเริ่มกระบวนการซ่อมแซมผิวตามธรรมชาติ ผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ขึ้นมา ทำให้เกิดการยกกระชับผิวจากภายในออกมาภายนอก
จุดเด่นของ Morpheus อยู่ที่ความสามารถในการปรับระดับความลึกของเข็มได้ตามความต้องการของแต่ละบริเวณ และความแม่นยำในการส่งพลังงาน RF ทำให้สามารถรักษาปัญหาผิวได้หลายอย่างพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นรูขุมขนกว้าง ริ้วรอยลึก ผิวไม่เรียบเนียน หรือการหย่อนคล้อยของผิว การรักษาด้วย Morpheus ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพในการปรับปรุงผิวได้อย่างครอบคลุม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาผิวหลายด้านในครั้งเดียว
6. Sculptra
Sculptra เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจน (Biostimulator) ที่มีส่วนประกอบของ Polylactic Acid (PLLA) ซึ่งทำงานแตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไป เมื่อฉีดเข้าสู่ผิวหนัง Sculptra จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อิลาสติน และไฮยาลูรอนิกแอซิดใหม่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผิวเต่งตึง มีความยืดหยุ่น และยกกระชับหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ
การทำงานของ Sculptra เป็นกระบวนการที่ค่อยเป็นค่อยไป โดยสาร PLLA จะถูกร่างกายดูดซึมและใช้เป็นตัวกระตุ้นให้เซลล์ผลิตคอลลาเจนใหม่ขึ้นมาทดแทน กระบวนการนี้ใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือนกว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ แต่ผลที่ได้จะเป็นการปรับปรุงผิวที่เป็นธรรมชาติและยาวนาน
Sculptra เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวบางและขาดความยืดหยุ่นจากวัยที่มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการการปรับปรุงผิวในระยะยาวมากกว่าผลลัพธ์ทันที สามารถฉีดได้หลายบริเวณ เช่น แก้ม ขมับ หรือบริเวณที่มีการยุบตัวของไขมันและกล้ามเนื้อ ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปี และสารนี้สามารถย่อยสลายได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ตกค้างในผิว
7. Radiesse
Radiesse เป็นอีกหนึ่งสารกระตุ้นคอลลาเจนที่มีองค์ประกอบของ Calcium Hydroxylapatite (CaHA) ที่คล้ายกระดูกตามธรรมชาติ เมื่อฉีดเข้าสู่ผิวหนัง สาร Radiesse จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อิลาสติน และไฮยาลูรอนิกแอซิดใหม่อย่างต่อเนื่อง ช่วยให้ผิวดูเต่งตึง มีความยืดหยุ่น และยกกระชับหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ
สิ่งที่ทำให้ Radiesse แตกต่างจากสารกระตุ้นคอลลาเจนตัวอื่นคือองค์ประกอบ CaHA ที่มีความคล้ายกับแร่ธาตุในกระดูกและฟันของมนุษย์ ทำให้มีความเข้ากันได้กับร่างกายสูง เมื่อฉีดเข้าไป Radiesse จะทำหน้าที่เป็นโครงสร้างค้ำจุนชั่วคราว ขณะเดียวกันก็กระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่มาล้อมรอบ
การทำงานของ Radiesse จะให้ผลลัพธ์ทันทีจากการเติมเต็มปริมาตร และจะมีการปรับปรุงผิวต่อเนื่องจากการสร้างคอลลาเจนใหม่ในระยะ 2-3 เดือนถัดมา เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวขาดความยืดหยุ่นและต้องการฟื้นฟูโครงสร้างผิว โดยเฉพาะบริเวณที่ต้องการการยกกระชับและเพิ่มปริมาตรพร้อมกัน เช่น แก้ม คาง หรือมุมปาก ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปี และสามารถย่อยสลายได้อย่างสมบูรณ์ในร่างกาย
ATITA Institue by Doctor.Noon
สถาบันปรับรูปหน้า Facial Design โดย อาจารย์หมอนุ่น
ที่อทิตาคลินิก เรามีความรู้ในเรื่องการยกกระชับใบหน้า ซึ่งเราอยากให้คำแนะนำว่าก่อนทำหัตถการใด ๆ ควรจะปรึกษาแพทย์ที่มีความชำนาญในเรื่องของการออกแบบดีไซน์ใบหน้า และการปรับโครงหน้าด้วยนะคะ เพราะสิ่งสำคัญในการรักษา คือการประเมินให้ถูกต้องว่าใบหน้าของคนไข้ในแต่ละเคสเหมาะกับการรักษาแบบใด และเหมาะกับหัตถการแบบไหน หรือ ต้องใช้การผสมผสานในการรักษาไว้ด้วยกัน [ combined techniques ]
ซึ่งในปัจจุบันเทรนด์ความสวยจะซับซ้อนมากขึ้น การรักษาส่วน ใหญ่จะใช้การผสานเทคนิคต่างๆ เข้าด้วยกัน เริ่มจากการใช้ตัวยาปรับรูปหน้าฟิลเลอร์ ร้อยไหม เครื่องมือ HIFU และ การใช้ RF เข้ามาเสริม รวมถึงการทำศัลยกรรม จัดแต่งชั้นตา โครงสร้างจมูก คาง ปาก เพื่อให้คนไข้ได้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยม โดยความพิเศษสำหรับการเข้ามารับการรักษาที่อทิตาคลินิกคือเราใส่ใจในเรื่องของโหงวเฮ้งเสริมให้คนไข้ด้วยค่ะ
ตัวหมอเองก็มีประสบการณ์ด้านความงาม และการจัดโครงหน้ามามากกว่า 16 ปี แล้ว และยังจบงานด้านศัลยกรรมทั้ง ตา จมูก คาง ปาก มาจากประเทศเกาหลี รวมไปถึงมีความชำนาญในด้านหัตถการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการร้อยไหม การฉีดฟิลเลอร์ การฉีดตัวยาปรับรูปหน้า และอื่นๆ อีกทั้งยังอบรมและเรียนรู้เทคนิคใหม่ๆเพิ่มเติมมาแล้วจาก 16 ประเทศทั่วโลก
บทความที่เขียนนี้เป็นการรวบรวมองค์ความรู้จากประสบการณ์การรักษา มากกว่า 500,000 เคส และความรู้ จากการไปอบรมเพิ่มเติมมามากมาย หมอได้นำเอาความรู้เรื่องเทรนด์ความสวยจากทั่วโลก มาสรุปให้คนทั่วไปอ่านเข้าใจง่ายๆ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมในส่วนไหน สามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่อทิตาคลินิกค่ะ
บทความโดย
แพทย์หญิงอาทิตยา เม่งศิริ
แพทยศาสตร์ บัณฑิต ม.ธรรมศาสตร์
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทํางานด้านผิวพรรณ และความงามมากกว่า 16 ปี