การเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย ทั้งความเสื่อมโทรมของใบหน้า ผิวพรรณ และรูปร่างที่เปลี่ยนไปเป็นสิ่งที่คุณแม่หลังคลอดทุกคนต้องประสบพบเจอ ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ของการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ก็คือ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน รวมถึงการให้ความใส่ใจกับการเลี้ยงลูกจนละเลยการดูแลตัวเองไป
ซึ่ง Atita Clinic เข้าใจเป็นอย่างดีว่า ความเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายเหล่านี้ ทำให้คุณแม่หลังคลอดหลายคนเสียความมั่นใจ และเกิดความกังวลจนอาจนำไปสู่ปัญหาอื่น ๆ ทำให้ในบทความนี้ เราได้รวบรวมวิธีดูแลปัญหาผิว เพื่อให้คุณแม่หลังคลอดกลับมาสวย และมั่นใจได้อีกครั้ง เหล่าคุณแม่หลังคลอด รวมถึงคุณแม่ที่กำลังเตรียมจะคลอดลูกเร็ว ๆ นี้ต้องห้ามพลาด!
ปัญหาผิวที่มักพบในคุณแม่หลังคลอด
Table of Contents
• เกิดสิว
สิว เป็นปัญหาที่เกิดจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงในขณะตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นตัวการที่กระตุ้นให้เกิดสิวบนใบหน้า และอาจส่งผลตั้งแต่ตั้งครรภ์จนถึงหลังคลอด นอกจากนี้ฮอร์โมนที่แปรปรวนยังส่งให้คุณแม่เกิดความเครียดได้ง่าย โดยเฉพาะในยามที่พักผ่อนไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงควรหาวิธีผ่อนคลายความเครียด นอนพักผ่อนและดื่มน้ำให้เพียงพอ รวมถึงรักษาสิวด้วยวิธีที่ปลอดภัยกับการให้นมลูกน้อย เช่น การทายาแต้มสิว ทำทรีตเมนต์ หรือทำหัตถการต่าง ๆ
• ริ้วรอยเพิ่มขึ้น
ริ้วรอยที่เพิ่มขึ้น เป็นปัญหาผิวที่เกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอและภาวะเครียด ทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนแห่งความเครียด (Cortisol) ที่เข้าไปทำลายสารต้านอนุมูลอิสระ อีลาสติน และคอลลาเจนในชั้นผิวให้ลดลง แน่นอนว่าเมื่อผิวสูญเสียสารสำคัญที่ทำหน้าที่ฟื้นฟูผิวไป ก็จะทำให้เกิดริ้วรอยเพิ่มขึ้น และอาจมีปัญหาอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ผิวหมองคล้ำ เกิดสิว เป็นต้น
• ผิวหย่อนคล้อย
สาเหตุของการเกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อยนั้นมีทั้งจากการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ภาวะเครียด และการขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ ขณะตั้งครรภ์ รวมถึงน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้คุณแม่มีภาวะผิวหย่อนคล้อยดูไม่กระชับตามส่วนต่าง ๆ เช่น บริเวณหน้าท้อง ต้นขา ต้นแขน เป็นต้น โดยอาการเหล่านี้เกิดจากผิวบริเวณนั้นสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสตินไป ทำให้ขาดความกระชับ ดูหย่อนคล้อย และอาจมีรอยแตกลายร่วมด้วย
• เกิดฝ้า
ฝ้าที่เกิดระหว่างตั้งครรภ์และหลังคลอด เกิดจากฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนที่สูงขึ้น จนไปกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานินให้เพิ่มมากขึ้น จนทำให้ผิวคล้ำขึ้น และเกิดฝ้าบนใบหน้านั่นเอง ซึ่งฮอร์โมนเหล่านี้ยังไปกระตุ้นให้เกิดรอยดำตามส่วนต่าง ๆ อีกด้วย เช่น คอ รักแร้ ขาหนีบ หน้าท้อง หรือหัวนม เป็นต้น
• ไขมันส่วนเกิน
เกิดจากฮอร์โมนเอสโตรเจนมีการเปลี่ยนแปลงขณะตั้งครรภ์ ที่ทำให้ระบบการทำงานของหลอดเลือดมีความผิดปกติ เป็นสาเหตุให้น้ำที่อยู่ในหลอดเลือดออกมาจับตัวอยู่บริเวณเซลล์ผิวหนัง บวกกับการที่คุณแม่หลังคลอดต้องพักฟื้นและไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกายมากนัก ทำให้กล้ามเนื้อทำงานลดลง กลายเป็นไขมันมาหุ้มแทน และเกิดเป็นเซลลูไลท์หรือไขมันส่วนเกินในที่สุด
วิธีดูแลผิวคุณแม่หลังคลอดที่เห็นผลได้อย่างรวดเร็ว
1. ร้อยไหม
การร้อยไหมเป็นหัตถการที่นิยมทำเพื่อยกกระชับใบหน้ากลับมาดูเต่งตึงอีกครั้ง โดยจะเป็นการสอดไหมเข้าไปบริเวณที่ต้องการยกกระชับ แล้วใช้ตะขอเกี่ยวผิวหนังให้ยกขึ้น ซึ่งวิธีนี้จะสามารถเห็นผลได้ทันทีหลังทำ และไม่เป็นอันตรายต่อคุณแม่หลังคลอด หรือคุณแม่ที่กำลังให้นมบุตร แต่ทั้งนี้ก็ควรจะให้แพทย์ประเมินความเหมาะสมและความพร้อมก่อนเสมอ
2. ผ่าตัดดึงหน้า
สำหรับคุณแม่หลังคลอดที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอยบนใบหน้า แล้วต้องการยกกระชับผิวให้เต่งตึงและเห็นผลทันทีหลังทำ การผ่าตัดดึงหน้าก็เป็นวิธีที่ตอบโจทย์ เพราะนอกจากจะเป็นการยกกระชับกล้ามเนื้อและไขมันใต้ผิวหนังให้กลับไปยังตำแหน่งที่เหมาะสมแล้ว ยังมีการตัดผิวหนังส่วนเกิน หรือส่วนที่หย่อนคล้อยออกด้วย จึงสามารถช่วยลดโอกาสเกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อยในอนาคตได้ แต่ทั้งนี้ก็ควรจะให้แพทย์ประเมินความเหมาะสมและความพร้อมก่อนเสมอ
3. ฉีดฟิลเลอร์
คุณแม่หลังคลอดส่วนใหญ่ มักจะมีร่องแก้ม ใต้ตาลึกจากการพักผ่อนน้อย สามารถแก้ได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ หรือการฉีดสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid เพื่อเติมเต็มจุดที่บกพร่องและคงความชุ่มชื้นให้กับผิว ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์นั้นไม่เป็นอันตรายต่อการให้นมบุตร เนื่องจากสาร Hyaluronic Acid เป็นสารที่ร่างกายสามารถผลิตและสลายไปได้เองตามธรรมชาติ แต่ทางที่ดี ควรจะฉีดหลังจากคลอดประมาณ 1-2 เดือน เพื่อรอให้ร่างกายปรับสมดุล รวมถึงควรให้แพทย์ประเมินความเหมาะสมและความพร้อมก่อนเสมอ
4. พิโค่เลเซอร์
หากคุณแม่มีรอยสิว หรือรอยแผลเป็นหลังคลอด พิโค่เลเซอร์ถือเป็นวิธีที่ตอบโจทย์ เนื่องจากสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน โดยเลเซอร์จะเข้าไปผลัดเซลล์ผิวเก่า พร้อมกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวและคอลลาเจนขึ้นใหม่ ทำให้ผิวชั้นบนดูเรียบเนียน หลุมสิวดูตื้นขึ้น ช่วยลดปัญหารูขุมขนกว้าง และช่วยลดรอยแผลเป็นได้อีกด้วย
ในขณะตั้งครรภ์ คุณแม่จะมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ขาที่เป็นส่วนรับน้ำหนักทั้งหมด เกิดการเกร็งตัวมากขึ้นจนทำให้ดูน่องใหญ่ การฉีดโบท็อกบริเวณขาจะช่วยลดขนาดน่องให้เล็กลงและดูเรียวสวยได้รูปมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้การฉีดโบท็อกไม่ควรทำขณะให้นมบุตร เนื่องจากยังไม่มีผลวิจัยหรือเอกสารยืนยันทางการแพทย์ออกมาว่าปลอดภัยหรือไม่
6. Hifu
เทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อการให้นมบุตร และยังช่วยแก้ไขปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อยให้กลับมากระชับ เต่งตึง พร้อมปรับรูปหน้าให้ดูเรียบเนียน และกระจ่างใสขึ้นได้อีกด้วย
7. อัลเทอร่า
อีกหนึ่งเทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความถี่สูง ที่จะยิงลึกลงไปใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวเกิดการหดตัวและยกกระชับขึ้น พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีลาสติน ทำให้สามารถแก้ปัญหาริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย และผิวหมองคล้ำได้อย่างตรงจุด
ได้ทราบสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาผิวของคุณแม่หลังคลอดกัน รวมถึงวิธีดูแลผิวที่เห็นผลเร็วและปลอดภัยกันไปแล้ว คุณแม่คนไหนที่มีปัญหาผิวเหล่านี้และรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง ก็อย่าลืมหันมาใส่ใจดูแลตัวเอง เพื่อคืนความมั่นใจให้กลับมาอีกครั้ง สำหรับคุณแม่ที่ยังไม่พร้อมจะเข้าไปทำหัตถการต่าง ๆ ที่เรากล่าวไป ก็สามารถดูแลตัวเองด้วยการพักผ่อนและดื่มน้ำให้เพียงพอ ผ่อนคลายจากความเครียด และหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อฟื้นฟูระบบต่าง ๆ ในร่างกายให้กลับมาปกติอีกครั้ง
และสำหรับคุณแม่หลังคลอดที่อยากดูแลตัวเองให้สวยขึ้นด้วยหัตถการต่าง ๆ ที่เรากล่าวไปข้างต้น ก็อย่าลืมเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและน่าเชื่อถือ รวมถึงให้แพทย์ประเมินความพร้อมก่อนทุกครั้ง ซึ่งที่ Atita Clinic เรามีทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำหัตถกรรมต่าง ๆ มาแล้วกว่า 18 ปี อบรมมาแล้วกว่า 14 ประเทศทั่วโลก รวมถึงได้รับรางวัลการันตีมากมาย ทำให้คุณแม่สามารถมั่นใจได้เลยว่า จะได้รับการบริการที่ดีที่สุด และปลอดภัยที่สุดอย่างแน่นอน
