ปัญหาจมูกบานเป็นปัญหาที่พบได้กับบางบุคคล เมื่อมีปีกจมูกที่กว้างส่งผลให้ใบหน้าไม่ได้สัดส่วน และอาจทำให้มีความมั่นใจลดลงได้ ปัจจุบันมีวิธีการที่สามารถแก้ปัญหาจมูกบานได้หลากหลายวิธี ทั้งแบบผ่าตัด และไม่ต้องผ่าตัด
แต่ก่อนอื่นเรามาประเมิน และทำความเข้าใจลักษณะของจมูกบานกันก่อน เพื่อที่จะได้ประเมินสัดส่วนของจมูก ว่าจริงๆ แล้ว จมูกเราบานหรือหรือไม่? ทรงจมูกแบบไหนถึงจะช่วยเสริมรับกับโหวงเฮ้งใบหน้าเราให้เฮงๆ ปังๆ ยิ่งขึ้นได้ และวิธีการแก้จมูกบาน เพราะเราเข้าใจ ไม่ว่าใครก็อยากมีจมูกทรงสโลปปลายพุ่งแบบสวยๆ ที่รับกับใบหน้าทั้งนั้น
ลักษณะจมูกบานเป็นอย่างไร
Table of Contents
ลักษณะจมูกบานสังเกตได้จากปีกจมูกทั้งสองข้างบานใหญ่ออกด้านข้างจนเห็นได้ชัด ทำให้ส่วนปลายจมูกมีลักษณะคล้ายกับลูกชมพู่ โดยสามารถสังเกตได้จากปีกจมูกของเราว่ามีความกว้างเลยหัวตาออกมาไหม ซึ่งหากมีลักษณะบานเลยออกมามาก จะทำให้รู้สึกว่าส่วนกลางของใบหน้าดูใหญ่มากกว่าบริเวณอื่นๆ ทำให้รู้สึกว่าใบหน้าเริ่มไม่ได้สัดส่วน
นอกจากนี้อาจพบลักษณะรูจมูกกว้างร่วมด้วย หรือเนื้อบริเวณปีกจมูกหนาเยอะ กลมโต จมูกใหญ่บาน หากใครมีลักษณะจมูกดังกล่าว และรู้สึกไม่มั่นใจในรูปจมูกของตัวเอง ตามเรามา เรามีวิธีการแก้จมูกบานดีๆ มาแนะนำ
จมูกบานเกี่ยวกับโหวงเฮ้งอย่างไร
ตามหลักโหงวเฮ้งแล้ว แบ่งลักษณะของจมูกได้หลากหลายแบบ เช่น
- จมูกเบี้ยว จมูกที่ไม่ได้สมมาตร สื่อถึงการเงินไม่ดี เงินเข้าแล้วก็ออกหมด ไม่เหลือเก็บ
- รูจมูกกว้างที่มองจากด้านหน้า อาจพบปัญหาเงินรั่ว และเก็บเงินไม่ได้
- ลักษณะปีกจมูกใหญ่นั้น หมายถึงเป็นคนมีความรู้ ใจเย็น เก็บเงินเก่ง แต่ก็ยังมีส่วนอื่นๆ ของจมูกที่ส่งผลกับโหงวเฮ้งด้วย เช่น รูจมูก สันจมูก ซึ่งต้องประเมินว่าทรงรับกับใบหน้าอย่างไร
แต่อย่างไรก็ตามแม้ลักษณะปีกจมูกใหญ่จะมีลักษณะที่ดีตามโหงวเฮ้ง แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่พอใจกับลักษณะจมูกบาน บางคนก็รู้สึกว่าเป็นปมด้อย จึงหาทางแก้จมูกบานหลากหลายวิธีเพื่อเพิ่มความมั่นใจ ทั้งนี้การปรับทรงจมูกตามโหงวเฮ้งสามารถทำได้ โดยขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละบุคคล
การแก้จมูกบานนอกจากจะช่วยเพิ่มความสวยงามที่เหมาะสมกับสัดส่วนใบหน้าของแต่ละคนแล้ว ยังให้ลักษณะโหงวเฮ้งที่ดีไปพร้อมๆ กันได้อีกด้วย
วิธีแก้จมูกบานที่คนไทยนิยม
1. ฝึกหายใจเพื่อลดขนาดรูจมูก
การฝึกหายใจเพื่อลดขนาดรูจมูกนี้ เป็นวิธีง่ายๆ ที่ใครก็สามารถทำได้ ซึ่งวิธีนี้อาจจะไม่ได้แก้จมูกบานโดยช่วยให้รูจมูกลดลงอย่างรวดเร็ว แต่ก็ช่วยให้เราสามารถหายใจอย่างถูกวิธี และไม่ทำให้รูจมูกใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
2. แต่งหน้าคอนทัวร์จมูก
การแต่งหน้าจะช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งวิธีแก้จมูกบานที่ใครๆ ก็สามารถทำได้ คือ การคอนทัวร์จมูก เพื่อปกปิดปีกจมูกที่บานจนเกินไป หรือเพื่อให้มีสันจมูก โดยมีเทคนิคคอนทัวร์จมูกดังนี้ การคอนทัวร์ไปที่ปีกจมูกทั้งสองข้างเข้ามาถึงปลายจมูกด้านล่างให้เกิดเป็นทรงหยดน้ำ หรือลากเส้นจากสันจมูกเข้าหาจมูกส่วนล่างให้ค่อย ๆ แคบลง จากนั้นคอนทัวร์บริเวณกึ่งกลางของปีกจมูกทั้งสองข้างให้เป็นเส้นโค้งเข้าหารูปจมูก และสามารถปัดไฮไลต์ตรงปลายจมูกเพื่อให้ดูมีมิติมากขึ้นได้
3. โบท็อกซ์ปีกจมูก
เนื่องจากบริเวณปีกจมูกนั้นมีกล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ขยายปีกจมูกให้กว้างหรือบานได้ การฉีดโบท็อกซ์ปีกจมูก ช่วยแก้จมูกบาน เป็นการฉีดเพื่อคลายกล้ามเนื้อที่ชื่อว่า Dilator naris หรือ Alar nasalis ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ยกปีกจมูกยกขึ้น เมื่อกล้ามเนื้อส่วนนี้คลาย ทำให้ไม่สามารถหดตัว และดึงปีกจมูกขึ้นได้ ปีกจมูกจึงจะไม่กางออก รูจมูกจะดูแคบมากขึ้น ทำให้ปีกจมูกดูเล็กลง และทำให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น
4. ร้อยไหมเก็บปีกจมูก
การร้อยไหมเก็บปีกจมูก เป็นการปรับสันจมูกให้ดูคมชัดขึ้น ทำให้ปีกจมูกดูแคบลง แบบไม่ต้องทำศัลยกรรมจมูก โดยจะใช้ไหมละลายที่เหมาะสำหรับร้อยจมูกโดยเฉพาะ สามารถอยู่ได้นาน 6 เดือน – 2 ปี ไหมชนิดนี้จะละลายหมด ไม่เห็นเส้นไหมตกค้างอยู่บริเวณรอยร้อยไหม
วิธีนี้จะไม่ค่อยได้ผลกับคนที่มีเนื้อจมูกมากๆ หรือปีกจมูกบานมากๆ รวมถึงคนที่ทรงจมูกแบน ไม่มีฐานจมูก เพราะถึงแม้จะแก้จมูกบานด้วยการร้อยไหมให้ปีกจมูกดูแคบลงแล้ว แต่จะไม่ได้ช่วยทำให้จมูกดูโด่งเรียวเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้นสำหรับคนที่จมูกแบน และมีปัญหาจมูกบาน แนะนำให้ทำการเสริมจมูกจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
5.ฉีดฟิลเลอร์จมูก
การฉีดฟิลเลอร์จมูก เป็นวิธีแก้จมูกบานอีกวิธีหนึ่งที่ได้รับความสนใจ เพราะสามารถปรับรูปสันจมูกให้จมูกดูโด่งขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังสามารถปรับแก้จมูกบาน และจมูกที่ไม่ได้สัดส่วน หรือจมูกเบี้ยวได้ด้วย เหมาะกับคนที่มีฐานจมูกเดิมอยู่แล้วในระดับปานกลาง ที่ต้องการเพิ่มความคมของสันจมูกหรือปลายจมูกขึ้นเล็กน้อย ที่สำคัญไม่ต้องพักฟื้น และไม่ต้องผ่าตัด
วิธีนี้สามารถฉีดสลายบางส่วนขึ้นกับความต้องการของแต่ละบุคคลได้เลย แต่วิธีนี้ไม่สามารถอยู่ได้ถาวร ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ และการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ วิธีแก้จมูกบานด้วยฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับคนที่วางแผนจะผ่าตัดเสริมจมูกในอนาคต เพราะจะทำให้เกิดปัญหาในการยึดเกาะของแท่งซิลิโคนได้
6.ตัดปีกจมูก
การศัลยกรรมตัดปีกจมูก เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยแก้จมูกบานได้อย่างถาวร และเห็นผลชัดเจน โดยการตัดปีกจมูก จะเป็นการปรับแต่งขนาดทรงจมูกให้ดูได้สัดส่วน และสามารถลดขนาดของรูจมูกได้ด้วย แต่มีข้อพิจารณา คือ หลังจากผ่าตัดต้องดูแลรักษาความสะอาดให้ดี และต้องมีเวลาพักฟื้น
7.การเสริมจมูก
การเสริมจมูก เป็นการศัลยกรรมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย โดยเฉพาะการเสริมจมูกแบบโอเพน ซึ่งสามารถปรับโครงสร้างภายในจมูก ช่วยจัดการปัญหาของจมูกได้ทั้งหมด ปรับทรงจมูกได้หลากหลายและแก้จมูกบานได้ ซึ่งทำให้จมูกเรียวเล็ก พุ่ง ยาว และโด่งขึ้นได้เต็มที่ ก็นับเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ตรงจุด ซึ่งทำให้ได้ทรงจมูกที่สวย รับกับรูปหน้าได้มากขึ้น โดยอาจจะไม่จำเป็นต้องตัดปีกจมูกเลยก็ได้
สรุปบทความ
จากข้อมูลความรู้เกี่ยวกับลักษณะปีกจมูกบาน และเคล็ดลับการแก้จมูกบานที่ได้นำมาฝากในวันนี้ ซึ่งมีทั้งวิธีที่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด หลายคนอาจมีวิธีแก้จมูกบานและทรงจมูกที่อยากได้ในใจแล้ว แนะนำให้ปรึกษากับทีมแพทย์ อทิตาคลินิก ซึ่งเป็นคลินิกเสริมจมูกที่น่าเชื่อถือ ผ่าตัดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือหากมีข้อสงสัยอื่นๆ สามารถเข้ารับการปรึกษาที่ อทิตาคลินิก ได้ทุกสาขา ทางเรายินดีให้บริการคุณเป็นอย่างดี
