Sculptra คืออะไร ราคาเท่าไหร่ ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้อย่างไร
ฟิลเลอร์ Definisse ต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร ฉีดจุดไหนได้บ้าง
อัพเดตเทคนิคการรักษาใหม่ล่าสุด MD Codes หลักการหรือแนวทางในการฉีดฟิลเลอร์
cover-atita-2024---cover-the-master---radiesse2
cover-atita-2024---cover-the-master---radiesse
cover-atita-2024---cover-the-master---sculptra
cover-atita-2024---cover-italy
cover-atita-2024---cover-MDCODE
previous arrowprevious arrow
next arrownext arrow

“โบท็อกลดกราม” วิธีแก้ปัญหาหน้าบานจากกรามใหญ่ให้เรียวสวย

หากเป็นคนที่ชื่นชอบสายฝอ การมีกรามที่ใหญ่ เห็นกรอบหน้า (Jawline) ชัด ก็อาจเป็นสิ่งที่ถูกใจ แต่สำหรับคนที่ชอบการแต่งหน้าสไตล์เกาหลี ชอบทรงหน้าเรียว หรือหน้าวีเชฟ (V Shape) การมีกรามใหญ่ก็อาจจะไม่ตอบโจทย์ เพราะกรามใหญ่จะทำให้ใบหน้าดูใหญ่ ใบหน้าเป็นทรงสี่เหลี่ยม หรือทำให้คางสั้น แบน และไม่มีมิติได้

สำหรับใครที่มีกรามใหญ่ แล้วอยากจะปรับรูปทรงหน้าให้เรียวขึ้น อทิตาคลินิก (Atita Clinic) ขอแนะนำการฉีดโบท็อกลดกราม ฉีดโบท็อกหน้าเรียว วิธีแก้ปัญหาหน้าบานจากกรามใหญ่ที่มีประสิทธิภาพมาก ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวสวยได้โดยไม่ต้องผ่าตัด จะน่าสนใจแค่ไหน ไปดูกันเลย!

โบท็อกกราม คืออะไร?

Table of Contents

โบท็อกลดกราม คือ การฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin Type A) หรือที่นิยมเรียกกันสั้น ๆ ว่า “โบท็อก” (Botox) เข้าไปที่กล้ามเนื้อบริเวณกรามที่ทำให้กรามใหญ่ ซึ่งโบท็อกจะไปออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวทำงานได้น้อยลง เกิดการคลายตัว และมีขนาดที่เล็กลง ซึ่งจะช่วยให้คนที่มีปัญหากรามใหญ่ที่เกิดจากกล้ามเนื้อมีขนาดกรามที่เล็กลงได้

 ฉีดโบท็อกลดกราม ช่วยอะไร?

บริเวณกรามทั้งสองข้างของเราจะมีกล้ามเนื้อส่วนที่เรียกว่า “กล้ามเนื้อกราม” (Masseter muscle) อยู่ ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่มีขนาดใหญ่ และทำหน้าที่เกี่ยวกับการบดเคี้ยวอาหาร โดยในคนที่มีกล้ามเนื้อกรามขนาดใหญ่มากก็จะส่งผลให้กรามดูใหญ่เกินปกติ ไม่รับกับใบหน้าเท่าที่ควร การฉีดโบท็อกจะเข้าไปยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อดังกล่าว ส่งผลให้กล้ามเนื้อกรามมีขนาดเล็กลง และทำให้หน้าดูเรียวขึ้นตามไปด้วย

ฉีดโบท็อกลดกราม เหมาะกับใคร?

การฉีดโบท็อกลดกรามจะเหมาะกับคนที่มีปัญหากรามใหญ่จากกล้ามเนื้อกรามเท่านั้น ซึ่งสามารถสังเกตได้เบื้องต้นจากการลองกัดฟัน แล้วจะมีก้อนแข็ง ๆ บริเวณกรามทั้งสองข้าง อย่างไรก็ตาม ในคนที่มีกรามใหญ่จากการกระดูก หรือไขมัน จะไม่สามารถลดขนาดกรามด้วยการฉีดโบท็อกได้ จำเป็นที่จะต้องทำหัตถการอื่นแทน เช่น การผ่าตัดลดกรามในกรณีที่กระดูกใหญ่ หรือฉีดเมโสแฟต ในกรณีที่มีไขมันสะสมเยอะ เป็นต้น

ฉีดโบท็อกลดกราม กี่วันเห็นผล?

การฉีดโบท็อกลดกรามจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงไปภายใน 2 สัปดาห์ และจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนภายใน 4 – 6 สัปดาห์

ฉีดโบท็อกลดกราม อยู่ได้นานไหม?

การฉีดโบท็อกลดกรามสามารถอยู่ได้ประมาณ 4 – 6 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกที่ใช้ และการดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อก ถ้าหากต้องการคงผลลัพธ์ไว้ ก็จำเป็นที่จะต้องฉีดโบท็อกลดกรามซ้ำตามระยะเวลาที่แพทย์แนะนำ แต่ก็ไม่ควรฉีดบ่อยจนเกินไป เพราะอาจเสี่ยงทำให้เกิดอาการดื้อโบท็อกได้

โบท็อกกรามทำให้หน้าเรียวขึ้นจริงไหม?

หากคุณมีปัญหาหน้าบานหน้าใหญ่จากการมีกล้ามเนื้อกรามใหญ่ การฉีดโบท็อกกรามสามารถช่วยลดขนาดของกล้ามเนื้อกราม และทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้นได้จริง อย่างไรก็ตาม ถ้าอยากเห็นผลลัพธ์ชัดเจน อาจจะทำต้องทำควบคู่กับหัตถการอื่น ๆ ด้วย เช่น ฉีดโบลิฟกรอบหน้า ยกกระชับหน้าด้วย HIFU หรือ Ulthera SPT หรือกำจัดไขมันบริเวณเหนียงด้วย Thermage เป็นต้น

ฉีดโบท็อกลดกราม เจ็บไหม?

ก่อนทำการฉีดโบท็อกลดกรามจะมีการทายาชา และประคบเย็นก่อนฉีดเสมอ ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บขณะทำหัตถการได้มาก โดยจะรู้สึกเล็กน้อยในตอนที่กำลังเดินยาเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องกังวลแต่อย่างใด

โบท็อกลดกราม มีข้อห้ามอะไรบ้าง?

การฉีดโบท็อกลดกราม โบท็อกหน้าเรียว จะไม่สามารถทำได้กับกลุ่มคนเหล่านี้ ได้แก่

  • ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
  • ผู้ที่มีประวัติแพ้ส่วนผสมของโบท็อก
  • ผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด โรคถุงลมโป่งพอง
  • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อในการกลืน
  • ผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้ออ่อนแรงต่าง ๆ เช่น Amyotrophic Lateral Sclerosis (ALS), Lou Gehrig’s disease, Myasthenia Gravis หรือ Lambert-Eaton syndrome เป็นต้น
  • ผู้หญิงที่กำลังอยู่ในช่วงตั้งครรภ์ และกำลังให้นมบุตร
  • ผู้ที่มีการติดเชื้อที่ผิวหนังบริเวณที่จะฉีดโบท็อก
  • ผู้ที่มีอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ หรือมีภาวะติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ

การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกลดกราม

ก่อนเข้ารับการฉีดโบท็อกลดกราม ควรเตรียมตัวดังนี้

  •  งดใช้ยา อาหารเสริม หรือสมุนไพรที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น Aspirin, Coumadin, Ibuprofen, Advil, Motrin, Multivitamins, Fish oil, Omega3, Co-enzyme Q10 หรือ Evening Primrose Oil อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการเสียเลือดมาก และการเกิดอาการฟกช้ำ
  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง ก่อนฉีด
  • หากมีปัญหาสุขภาพ หรือโรคประจำตัว จะต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนเข้ารับบริการ
  • ในวันที่เข้ารับบริการ แนะนำให้ล้างเครื่องสำอาง หรือทำความสะอาดใบหน้าให้เรียบร้อยก่อนพบแพทย์

การดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกลดกราม

หลังจากฉีดโบท็อกลดกรามแล้ว จะต้องดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ และทำให้ผลลัพธ์ของโบท็อกมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยแพทย์อาจแนะนำให้ดูแลตัวเอง ดังนี้

  • พยายามขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดทุก ๆ 15 นาที ใน 4 ชั่วโมงแรก เพื่อให้โบท็อกกระจายเข้าสู่กล้ามเนื้อได้ดีขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการนอนราบ หรือเอนศีรษะ อย่างน้อย 4 ชั่วโมงแรกหลังฉีด เพื่อป้องกันโบท็อกไหลไปยังบริเวณข้างเคียง
  • หลังครบ 4 ชั่วโมง สามารถล้างหน้าและทาครีมบำรุงได้ แต่ให้งดแต่งหน้า 1 วัน
  • หลีกเลี่ยงการโดนความร้อน หรือทำเลเซอร์ความร้อนที่ลงผิวชั้นลึก อย่างน้อย 1 – 2 สัปดาห์หลังฉีด
  • หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การอบซาวน่า แช่น้ำอุ่น หรือออกกำลังกายอย่างหนัก เพราะจะทำให้โบท็อกสลายเร็วขึ้น
  • งดการนวดกดจุดบริเวณที่ฉีด 1 เดือน หลังฉีด

โบท็อกลดกราม ราคาเท่าไหร่?

ราคาการฉีดโบท็อกลดกราม โบท็อกหน้าเรียว จะขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกที่ใช้ และปริมาณที่ฉีดเป็นหลักโดยการฉีดโบท็อกที่อทิตาคลินิก มีโปรโมชันราคา ดังนี้

  • Hugel 100 ยูนิต ราคาประมาณ 4,999 บาท*
  • Nabota 100 ยูนิต ราคาประมาณ 4,500 บาท*
  • Xeomin 50 ยูนิต ราคาประมาณ 5,999 บาท*
  • Xeomin 100 ยูนิต ราคาประมาณ 9,999 บาท*

โดยแต่ละบริการอาจจะมีโปรโมชันเพิ่มเติมด้วย เช่น แถมฟรีฉีดเมโสแฟต และฉีดเมโสหน้าใส อย่างละ 1 – 3 เข็ม เป็นต้น

สำหรับใครที่อยากดูโปรโมชันบริการอื่น ๆ ของอทิตาคลินิกเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น ฟิลเลอร์ ร้อยไหม เสริมจมูก เสริมคาง ทำตาสองชั้น ทำปากกระจับ ยกกระชับหน้าด้วย HIFU หรือ Ulthera SPT และอื่น ๆ อีกมากมาย  สามารถกดดูข้อมูลรายละเอียดได้ ที่นี่ เลย

*ราคาโปรโมชันฉีดโบท็อกลดกรามของอทิตาคลินิกอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ควรสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่คลินิกก่อนสั่งซื้อแพ็กเกจ

รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกลดกราม

นอกจากข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกลดกราม ฉีดโบท็อกหน้าเรียว แล้ว เพื่อให้คุณตัดสินใจในการฉีดโบท็อกลดกรามได้ง่ายมากขึ้น เราได้รวมคำถาม หรือข้อกังวลใจที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกลดกรามมาให้แล้ว จะมีคำถามอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย!

ทำไมฉีดโบท็อกลดกรามแล้วมีเหนียงเยอะขึ้น?

หลังจากที่ฉีดโบท็อกลดกรามไปแล้ว กรามจะยุบตัวลง และทำให้ผิวหนังไม่เต่งตึงเท่าเดิมจนทำให้มีเหนียงเยอะขึ้นได้ เพื่อผลลัพธ์ในการฉีดโบท็อกลดกรามที่ดีที่สุด แพทย์ส่วนใหญ่จึงแนะนำให้ทำหัตถการอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย เช่น การฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า การดูดไขมัน การร้อยไหม หรือการฉีดเมโสแฟต เป็นต้น

ฉีดโบท็อกลดกรามแล้วปากเบี้ยวเกิดจากอะไร?

เกิดจากการที่แพทย์ฉีดโบท็อกผิดตำแหน่ง โดยแทนที่จะฉีดลงไปที่กล้ามเนื้อกราม (Masseter muscle) กลับไปฉีดโดนกล้ามเนื้อส่วนอื่น ๆ ที่อยู่ข้างเคียงแทน เช่น กล้ามเนื้อไรซอเรียส (Risorius Muscle) หรือ กล้ามเนื้อไซโกมาติคัส (Zygomaticus Muscle) แล้วทำให้ปากเบี้ยว ซึ่งจะไม่สามารถแก้ไขได้ จะต้องรอให้โบท็อกหมดฤทธิ์ไปเอง ใช้ระยะเวลาประมาณ 4 – 6 เดือน แต่ถ้าหากอย่างเร่งให้สลายเร็วขึ้น ก็สามารถประคบอุ่นบ่อย ๆ ได้

ฉีดโบท็อกลดกรามแล้วทำให้หน้าตอบได้จริงหรือไม่?

สามารถเกิดขึ้นได้ โดยเกิดจากการที่แพทย์ฉีดโบท็อกปริมาณมากเกินไป หรือฉีดโบท็อกผิดตำแหน่งจนทำให้กล้ามเนื้อด้านบนยุบจนเห็นหน้าตอบ และทำให้กระดูกโหนกแก้มดูเด่นชัดขึ้นมาได้ เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาดังกล่าว จึงควรเลือกฉีดโบท็อกลดกรามกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์เท่านั้น

ฉีดโบท็อกลดกรามส่งผลต่อการบดเคี้ยวอาหารไหม?

การฉีดโบท็อกลดกรามส่งผลต่อการบดเคี้ยวอาหารน้อยมาก ๆ จนถึงไม่มีเลย เพราะการบดเคี้ยวอาหารจะมีการใช้งานกล้ามเนื้อหลาย ๆ ส่วน ซึ่งการที่กล้ามเนื้อกรามทำงานได้น้อยลงแค่เพียงส่วนเดียว จึงไม่ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก 

ฉีดโบลดกรามแล้วทำให้ยิ้มไม่สุดเกิดจากอะไรได้บ้าง?

สาเหตุหลักมาจากการที่แพทย์ไม่ชำนาญการ และฉีดโบท็อกไปโดนกล้ามเนื้อไรซอเรียส (Risorius) หรือที่เรียกว่า “กล้ามเนื้อแสยะยิ้ม” ส่งผลให้ยิ้มได้ไม่สุด หรือยิ้มแล้วปากเบี้ยวได้ หากเกิดปัญหานี้ขึ้น วิธีแก้ไขจะต้องรอให้โบท็อกหมดฤทธิ์เอง หรือจะประคบร้อนบ่อย ๆ เพื่อให้โบท็อกเสื่อมฤทธิ์เร็วขึ้นก็ได้

โบท็อกกรามฉีดบ่อย ๆ ได้ไหม?

ไม่แนะนำให้ฉีดโบท็อกกรามบ่อย ๆ ควรเว้นระยะอย่างน้อย 4 – 6 เดือน เพราะอาจทำให้เกิดอาการดื้อโบท็อกได้

หลังฉีดแล้วจะปวดกรามหรือเมื่อยไหม?

อาจมีอาการปวด หรือเมื่อยบริเวณที่ฉีดโบท็อกได้ ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่พบได้จากการฉีดโบท็อก สามารถหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์

สนใจฉีดโบท็อกลดกราม ที่อทิตาคลินิก ทำอย่างไรดี?

สำหรับท่านใดที่สนใจฉีดโบท็อกลดกรามที่อทิตาคลินิก สามารถติดต่อนัดหมายเข้ามาพบคุณหมอที่เบอร์โทรศัพท์  094-324-4442 หรือไลน์ @atitaclinic ได้เลย! คุณหมอของเราพร้อมให้การดูแลอย่างใกล้ชิด ประเมินแบบละเอียด เคสบายเคส มั่นใจได้เลยว่า คุณจะได้รับคำแนะนำอย่างตรงไปตรงมา และแก้ปัญหาอย่างตรงจุด ตอบโจทย์ทุกความต้องการอย่างแน่นอน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า