หลาย ๆ คนมักมองว่าปัญหาผิวแห้งกร้านไม่ใช่เรื่องน่าหนักใจอะไร แต่ในความจริงแล้วสัญญาณนี้อาจเป็นปัญหาสุขภาพผิวที่ต้องรีบดูแลโดยด่วน เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตได้ การมีผิวที่แห้งกร้านหมายความว่า ผิวกำลังต้องการการบำรุงที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการบำรุงผิวจากภายนอกและรวมถึงการบำรุงผิวภายจากภายในสู่ภายนอกด้วยเช่นกัน
เพื่อจัดการกับปัญหาผิวแห้งกร้าน ฟื้นฟูผิวเด็ก ได้อย่างตรงจุด จะต้องมาทำความรู้จักกับปัญหาผิวแห้งกร้านกันให้มากขึ้นก่อน รู้ถึงสาเหตุว่าทำไมถึงเป็นสัญญาณความผิดปกติของสุขภาพผิวที่เราไม่ควรมองข้ามกัน
ผิวแห้งกร้านเกิดจากอะไร
ผิวแห้ง (Dry skin) คือ สภาพผิวที่มีปัญหาแห้ง ตึง แตก เห็นเป็นร่อง แตกลาย เป็นเกล็ด แดงลอกเป็นขุย อาจมีอาการคันได้ เกิดจากระบบสร้างสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติในผิวหนังเสียสมดุล ซึ่งอาจเกิดจากโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic dermatitis) และโรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) ทำให้ผิวเกิดความระคายเคืองขึ้น ผิวอักเสบ แดง และมีการสูญเสียน้ำที่เกิดจากผิวอ่อนแอมากยิ่งขึ้น
ซึ่งจริง ๆ แล้วปัญหาผิวแห้งกร้านยังมีอีกหลายสาเหตุและปัจจัยกระตุ้นทำให้เกิดผิวแห้งที่รุนแรงขึ้นจนยกระดับทำให้ผิวลอกเป็นขุยได้ในที่สุด โดยสามารถจำแนกสาเหตุของการเกิดผิวแห้งกร้านออกได้เป็น 2 ปัจจัยหลักดังต่อไปนี้
ปัจจัยภายในที่ทำให้ผิวแห้งกร้าน
- อายุ : เมื่ออายุยิ่งมากขึ้น จะสังเกตตนเองได้ว่ามีผิวแห้งง่าย เนื่องจากร่างกายจะมีความสามารถในการผลิตไขมันในผิวที่ลดลง ส่งผลทำให้ชั้นปกป้องผิวมีความอ่อนแอ และสูญเสียน้ำออกจากผิวมากขึ้น
- พันธุกรรม : เมื่อป่วยด้วยโรคบางชนิดที่ได้รับการถ่ายทอดทางพันธุกรรมมาอาจจะทำให้มีอาการผิวแห้งกร้านร่วมด้วย เช่น โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง และโรคสะเก็ดเงิน เป็นต้น
- ฮอร์โมน : เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงของปริมาณฮอร์โมน เช่น ในช่วงระยะการตั้งครรภ์หรือระยะหมดประจำเดือน ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นได้
- เซลล์ชั้นผิวอ่อนแอ : หากป้อมปราการผิวในชั้นผิวที่ลึกลงไปอ่อนแอ จะพบว่าจำนวนประตูกักเก็บน้ำในผิวก็ลดลงตามไปด้วย ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น จนทำให้เกิดปัญหาผิวแห้งได้
- พฤติกรรมการรับประทานอาหาร : การเลือกรับประทานอาหารที่ไม่ได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ หรือไม่ได้รับสารสำคัญในการช่วยบำรุงผิว ส่งผลทำให้ผิวขาดวิตามินและทำให้ผิวแห้งมากขึ้นกว่าเดิมได้
ปัจจัยภายนอกที่ทำให้ผิวแห้งกร้าน
- การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ : อากาศเริ่มเปลี่ยนแปลงและช่วงการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล รวมไปถึงแสงแดดในช่วงฤดูร้อน ไม่ได้ส่งผลเพียงแค่ปัญหาที่ทำให้เกิดริ้วรอยที่ดูอายุเยอะเกินกว่าวัยเพียงเท่านั้น แต่ยังทำให้ผิวแห้งกร้านมากขึ้นด้วย
- การทำความสะอาดผิว : หากมีพฤติกรรมในการทำความสะอาดผิวบ่อย ๆ จะมีความเสี่ยงชำระล้างไขมันที่จำเป็นในผิวออกไปด้วย ส่งผลทำให้ผิวอ่อนแอและขาดความชุ่มชื้นได้
- การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว : หากเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีสารสำคัญที่มากพออยู่ในครีมหรือโลชั่นที่ใช้บำรุงผิว ก็อาจจะฟื้นฟูผิวได้ไม่เต็มที่เท่าที่ควร ไม่สามารถให้ความชุ่มชื้นผิวได้มากพอ ทำให้เกิดปัญหาผิวแห้งกร้านได้
- การใช้ยารักษาโรคบางชนิด : สำหรับในผู้ป่วยบางรายที่มีการใช้ยารักษาโรคบางชนิด เช่น การล้างไต การใช้ยาหรือสารเคมี และการฉายรังสีเพื่อทำการรักษา จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ผิวสูญเสียน้ำได้มากขึ้น
อาการผิวแห้งกร้านเป็นอย่างไร
แบบไหนคืออาการผิวแห้งกร้าน? มาเช็กอาการผิวแห้งกร้านไปพร้อมกัน ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 ระดับดังต่อไปนี้
- ผิวแห้งระดับเล็กน้อย : รู้สึกไม่สบายผิว ผิวไม่เรียบเนียน และเกิดอาการคันเล็กน้อย
- ผิวแห้งระดับปานกลาง : อาการคันเริ่มมากขึ้น ทำให้ผิวแดง มีผื่นขึ้นเป็นหย่อม ๆ จะสังเกตได้จากการลูบผิวแล้วรู้สึกผิวสาก
- ผิวแห้งระดับรุนแรง : ผิวแห้งลอก ผิวเป็นขุย โดยจะพบว่ามีอาการตึง ๆ ตามบริเวณผิวหนัง ผิวแห้งแตกชัดเจน หรือขึ้นเป็นตกสะเก็ด เกิดการระคายเคืองง่าย มีอาการคันอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงมีผื่นขึ้นเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะในตำแหน่งที่เกิดการเสียดสีมาก
วิธีการรักษาผิวแห้งกร้าน
ผิวแห้งกร้านอีกหนึ่งปัญหาที่ก่อกวนใจของใครหลาย ๆ คน สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย ล้วนแล้วก่อให้เกิดความไม่มั่นใจในตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการแต่งตัวหรือเมื่อการถูกสัมผัส หากใครที่ต้องการกู้ผิวให้สวยดูสุขภาพดี ไม่แห้งกร้าน สามารถดูแลปัญหาผิวแห้งกร้าน ได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ดังต่อไปนี้
1. หลีกเลี่ยงการอาบน้ำด้วยน้ำอุ่นและน้ำร้อน
การอาบน้ำร้อนหรือน้ำอุ่น จะทำให้ผิวแห้งและขาดความชุ่มชื้นได้ สามารถกอบกู้ผิวให้ชุ่มชื้นขึ้นได้โดยการอาบน้ำอุณหภูมิปกติ และหมั่นทาโลชั่นบำรุงหลังอาบน้ำในตอนเช้า-ตอนเย็น จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและมอบผิวที่เรียบเนียนยิ่งขึ้น
2. ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อ่อนโยนต่อผิว
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ให้เลือกสูตรที่มีความอ่อนโยน หรือมีค่า pH ที่สมดุลใกล้เคียงกับ pH ผิวซึ่งอยู่ที่ประมาณ 5.5 ผลิตภัณฑ์ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม สารกันเสียหรือสีเจือปนอยู่ และไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ จะช่วยลดความแห้งกร้านของผิวและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังได้
3. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ จะช่วยลดการเกิดปัญหาผิวแห้งกร้านได้ ให้เลือกรับประทานผักและผลไม้ที่มีวิตามินช่วยบำรุงผิว และทานโปรตีนให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย จะสามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ดียิ่งขึ้น
4. ดื่มน้ำสะอาดที่เพียงพอต่อร่างกาย
อยากมีผิวสวย ผิวใส ไม่แห้งกร้าน สิ่งสำคัญที่สุดเลยนั่นก็คือควรดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยในแต่ละวันควรดื่มน้ำอย่างน้อยประมาณ 6-8 แก้ว จะช่วยดูแลสุขภาพผิวจากภายในสู่ภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง
หากกรณีที่พบว่ามีผิวแห้งกร้านมากจนเกินไป ทำให้เกิดอาการแสบ คัน แตก ลอก หรือผิวเกิดการอักเสบขึ้น ให้รีบปรึกษาแพทย์ผิวหนัง เนื่องจากในบางรายจำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยยาสเตียรอยด์หรือยาปฏิชีวนะในการรักษา รวมทั้งผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสูตรเข้มข้นเพื่อช่วยกอบกู้สภาวะผิวแห้งได้อย่างทันท่วงที
แก้ปัญหาผิวแห้งกร้าน ให้ Atita Clinic ช่วยดูแล
ผิวแห้งกร้านจะไม่ก่อให้เกิดปัญหากวนใจของคุณอีกต่อไป เพราะทาง Atita Clinic มีนวัตกรรมบำรุงผิวดี ๆ ที่จะช่วยดูแลปัญหาผิวแห้งกร้านของคุณได้อย่างตรงจุด ซึ่งคลินิกเรามีแพทย์ผิวหนังที่เชี่ยวชาญที่จะช่วยจัดการกับทุกปัญหาผิวด้วยหัตถการหลากหลายรูปแบบที่มีให้บริการในอทิตาคลินิก ไม่ว่าจะเป็นการเติม วิตามินผิวใส ฉีดฟิลเลอร์ หรือฉีดเมโสหน้าใส เป็นต้น นับว่าเป็นตัวช่วยดี ๆ ที่ทำให้ผิวของคุณกลับมาชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน และดูสุขภาพดีขึ้นได้อย่างแน่นอน
สรุปบทความ
ผิวแห้งกร้าน นับว่าเป็นอีกปัญหาสุขภาพผิว ที่อาจเป็นสัญญาณผิดปกติของผิวที่ต้องทำความเข้าใจ โดยปัญหาผิวลักษณะนี้เกิดขึ้นได้ทั้งจากปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก ซึ่งจะแบ่งลักษณะของผิวแห้งกร้านออกเป็น 3 ระดับ คือ ผิวแห้งระดับเล็กน้อย ปานกลาง และรุนแรง ทำให้ต้องรักษาด้วยวิธีที่ต่าง ๆ กัน
หากพบอาการผิดปกติในกรณีที่เกิดอาการแสบ คัน แตก ลอก หรือผิวเกิดการอักเสบมากยิ่งขึ้น ให้รีบปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อทำการรักษาก่อนที่ปัญหาผิวแห้งจะบานปลายกลายเป็นโรคผิวหนังที่รักษายากขึ้นกว่าเดิม ท้ายที่สุดนี้ทาง Atita Clinic พร้อมที่จะช่วยฟื้นฟูปัญหาผิวของคุณ ให้กลับมาชุ่มชื้นดูสุขภาพดีได้อีกครั้งด้วยหัตถการต่าง ๆ ของทางคลินิก หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทุกปัญหาผิว สามารถสอบถาม Atita Clinic โทร. 094-324-4442 หรือไลน์ @atitaclinic ได้เลย