ร้อยไหม VS ไหมน้ำ Ultracol ช่วยยกกระชับ ปรับโครงหน้า หลายคนน่าจะเคยได้ยินกิตติศัพท์ของทั้ง 2 หัตถการนี้มากันบ้างแล้ว ในยุคหนึ่งการร้อยไหม เคยเป็นที่นิยมอย่างมาก และถือเป็นศาสตร์ความงามขั้นสูง ต้องทำโดยแพทย์ที่ชำนาญจริง ๆ ซึ่งวิธีการนี้หลายประเทศในแถบยุโรปถือเป็นต้นแบบผู้นำทางด้านหัตถการดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็น เยอรมัน หรืออิตาลี
ด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ และนวัตกรรมที่ทันสมัย ทำให้ในยุคปัจจุบันนี้ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการร้อยไหมแบบเดิม ๆ เพราะล่าสุดมีการพัฒนาไหมน้ำที่พัฒนามาจากการร้อยไหมแบบเดิม แต่ทำให้มีความสะดวกในด้านการใช้งาน เห็นผลไว ดูแลหลังทำได้ง่าย ไม่มีรอยแผลเหมือนกับการร้อยไหมในแบบเดิม ๆ ไม่เสี่ยงกับการเกิดผิวเป็นคลื่นจากเส้นไหม ลดความเสี่ยงในการแพ้ และการเกิดพังผืดได้ ถ้าสนใจการเสริมความงามด้วยวิธีใหม่ล่าสุดอย่างไหมน้ำนี้ ติดตามข้อมูลจาก Atita Clinic กันต่อได้ที่นี่เลย
ร้อยไหมคืออะไร?
Table of Contents
หลายคนไม่รู้ว่าการร้อยไหมคืออะไร เราขอสรุปคร่าว ๆ คือ การนำไหมที่ใช้ในทางการแพทย์ เช่น ไหมเส้น มาพัฒนาให้เหมาะกับการเสริมความงามโดยตรง เพื่อร้อยเข้าใบหน้าไปตามจุดต่าง ๆ โดยแพทย์ที่ทำหัตถการความงามนี้จะต้องมีความชำนาญในการร้อยไหมอย่างมาก และต้องรู้ว่าจะร้อยตรงไหน เพื่อแก้ปัญหาผิวแบบไหน จำนวนจุดที่จะร้อย ปริมาณเส้นไหม รวมทั้งขนาดของเส้นไหมที่ต้องใช้ ทุกอย่างต้องใส่ใจในทุกรายละเอียดมาก ๆ และหากเลือกไหมที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือขนาดไม่เหมาะสม ตลอดจนขั้นตอนการทำหัตถการที่ไม่สะอาด แพทย์ไม่ชำนาญ ก็จะมีผลเสียเกิดขึ้นได้และยากต่อการแก้ไข
ปัจจุบันจึงมีไหมแบบใหม่ ที่พัฒนามาในรูปแบบฉีดที่เรียกกันว่า ไหมน้ำ ซึ่งพัฒนามาจากสารที่เป็นส่วนประกอบในไหมละลายที่ใช้เพื่อรอยไหมแบบดังเดิม ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกในการเสริมความงาม และปลอดภัยมากกว่าเดิม
ไหม มีกี่ประเภท
ปัจจุบันมีการแบ่งชนิดของไหมที่ใช้เสริมความงามออกเป็นสองชนิด คือ ไหมเส้น และไหมน้ำ ซึ่งแต่ละชนิดมีคุณสมบัติแตกต่างกัน วิธีการทำหัตถการก็ต่างกันอย่างชัดเจน รวมทั้งการดูแลหลังทำ ข้อดี-ข้อเสีย ความเสี่ยงต่าง ๆ ก็แตกต่างกัน ซึ่งอทิตาคลินิกจะสรุปสั้น ๆ จากรีวิวการฉีดไหมให้เข้าใจง่าย ดังนี้
ไหมแบบเส้น
การร้อยไหมแบบเส้น คือการใช้เส้นไหมที่พัฒนาและผลิตเพื่อการเสริมความงามโดยตรง การทำงานของไหมเส้น คือ จะเข้าไปยึดส่วนต่าง ๆ ที่อยู่ใต้ผิวหนังตามที่แพทย์ร้อยไว้ เมื่อดึงไหมขึ้นก็จะเป็นการยกกระชับผิวให้เต่งตึง ซึ่งไหมที่ใช้ร้อยก็จะแบ่งเป็นสองประเภทหลัก คือ ไหมละลายและแบบไม่ละลาย นอกจากสองชนิดหลักนี้แล้ว ยังสามารถแบ่งเป็นประเภทย่อย ๆ ตามวัสดุการผลิตได้อีกด้วย
ไหมแบบน้ำ
ไหมน้ำ คือ นวัตกรรมที่ต่อยอดพัฒนาจากไหมเส้น ชนิดไหมละลายที่เคยใช้เป็นไหมร้อยหน้า นำพัฒนาในรูปแบบผงที่สามารถทำเป็นสารละลายได้ สามารถฉีดเข้าสู่ร่างกายได้สะดวกมากขึ้น ลดความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ ที่อาจเกิดจากการร้อยไหมแบบเส้นได้ เช่น ผิวหน้าไม่เรียบหลังการทำ, อาการแพ้จากเส้นไหม และรอยแผลจากการร้อยไหม
ซึ่งการทำงานของไหมน้ำ นั้นจะคล้ายกับสารเติมเต็มอย่างกลุ่มฟิลเลอร์ แต่มีความปลอดภัยกว่า เสี่ยงต่อการแพ้สารเติมเต็มน้อยกว่า เนื่องจากช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจากร่างกายได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ย่อยสลายเองได้ ซึ่งไหมชนิดนี้มีโมเลกุลที่เล็กมากระดับนาโน ทำให้กระจายตัวได้เร็ว และเข้าจับกับเซลล์ใต้ผิวหนังได้ดี ช่วยยกกระชับใบหน้า ผิวฟูนุ่ม สร้างความยืดหยุ่นให้ผิวได้ยาวนานกว่าการฉีดสารเติมเต็ม
ไหมเส้น VS ไหมน้ำ ต่างกันอย่างไร?
จากข้อมูลในข้างต้นที่อทิตาคลินิกได้รวบรวมสรุปข้อมูลสำคัญที่ควรรู้ก่อนการตัดสินใจเลือกวิธีการยกกระชับใบหน้าก็พอจะทำให้สรุปได้ว่า ไหมเส้น และไหมน้ำ มีความแตกต่างกันตรงไหนอย่างคร่าว ๆ แล้ว ที่นี้เราจะพามาดูข้อดี-ข้อเสียของไหมแต่ละชนิดด้วย เพื่อให้ทุกคนได้ชั่งน้ำหนักระหว่างข้อดี และข้อเสียเหล่านี้ เพื่อจะได้เลือกวิธีที่เหมาะสมกับตนเอง
ข้อดี-ข้อเสียของไหมเส้น
ข้อดีของไหมเส้น คือ ช่วยยกกระชับใบหน้า แก้ไขปัญหาริ้วรอยได้ชัดเจนและรวดเร็ว ดึงผิวหน้าที่หย่อนคล้อยได้ตามจุดที่ต้องการ ไม่ต้องใช้วิธีการผ่าตัด แต่การร้อยไหม แบบเส้นก็มีข้อเสีย คือ อาจมีรอยคลื่นบนผิวหน้า หากแพทย์ที่ทำหัตถการไม่มีความชำนาญที่มากพอ และอาจเกิดเส้นไหมไม่เรียบตึงก็ยิ่งจะทำให้มีริ้วรอยเพิ่มขึ้น และแก้ไขได้ยาก การดูแลค่อนข้างมีข้อต้องระมัดระวังมากกว่าการทำหัตถการแบบอื่น ๆ
ข้อดีข้อเสียของไหมน้ำ
ข้อดีของไหมน้ำอย่าง Ultracol เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่าการฉีดสารเติมเต็ม ถือเป็นข้อดีของการเสริมความงามด้วยวิธีนี้ และยังช่วยชะลอการเกิดใหม่ของริ้วรอยได้จริง บูสต์ผิวได้ทันทีหลังทำ โดยผิวจะค่อย ๆ นุ่มฟู อย่างเป็นธรรมชาติ ตามระยะเวลาหลังฉีดประมาณ 1-2 สัปดาห์ นอกจากนี้อายุของผลลัพธ์ค่อนข้างอยู่ได้นานเกินกว่า 12 เดือน (แต่ทั้งผลลัพธ์ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)ที่สำคัญช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้จริง และปลอดภัย ย่อยสลายได้เอง ขั้นตอนการดูแลหลังทำไม่ยุ่งยาก ส่วนข้อเสียที่เห็นชัด คือ ไม่เหมาะกับผู้ที่มีอายุเกิน 50 ปีขึ้นไป มักจะไม่ได้ผลหากเลือกการฉีดไหมแบบน้ำเพียงอย่างเดียว และไม่เหมาะกับริ้วรอยที่ลึกมาก หากคุณยังมีอายุไม่ถึง 50 ปี และไม่ได้มีริ้วรอยที่ลึกมาก จะแนะนำให้ใช้ไหมน้ำดีกว่า เพราะเป็นเทคนิคที่ทำได้ง่าย เจ็บตัวน้อย ไม่ต้องจิ้มหลายเข็ม เพราะตัวยาสามารถกระจายตัวได้ดี ใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่า จึงเป็นเหตุผลที่คนส่วนใหญ่มักเลือกทำไหมน้ำมากกว่าการร้อยไหมนั่นเอง
สรุปบทความ
ไม่ว่าจะเลือกวิธีการยกกระชับใบหน้า พร้อมลดเลือนริ้วรอยด้วยการร้อยไหมแบบเส้น หรือการฉีดไหมน้ำอย่าง Ultracol จะต้องดูปัจจัยอื่นประกอบร่วมด้วยเพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของอายุ สุขภาพ ปัญหาผิวหน้า ซึ่งควรได้รับการประเมินจากแพทย์ที่เชี่ยวชาญโดยตรง เพื่อที่จะแก้ไขได้อย่างตรงจุด และปลอดภัย รวมทั้งควรต้องดูแลสุขภาพผิวอย่างถูกต้องเพื่อให้ผลลัพธ์คงความอ่อนเยาว์ได้นาน
หากต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วปลอดภัย ลดความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ การเลือกฉีดไหมแบบน้ำ ดูจะตอบโจทย์ได้ตรงประเด็นมากที่สุด โดยเฉพาะการกู้ผิวโทรมแบบเร่งด่วน เพราะเห็นผลทันทีหลังฉีด แม้ว่าจะมีข้อด้อยที่อาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่มีอายุเกิน 50 ปีขึ้นไป แต่ก็สามารถฉีดไหมน้ำ ควบคู่กับการเสริมความงามด้วยวิธีอื่นได้อย่างปลอดภัย ซึ่งจะเสริมให้เห็นผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นได้
นอกจากนั้นไหมน้ำผลิตจากวัสดุที่เคยใช้ในการร้อยไหมอย่างไหมละลาย จึงช่วยความเสี่ยงที่จะเกิดอาการแพ้และไม่มีพังผืดใต้ผิวหนัง เพราะไหมชนิดนี้สามารถย่อยสลายได้หมด โดยไม่มีสารตกค้างใด ๆ หากสนใจสามารถขอคำแนะนำ ปรึกษาปัญหาผิวทุกแบบได้กับอทิตาคลินิกทุกสาขา เรามีแพทย์ผู้ชำนาญในการทำหัตถการด้านนี้โดยตรง ก็จะยิ่งมีความปลอดภัยและกลับมาสวยใสอ่อนกว่าวัยได้ตามต้องการอย่างแน่นอน