คลินิกแก้จมูกที่ไหนดี แล้วอาการแบบไหนที่ต้องแก้จมูก?

มีหลายคนที่หลังจากทำศัลยกรรมเสริมจมูกไปแล้ว รู้สึกไม่พอใจกับทรงจมูกของตัวเอง อยากแก้ทรงจมูกใหม่ให้สวยโด่งขึ้นกว่าเดิม หรือมีเหตุจำเป็นที่ทำให้ต้องแก้จมูก เช่น ได้รับอุบัติบริเวณใบหน้าหลังจากเสริมจมูกจนทำให้จมูกหัก จมูกเบี้ยวเอง ซิลิโคนเอียง หรือมีอาการผิดปกติหลังจากเสริมจมูกอย่างจมูกอักเสบ ปลายจมูกตึงรั้งและบางใส หรือซิลิโคนทะลุ 

แต่ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็แล้ว การที่เราจะแก้จมูกใหม่ก็จำเป็นที่จะต้องใส่ใจในการเลือกคลินิกแก้จมูกอย่างมาก เพราะการแก้จมูกจะมีขั้นตอนที่ซับซ้อนกว่าการเสริมจมูกครั้งแรกมาก แล้วควรเลือกคลินิกแก้จมูกที่ไหนดี? ในบทความนี้ อทิตาคลินิก (Atita Clinic) มีหลักการในการเลือกคลินิกแก้จมูกที่ไหนดีมาฝาก พร้อมลักษณะอาการผิดปกติที่ต้องไปแก้จมูก จะน่าสนใจแค่ไหน ไปดูกันเลย!

ควรเลือกคลินิกแก้จมูกที่ไหนดี?

การเลือกคลินิกแก้จมูกที่ไหนดีให้ปลอดภัยและได้ทรงจมูกใหม่ที่สวยงาม จะต้องพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้

1. คลินิกแก้จมูกที่มีคุณภาพ

คลินิกแก้จมูกที่ดีจะต้องได้รับใบอนุญาตเปิดสถานพยาบาลจากกระทรวงสาธารณสุข สะอาด และใช้เครื่องมือทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน โดยจะต้องใช้ซิลิโคนเกรดทางการแพทย์  (Medical grade) หรือซิลิโคนเกรดปลูกฝังร่างกาย (Implant grade) ในการเสริมจมูกเท่านั้น

2. ให้การดูแลโดยแพทย์มีความเชี่ยวชาญด้านการแก้จมูก

แพทย์ที่จะทำการศัลยกรรมแก้จมูกให้จะต้องมีประสบการณ์ด้านการเสริมจมูก และแก้จมูกโดยเฉพาะ โดยคุณสามารถประเมินเบื้องต้นได้จากใบประกอบวิชาชีพแพทย์ ประสบการณ์การแก้จมูก และรีวิวการแก้จมูกของแพทย์นั้นๆ

3. แพทย์ให้คำปรึกษาอย่างตรงไปตรงมา

ก่อนที่จะทำการศัลยกรรมแก้จมูก ปกติแล้ว แพทย์จะมีการนัดหมายไปตรวจสภาพจมูกก่อน ซึ่งแพทย์ที่ดีจะต้องให้คำแนะนำในการแก้จมูกอย่างตรงไปตรงมา ทั้งปัญหาที่แก้ได้ ปัญหาที่แก้ไม่ได้ และผลลัพธ์ที่จะได้หลังจากแก้จมูก

4. ราคาแก้จมูกสมเหตุสมผล

การแก้ทรงจมูกจะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากต้องใช้เทคนิคที่ซับซ้อนและทำกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการแก้จมูกโดยเฉพาะ ดังนั้น คุณจึงไม่ควรเลือกคลินิกแก้จมูกที่มีราคาถูกกว่าท้องตลาดจนเกินไป เพราะอาจเป็นการใช้ซิลิโคนเสริมจมูกที่ไม่ได้มาตรฐานได้ หรือทำกับแพทย์ที่ไม่ได้ความเชี่ยวชาญ

5. คลินิกมีการรับประกันหลังแก้จมูก

การที่คลินิกมีการรับประกันหลังจากแก้จมูก เช่น 6 เดือน หรือ 1 ปี ก็จะทำให้มั่นใจได้ว่า เมื่อเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ขึ้นหลังจากแก้จมูก คุณจะได้รับการดูแลจากทางคลินิกอย่างแน่นอน ซึ่งจะช่วยให้สามารถเข้ารับบริการได้อย่างอุ่นใจ

6. คลินิกมีเคสรีวิวแก้จมูกจำนวนมาก

เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถประเมินได้ว่าคลินิกแก้จมูกที่เลือกมีความเชี่ยวชาญในการแก้จมูกจริง ๆ อีกทั้งยังช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นด้วยว่าแพทย์ของทางคลินิกสามารถแก้จมูกให้ตรงตามความต้องการได้ไหม โดยดูได้จากผลงานของหมอที่ทำว่าใกล้เคียงกับทรงจมูกใหม่ที่ตนเองอยากได้ไหม

กดดูรีวิวเสริมจมูกและแก้จมูกของอทิตาคลินิกทั้งหมดได้ที่นี่

ลักษณะอาการผิดปกติหลังเสริมจมูกที่ควรรีบไปแก้จมูก

นอกจากการไม่พอใจทรงจมูกที่เสริมมาแล้วอยากแก้ทรงจมูกใหม่แล้ว อาการผิดปกติหลังเสริมจมูกก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ต้องไปแก้จมูกอยากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้ในระยะยาว

โดยลักษณะอาการผิดปกติหลังเสริมจมูกที่ควรรีบไปปรึกษาแพทย์เพื่อทำการแก้จมูกใหม่ มีดังนี้

• ซิลิโคนเบี้ยว : ซิลิโคนเสริมจมูกมีการเบี้ยวเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง ซึ่งในบางรายอาจมีอาการบวมร่วมด้วย และถ้าหากปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ ก็อาจทำให้ซิลิโคนเบี้ยวเอียงขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้ทรงจมูกผิดรูปได้
• ผิวหนังบริเวณปลายจมูกแดงและใส : เกิดจากการเสริมจมูกที่โด่งมากจนเกินไป จนทำให้ผิวบริเวณปลายจมูกค่อย ๆ บางลง และแดง เป็นอาการเริ่มต้นของซิลิโคนเสริมจมูกทะลุ แนะนำให้ไปพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆ
• ซิลิโคนลอย : หากหลังจากเสริมจมูกมานาน ๆ แล้ว คุณสามารถมองเห็นซิลิโคนเสริมจมูกได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเวลาที่จับบริเวณปลายจมูกบิดไปมาแล้วเห็นขอบซิลิโคนขยับ จะต้องรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะหากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้ซิลิโคนเสริมจมูกทะลุได้
• รู้สึกเจ็บแปล็บ ๆ บริเวณจมูก ร่วมกับปลายจมูกแดง บวม และมีน้ำเหลือง หรือเลือดไหลออกมา : เป็นอาการที่บ่งบอกว่ามีการติดเชื้อหลังจากเสริมจมูก ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรักษาทันที ห้ามปล่อยทิ้งไว้ เพราะจะทำให้การติดเชื้อรุนแรงขึ้นจนทำให้ผิวหนังบริเวณจมูกกลายเป็นสีดำ เนื้อจมูกยุบ เน่า หรืออาจรุนแรงถึงขั้นเนื้อจมูกหลุดได้เลย
• ปลายจมูกสะท้อนแสง หรือมันวาวกว่าปกติ : เป็นอีกหนึ่งอาการที่บ่งบอกว่าผิวบริเวณปลายจมูกเริ่มบาง และมีความเสี่ยงที่ซิลิโคนเสริมจมูกทะลุได้
• ซิลิโคนจมูกทะลุ : โดยจะเห็นว่ามีแท่งสีขาว ๆ โผล่ออกมาจากปลายจมูก หรือระหว่างคิ้ว ถ้าเกิดอาการนี้ ห้ามจับ แตะ หรือโดนบริเวณซิลิโคนเด็ดขาด และควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้
• มีก้อนตะปุ่มตะป่ำบนสันจมูก : เกิดจากมีหินปูน หรือพังผืดมาเกาะที่ซิลิโคนเสริมจมูกจนทำให้ผิวซิลิโคนขรุขระ ไม่เรียบเนียน จนทำให้เกิดความนูน สำหรับใครที่มีอาการเหล่านี้ร่วมกับเจ็บจมูก จะต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาทันที

การแก้จมูกมีขั้นตอนอย่างไร?

การแก้ไขจมูกที่เสริมมาส่วนใหญ่จะเป็นการผ่าตัดแบบเปิด (Open Rhinoplasty) เพื่อที่แพทย์จะได้สามารถนำซิลิโคนเสริมจมูกอันเก่าออก พร้อม ๆ กับการเลาะพังผืดที่เกิดจากการเสริมจมูก ร่วมกับปรับโครงสร้างจมูกเดิมให้เข้ารูปมากขึ้น เช่น แก้จมูกที่คดเบี้ยว ตะไบฮัมพ์ หรือปรับจมูกสั้นให้ยาวขึ้น แล้วทำการเสริมจมูกใหม่ให้สวยงาม

อย่างไรก็ตาม ในคนที่มีอาการอักเสบ หรือติดเชื้อ หลังจากที่เอาซิลิโคนอันเก่าและเลาะพังผืดออกแล้ว จะต้องรักษาอาการอักเสบ หรือการติดเชื้อให้หายดีก่อน ถึงจะสามารถเสริมจมูกครั้งใหม่ได้

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการแก้จมูก

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการแก้จมูกเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะจะช่วยให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างปลอดภัยมากขึ้น โดยแพทย์จะแนะนำให้เตรียมตัวก่อนเข้ารับการแก้จมูก ดังนี้

• งดรับประทานอาหารและดื่มน้ำ อย่างน้อย 6 – 8 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด
• ในวันที่ไปผ่าตัด ควรงดแต่งหน้า และสวมใส่เสื้อที่เป็นกระดุม เพื่อให้ง่ายต่อการถอดและสวมใส่
• หากมีโรคประจำตัว หรือกำลังรับประทานยารักษาโรค หรืออาหารเสริมอยู่ จะต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนเข้ารับการผ่าตัด
• งดใช้ยา อาหารเสริม หรือสมุนไพรที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด เช่น Aspirin, Coumadin, Ibuprofen, Advil, Motrin, Multivitamins, Fish oil, Omega3, Co-enzyme Q10 หรือ Evening Primrose Oil เป็นต้น
• งดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด

การดูแลตนเองหลังเข้ารับการแก้จมูก

หลังจากที่แก้จมูกแล้ว จะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย โดยแพทย์จะแนะนำให้ดูแลตนเอง ดังนี้

• รับประทานยาฆ่าเชื้อและยาแก้ปวดตามที่แพทย์สั่งจนหมด
• ในช่วง 24 – 48 ชั่วโมงแรก ให้ประคบเย็นเพื่อลดบวม โดยสามารถใช้แผลเจล หรือผ้าชุบน้ำเย็นก็ได้
• ห้ามนอนคว่ำ และจะต้องนอนหมอนสูงประมาณ 30 องศา ในช่วง 2 สัปดาห์แรก
• งดรับประทานอาหารรสจัด เผ็ดจัด เค็มจัด อาหารทะเล และของหมักดอง อย่างน้อย 2 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด
• งดดื่มเครื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 1 เดือนแรกหลังผ่าตัด
• หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก การอบซาวน่า ว่ายน้ำ หรือทำกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการกระแทก อย่างน้อย 1 เดือนแรกหลังผ่าตัด
• ทำความสะอาดแผลตามคำแนะนำของแพทย์ และห้ามให้แผลโดนน้ำโดยเด็ดขาด
• ไปตรวจติดตามผลการรักษาตามนัดหมายอย่างสม่ำเสมอ

ทำไมต้องเลือกแก้จมูกที่อทิตาคลินิก

ทีมแพทย์ของอทิตาคลินิกเป็นแพทย์ที่จบศัลยกรรมจากประเทศเกาหลีโดยตรง​ และมีประสบการณ์ในการดูแลคนไข้มากว่า 18 ปี เราใช้เครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยและได้มาตรฐานระดับสากล ให้บริการแก้จมูกในราคาที่จับต้องได้ แพทย์ดูแลแบบเคสบายเคส ผู้เข้าใช้บริการแก้จมูกที่อทิตาคลินิกจึงมั่นใจได้เลยว่าจะได้รับการดูแลที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน

สำหรับท่านใดที่สนใจแก้จมูกที่อทิตาคลินิก สามารถส่งรูปหน้ามาให้คุณหมอประเมินฟรี หรือนัดหมายเข้ามาปรึกษาที่คลินิกได้เลยที่ไลน์ @atitaclinic หรือเบอร์โทรศัพท์ 094-324-4442 ทักได้เลย ไม่ต้องรอ!