การมีหน้าผากย่น เป็นปัญหาที่ทำให้หลายคนรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง เพราะทำให้ใบหน้าดูแก่ก่อนวัย ซึ่งปัญหานี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนทั้งจากปัจจัยภายนอกและภายใน โดยเฉพาะเมื่อเรามีอายุมากขึ้น การดูแลและรักษาอย่างถูกวิธีจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ผิวหน้ากลับมาเรียบเนียนและดูอ่อนเยาว์อีกครั้ง ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักสาเหตุและวิธีแก้ไขปัญหา หน้าผากย่น อย่างมีประสิทธิภาพกัน
หน้าผากย่น เกิดจากอะไร
Table of Contents
หน้าผากย่นไม่ได้เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน แต่เป็นผลมาจากหลายปัจจัยที่สะสมมาเป็นเวลานาน ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ได้แก่
- อายุที่เพิ่มขึ้น : เมื่อเราอายุมากขึ้น การผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนังลดลง ทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น
- การแสดงออกทางสีหน้า : การขมวดคิ้ว ยกคิ้ว หรือแสดงอารมณ์ทางสีหน้าบ่อย ๆ ทำให้เกิดรอยย่นบนหน้าผาก
- แสงแดด : รังสี UV ทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง เร่งการเกิดริ้วรอย
- ความเครียด : ส่งผลให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งทำลายโครงสร้างผิว
- การนอนหลับไม่เพียงพอ : ขัดขวางกระบวนการซ่อมแซมเซลล์ผิวตามธรรมชาติ
- พันธุกรรม : บางคนมีแนวโน้มที่จะเกิดหน้าผากย่นได้ง่ายกว่าคนอื่นตามพันธุกรรม
3 ประเภทริ้วรอยในหน้าผากย่น
ริ้วรอยหน้าผากย่นสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ซึ่งแต่ละประเภทมีลักษณะแตกต่างกัน ดังนี้
- ริ้วรอยตื้น (Fine wrinkles) : หรือริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า ริ้วรอยหน้าผากย่นประเภทนี้มักเป็นเส้นบาง ๆ ที่เห็นได้เมื่อมองใกล้ ๆ เกิดจากการสูญเสียความชุ่มชื้นของผิวชั้นบน และมักพบในช่วงอายุ 25-35 ปี
- ริ้วรอยร่องลึก (Deep wrinkles or skin folds) : ริ้วรอยหน้าผากย่นประเภทนี้เป็นร่องลึกที่มองเห็นได้ชัดเจน เกิดจากการสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวหนังที่ลึกลงไป มักพบในช่วงอายุ 35 ปีขึ้นไป
- ริ้วรอยถาวร (Static wrinkles) : ริ้วรอยหน้าผากย่นประเภทนี้เป็นร่องลึกที่ปรากฏอยู่ตลอดเวลา แม้ไม่แสดงสีหน้าใด ๆ เกิดจากการสูญเสียโครงสร้างผิวอย่างถาวร มักพบในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป
หน้าผากย่น แก้ไขยังไงได้บ้าง
หากใครที่กำลังกังวลเรื่องหน้าผากย่น อย่าเพิ่งหมดหวังไป เพราะในปัจจุบันมีวิธีการแก้ไขหน้าผากย่นนี้หลากหลายวิธี ทั้งแบบธรรมชาติและการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้าง
1. ทาครีมบำรุงผิวหน้า
การใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของสารต่อต้านริ้วรอยเป็นวิธีแก้ไขปัญหาหน้าผากย่นที่ง่ายและเห็นผลในระยะยาว ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมดังต่อไปนี้
- วิตามินเอ (เรตินอล) เพื่อช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน
- วิตามินซี เพื่อต่อต้านอนุมูลอิสระและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- เปปไทด์เพื่อช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว
- กรดไฮยาลูรอนิกเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
2. ฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์เป็นวิธีที่ช่วยเติมเต็มร่องลึกของหน้าผากย่นได้อย่างรวดเร็ว โดยการฉีดฟิลเลอร์ประเภทกรดไฮยาลูรอนิกเข้าไปบริเวณหน้าผาก ช่วยเพิ่มปริมาตรใต้ผิวหนัง ทำให้ริ้วรอยตื้น ผิวเรียบเนียนขึ้นทันทีหลังฉีด ผลลัพธ์มักอยู่ได้นาน 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้
ซึ่งนอกจากฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเพื่อลดริ้วรอยแล้ว ฟิลเลอร์ยังสามารถฉีดตำแหน่งอื่นได้อีกด้วย ที่นิยมเลยคือ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อแก้ใต้ตาลึก ลดริ้วรอยใต้ตา ซึ่งเป็นจุดที่หมอส่วนใหญ่แนะนำให้ฉีดเป็นตำแหน่งแรก ๆ เพราะฉีดแล้วทำให้ดูอ่อนกว่าวัยอย่างเห็นได้ชัด
3. ฉีดไหมน้ำ
การฉีดไหมน้ำ BIOSTIMULATOR เป็นสารประเภท PLLA, PCI, PDO และ CAHA ที่ใช้ฉีดเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง กระบวนการนี้เริ่มจากการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันรอบบริเวณที่ฉีด ส่งผลให้เกิดการสร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้น ทำให้ผิวกระชับ ลดเลือนริ้วรอย และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ การฉีดไหมน้ำสามารถทำได้เกือบทุกจุดบนใบหน้า ช่วยแก้ปัญหาหลายอย่าง เช่น ริ้วรอยใต้ตา รอยคล้ำ และร่องแก้มลึก นอกจากนี้ยังช่วยให้ผิวดูเปล่งปลั่ง มีมิติ และมีสุขภาพดีขึ้น ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น
4. ฉีดโบท็อก
สำหรับผู้ที่มีหน้าผากย่นจากการแสดงอารมณ์บ่อย ๆ การฉีดโบท็อกหรือสารโบทูลินัมท็อกซิน เป็นวิธีที่ได้ผลดี ปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว โบท็อกจะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณหน้าผาก ลดการขยับของกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดริ้วรอย ผลลัพธ์จะเริ่มเห็นได้ภายใน 3-7 วัน และอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน
5. ใช้เลเซอร์
การใช้เลเซอร์เป็นวิธีแก้ไขปัญหาหน้าผากย่นด้วยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ใต้ผิวหนัง ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น ลดเลือนริ้วรอย และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ซึ่งเครื่องเลเซอร์มีหลายประเภท เช่น Fractional CO2 Laser, Erbium Laser หรือ Nd:YAG Laser แต่ละประเภทเหมาะกับปัญหาผิวที่แตกต่างกัน วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานและไม่ต้องการการฉีดสารเข้าไปในผิวหนัง
สรุปบทความ
การแก้ไขปัญหาหน้าผากย่นไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางความงามที่ก้าวหน้า ทำให้เราสามารถเลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิว หรือการใช้บริการทางการแพทย์
อย่างไรก็ตาม การป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ไข ดังนั้น อย่าลืมดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ ทาครีมกันแดด หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง ดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ เพียงเท่านี้เราก็จะมีผิวหน้าเรียบเนียน ไร้ริ้วรอยได้ยาวนาน
ที่อทิตาคลินิก คุณหมอของเราพร้อมให้การดูแลอย่างใกล้ชิด ประเมินแบบละเอียด มั่นใจได้เลยว่า คุณจะได้รับคำแนะนำอย่างตรงไปตรงมา และแก้ปัญหาอย่างตรงจุด ตอบโจทย์ทุกความต้องการอย่างแน่นอน สามารถติดต่อนัดหมายเข้ามาพบคุณหมอที่เบอร์โทรศัพท์ 094-324-4442 หรือไลน์ @atitaclinic ได้เลย!