การฉีดฟิลเลอร์ปากกลายเป็นหนึ่งในหัตถการความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อเพิ่มความอวบอิ่ม ปรับรูปทรงริมฝีปาก หรือแก้ไขปัญหาริมฝีปากบาง โดยเฉพาะทรงปากที่ได้รับความนิยมในหมู่สายเกาและสายฝอ วันนี้เราจะมาดูว่า “ทรงปากฉีดฟิลเลอร์” มีแบบไหนบ้าง และควรเลือกทรงไหนให้เข้ากับใบหน้าของคุณ
ฉีดฟิลเลอร์ปาก คืออะไร
Table of Contents
การฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นการใช้สารไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) ฉีดเข้าไปที่บริเวณริมฝีปาก เพื่อเพิ่มความอวบอิ่ม เติมเต็มเนื้อปาก และปรับรูปทรงให้สวยงามขึ้น การฉีดฟิลเลอร์ช่วยแก้ไขปัญหาปากบาง ปากแห้ง แตกเป็นร่อง รวมถึงปรับให้ปากดูเรียบเนียนชุ่มชื้นมากขึ้น ทั้งยังสามารถปรับแต่งให้ได้ทรงปากตามที่ต้องการ เช่น ทรงปากกระจับ หรือทรงปากอวบอิ่มสไตล์สายฝอ
รูปทรงปากฉีดฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยม
ในปัจจุบัน ทรงปากที่ได้รับความนิยมมีหลายรูปแบบ ซึ่งสามารถปรับให้เข้ากับโครงหน้าและสไตล์ที่ต้องการได้ โดยเราจะมาแนะนำทรงปากยอดนิยมดังนี้
ทรงคลาสสิค
ทรงคลาสสิค เป็นทรงปากที่คงความเป็นธรรมชาติ ไม่เน้นความโดดเด่นมาก แต่จะเน้นความสมดุลของริมฝีปากบนและล่าง ฟิลเลอร์ปากทรงนี้จะช่วยเพิ่มเนื้อปากเล็กน้อย ทำให้ปากดูมีน้ำมีนวล ดูธรรมชาติและอ่อนโยน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการแก้ไขปัญหาริมฝีปากแห้งแตกหรือปากบาง
ทรงเกาหลี
ทรงปากแบบ สายเกาหลี หรือ “ปากสายเกา” เป็นที่นิยมในกลุ่มสาวเอเชีย โดยจะเน้นความบางเบาและเรียบเนียนของริมฝีปาก เน้นมุมปากยกเล็กน้อย ดูอ่อนหวาน ใส ๆ ไม่เน้นความอวบอิ่มมาก เหมาะสำหรับผู้ที่มีใบหน้าที่เล็กและค่อนข้างน่ารัก ต้องการลุคที่ดูน่ารักเป็นธรรมชาติ
ทรงสายฝอ
ฟิลเลอร์ปากสายฝอ หรือสไตล์ตะวันตกเป็นทรงปากที่เน้นความอวบอิ่ม เซ็กซี่ มีมิติ ริมฝีปากบนและล่างมีความชัดเจน มุมปากจะไม่ยกมากเหมือนทรงสายเกา แต่จะเน้นความเต็มและคมชัดของขอบปาก ทรงนี้เหมาะกับคนที่ต้องการความโดดเด่น และต้องการให้ปากเป็นจุดเด่นของใบหน้า
ทรงกระจับ
ฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ เป็นอีกทรงที่ได้รับความนิยมสูง โดยเฉพาะในคนไทย เพราะโครงหน้าคนไทยส่วนใหญ่จะรับกับทรงนี้ได้ดี ปากจะมีความโค้งเว้าสวย มีกระจับปากที่ชัดเจน ดูอ่อนโยนและเซ็กซี่ในเวลาเดียวกัน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มความชัดเจนให้กับรูปปาก
ฉีดฟิลเลอร์ปากเหมาะกับใคร?
การฉีดฟิลเลอร์ปากเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากบาง ปากไม่สมดุล ปากแห้งแตก หรือผู้ที่ต้องการเพิ่มความอวบอิ่มและปรับแต่งรูปทรงปากให้สวยงามตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการยกมุมปาก หรือเติมเต็มขอบปากให้ชัดเจนมากขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์ปากเจ็บไหม?
การฉีดฟิลเลอร์ปากอาจทำให้รู้สึกเจ็บเล็กน้อยในระหว่างการฉีด แต่คลินิกส่วนใหญ่มักใช้ยาชาเฉพาะที่ หรือยาชาแบบทาเพื่อลดความเจ็บปวด โดยหลังจากการฉีดจะมีอาการบวมเล็กน้อย ซึ่งจะค่อย ๆ หายไปภายใน 1-2 วัน
ฉีดฟิลเลอร์ปากอยู่ได้นานแค่ไหน?
ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์ปากจะอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่ใช้ รวมถึงการดูแลรักษาหลังฉีด เช่น การดื่มน้ำเยอะ ๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัสริมฝีปากมากเกินไป และหลีกเลี่ยงความร้อนหรือแสงแดด
ฉีดฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดี
การเลือกฟิลเลอร์ที่ดีและปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ นี่คือตัวอย่างยี่ห้อฟิลเลอร์ที่นิยมใช้ในการฉีดปาก
- Juvederm : เป็นฟิลเลอร์ไฮยาลูรอนิกที่ได้รับความนิยมสูง มีความคงตัวสูงและให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
- Restylane : ให้ความชุ่มชื้นกับริมฝีปาก ทำให้ปากดูอวบอิ่มและเรียบเนียน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาปากแห้งแตก
- Saypha : ช่วยฟื้นฟูระดับไฮยาลูโรนิค แอซิดในผิว ทำให้ริ้วรอยแห่งวัยดูจางลง ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
สรุปบทความ
การฉีดฟิลเลอร์ปากสามารถช่วยเพิ่มความอวบอิ่ม ปรับรูปทรง และแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของริมฝีปากได้ ไม่ว่าจะเป็นทรงคลาสสิค ทรงสายเกา ทรงสายฝอ หรือทรงปากกระจับ การเลือกทรงปากที่เหมาะสมจะต้องพิจารณาโครงหน้าและความต้องการของแต่ละบุคคล เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติและเข้ากับใบหน้าอย่างลงตัว
สำหรับท่านใดที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถนัดคิวเข้ามาใช้บริการกับเราได้เลยทุกสาขา ผ่านเบอร์โทรศัพท์ 094-324-4442 หรือไลน์ @atitaclinic เจ้าหน้าที่ของเราพร้อมให้คำแนะนำข้อมูลด้วยความใส่ใจ ทุกเคสได้รับการดูแลโดยทีมแพทย์อทิตาคลินิกอย่างใกล้ชิด รับรองว่าไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน!