Sculptra คืออะไร ราคาเท่าไหร่ ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้อย่างไร
ฟิลเลอร์ Definisse ต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร ฉีดจุดไหนได้บ้าง
อัพเดตเทคนิคการรักษาใหม่ล่าสุด MD Codes หลักการหรือแนวทางในการฉีดฟิลเลอร์
cover-atita-2024---cover-the-master---radiesse2
cover-atita-2024---cover-the-master---radiesse
cover-atita-2024---cover-the-master---sculptra
cover-atita-2024---cover-italy
cover-atita-2024---cover-MDCODE
previous arrowprevious arrow
next arrownext arrow

Atita Clinic

รวมวิธีลดแก้ม ปรับหน้าให้เรียวดังใจ

รวมวิธีลดแก้ม ปรับหน้าให้เรียวดังใจ

เมื่อไหร่ที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น นอกจากไขมันส่วนเกินจะสะสมตามเรือนร่างแล้ว แก้มก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่หลายคนเป็นกังวลใจไม่น้อย เพราะแก้มมักจะมีลักษณะใหญ่ ยุ้ย จนพาให้ใบหน้าโดยรวมดูกลม บาน และไม่มีมิติที่ได้สัดส่วนสวยงาม  ซึ่งใครที่กังวลว่าจะจัดการปัญหาไขมันแก้มนี้อย่างไรดี วันนี้ Atita Clinic เราได้รวบรวมเอาวิธีลดแก้มทั้งในแบบที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตนเอง และวิธีลดไขมันแก้มแบบเร่งด่วนด้วยหัตถการทางการแพทย์มาฝากกัน ตามมาอ่านได้เลย  ปัญหาแก้มใหญ่ หน้าบ้าน มีเหนียงเกิดจากอะไร ปัญหาแก้มใหญ่ หน้าบาน หรือมีเหนียงสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น กรรมพันธุ์ ที่คนในครอบครัวมีลักษณะแก้มใหญ่ แก้มยุ้ย หรือใบหน้ากลม ใบหน้าบานอยู่แล้ว การรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ เช่น ของทอด ของมัน ของหวาน และทานอาหารเหล่านี้ในปริมาณที่มากเกินไป ทำให้เกิดการสะสมของไขมันส่วนเกินในร่างกาย และบริเวณแก้ม หรือเหนียงมากขึ้น การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้ร่างกายเกิดการสะสมไขมันส่วนเกิน การดื่มน้ำน้อย หรือดื่มน้ำในปริมาณที่ไม่เพียงพอในแต่ละวัน ทำให้แก้มดูบวมได้  อายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ผิวบริเวณแก้มหย่อนคล้อย หรือแก้มมีลักษณะใหญ่ขึ้น  วิธีลดแก้มด้วยวิธีธรรมชาติ จะเห็นได้ว่าปัญหาแก้มใหญ่ แก้มเยอะนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุไม่เพียงแต่การสะสมไขมันส่วนเกินบริเวณแก้มเท่านั้น แต่ทั้งนี้ก็มีวิธีลดแก้มด้วยวิธีธรรมชาติ หรือสามารถทำง่าย ๆ ได้ด้วยตนเอง ดังนี้  ออกกำลังกาย …

รวมวิธีลดแก้ม ปรับหน้าให้เรียวดังใจ Read More »

โบท็อกฉีดตรงไหนได้บ้าง ให้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ

โบท็อกฉีดตรงไหนได้บ้าง ให้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ

การฉีดโบท็อก หรือฉีดสาร Botulinum Toxin เข้าสู่ผิวเป็นหัตถการความงามที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน เพราะสามารถช่วยดูแลปัญหาริ้วรอย ชะลอวัย ปรับรูปหน้า และสามารถลดขนาดกล้ามเนื้อในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ตลอดจนสามารถช่วยดูแลปัญหาสุขภาพบางชนิดได้อย่างตรงจุด ซึ่งในบทความนี้ Atita Clinic เราจะพามาดูกันว่าโบท็อกฉีดตรงไหนได้บ้าง และแต่ละตำแหน่งช่วยเรื่องอะไร?  การฉีดโบท็อกช่วยเรื่องอะไรบ้าง โบท็อก ตัวยาที่มีคุณสมบัติออกฤทธิ์ต่อการทำงานของระบบประสาท สามารถทำให้กล้ามเนื้อในจุดต่าง ๆ ทำงานได้ลดลง และลดการขยับของกล้ามเนื้อได้ชั่วคราว จึงช่วยดูแลปัญหาผิวและสุขภาพร่างกายได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ช่วยลดเลือนริ้วรอยทั่วใบหน้า ช่วยลดเลือนเส้นริ้วรอยย่นบริเวณลำคอ ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวสมส่วนมากขึ้นด้วยการลดขนาดกล้ามเนื้อกราม ช่วยลิฟกรอบหน้า ยกกระชับผิว  ช่วยลดขนาดปีกจมูก ช่วยให้จมูกรัดแกนเรียวสวย  ช่วยกระชับรูขุมขนในกรณีที่ฉีดทั่วใบหน้า ช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อตามเรือนร่าง เช่น กล้ามเนื้อต้นแขน และน่อง  ช่วยลดเหงื่อตามรักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า  ช่วยบรรเทาอาการออฟฟิศซินโดรม ลดไมเกรน จะเห็นได้ว่าโบท็อกสามารถช่วยดูแลปัญหาผิวได้มากกว่าการลดเลือนริ้วรอย หรือแม้แต่ปรับรูปหน้าทั่วไป จึงนิยมนำมาฉีดรักษาในหลากหลายจุดต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งถ้าถามว่าโบท็อกฉีดตรงไหนได้บ้าง ก็สามารถแบ่งได้ ดังนี้  รอยย่นหน้าผาก เมื่อฉีดเข้าโบท็อกเข้าสู่กล้ามเนื้อบริเวณหน้าผาก ส่งผลให้กล้ามเนื้อคลายตัวและลดการหดเกร็ง ทำให้รอยย่นบนหน้าผากเรียบเนียนขึ้น …

โบท็อกฉีดตรงไหนได้บ้าง ให้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ Read More »

หลังฉีดแฟตบวมกี่วัน พร้อมแนะวิธีลดบวมที่เห็นผลชัดเจน

หลังฉีดแฟตบวมกี่วัน พร้อมแนะวิธีลดบวมที่เห็นผลชัดเจน

แฟต หรือเมโสแฟต หัตถการความงามที่สามารถช่วยลดปริมาณไขมันส่วนเกินสะสมในจุดต่าง ๆ  ของร่างกาย เช่น แก้ม เหนียง ต้นแขน หน้าท้อง และต้นขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เห็นผลรวดเร็ว แต่ในช่วงแรกก็อาจต้องเผชิญกับอาการบวมหลังฉีดที่ทำให้หลายคนเป็นกังวลได้ ฉะนั้นใครที่กำลังสงสัยว่าฉีดแฟตบวมกี่วัน และจะมีวิธีไหนที่จะช่วยให้อาการบวมหลังฉีดแฟตยุบบวมเร็วขึ้นนั้น วันนี้เรารวบรวมข้อมูลมาให้แล้ว ตามมาอ่านกันได้เลย  อาการบวมหลังฉีดแฟตเกิดจากอะไร ก่อนจะไปไขข้อสงสัยว่าจริง ๆ แล้วฉีดแฟตบวมกี่วัน ลองมาดูสาเหตุที่แท้จริงกันก่อนดีกว่าอาการบวมหลังฉีดแฟตนั้นเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไรกันแน่ ซึ่งมีดังนี้  สภาพผิวหนัง สภาพผิวหนังของแต่ละบุคคลนั้นมีความหนาบางแตกต่างกันออกไป ซึ่งยิ่งผิวบางเท่าไหร่ หลังฉีดแฟตก็มีโอกาสที่จะมีอาการบวมมากยิ่งขึ้น และอาจเสี่ยงเกิดรอยช้ำได้ง่ายอีกด้วย แต่อาการดังกล่าวก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป  ปริมาณยา ยิ่งมีปริมาณไขมันส่วนเกินสะสมมากเท่าไหร่ ก็ต้องใช้ปริมาณตัวยาเมโสแฟตมากยิ่งขึ้นเท่านั้น และเมื่อฉีดตัวยาเข้าไปใต้ผิวในปริมาณที่ค่อนข้างเยอะภายในครั้งเดียว ก็แน่นอนว่าจะทำให้บริเวณที่ฉีดมีอาการบวมขึ้นมาได้ แต่ทั้งนี้ก็ถือเป็นอาการปกติที่สามารถพบได้ ไม่ได้อันตรายแต่อย่างใด ยี่ห้อของแฟต ตัวยาเมโสแฟตแต่ละยี่ห้อนั้นมีสารสกัด ส่วนผสม ตลอดจนเทคโนโลยีการผลิตที่ต่างกันออกไป ทำให้ประสิทธิภาพและการทำงานก็แตกต่างกันไปด้วย ฉะนั้นเวลาฉีดเมโสแฟตอาจมีบางยี่ห้อที่ฉีดแล้วทำให้เกิดอาการบวมหลังฉีด ขณะที่บางยี่ห้อก็อาจไม่มีอาการบวมเลย หรือมีอาการบวมมากน้อยแตกต่างกันออกไป  แพทย์ขาดความเชี่ยวชาญ แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญจะสามารถคำนวณปริมาณตัวยาเมโสแฟตที่เหมาะสมกับปริมาณไขมัน และปัญหาผิวที่แต่ละบุคคลกำลังเผชิญอยู่ได้ รวมถึงยังมีเทคนิคในการฉีดที่ถูกต้อง เพื่อลดผลข้างเคียงหลังฉีดอย่างอาการบวม หรือรอยช้ำหลังฉีดได้อีกด้วย ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องเข้ารับบริการฉีดเมโสแฟตกับแพทย์เท่านั้น  หลังฉีดแฟตบวมกี่วัน เบื้องต้นได้ทราบกันไปแล้วว่าอาการบวมหลังฉีดแฟตเกิดขึ้นได้อย่างไร …

หลังฉีดแฟตบวมกี่วัน พร้อมแนะวิธีลดบวมที่เห็นผลชัดเจน Read More »

ทางลัดแก้ปัญหาหน้าเป็นฝ้า ด้วยหัตถการความงาม

ทางลัดแก้ปัญหาหน้าเป็นฝ้า ด้วยหัตถการความงาม

หน้าเป็นฝ้า หรือมีลักษณะรอยปื้นสีน้ำตาลอ่อน-น้ำตาลเข้มที่พบได้บ่อยบริเวณแก้ม หน้าผาก จมูก เป็นปัญหาผิวที่ทำให้หลาย ๆ คนสูญเสียความมั่นใจไม่น้อย และยังต้องคอยเสียเวลาแต่งหน้าเพื่อปกปิด หรือเสาะหาวิธีดูแลรักษาให้ฝ้าดูจางลงกว่าเดิม ซึ่งวันนี้ Atita Clinic เราได้รวบรวมเอาเคล็ดลับในการดูแลปัญหาฝ้าทั้งด้วยธรรมชาติ และหัตถการความงามมาแนะนำให้ทุกคนกัน หน้าเป็นฝ้าเกิดจากอะไรได้บ้าง  ฝ้า มีสาเหตุหลัก ๆ มาจากการที่ผิวหนังมีการผลิตเม็ดสีเมลานินในปริมาณที่มากเกินไป ทำให้เกิดเป็นรอยปื้นสีน้ำตาลอ่อน เข้ม หรืออาจเป็นสีดำเห็นชัดบนใบหน้า ซึ่งปัจจัยที่กระตุ้นทำให้หน้าเป็นฝ้าเห็นชัด มีดังนี้ รังสี UV ในแสงแดด โดยเฉพาะรังสี UVA และ UVB ที่ไม่เพียงแต่จะก่อให้เกิดอนุมูลอิสระทำร้ายผิวแล้ว ยังมีส่วนกระตุ้นการผลิตของเม็ดสี จึงปรากฏเป็นลักษณะของฝ้า กระ และจุดด่างดำได้ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนร่างกาย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงตั้งครรภ์ ผู้หญิงวัยทอง หรือแม้แต่ผู้ที่การทานยาคุมกำเนิด ก็มีโอกาสที่ระดับฮอร์โมนจะผันผวน และกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเซลล์เม็ดสีเพิ่มมากขึ้น จนนำไปสู่ปัญหาหน้าเป็นฝ้าในที่สุดได้ สารเคมีในเครื่องสำอาง หรือสกินแคร์บางชนิด ที่มีส่วนทำให้ผิวหน้าบาง ไวต่อรังสี UV จึงทำให้เกิดฝ้าได้ง่ายกว่าปกติ การแก้ปัญหาหน้าเป็นฝ้าแบบธรรมชาติ หากส่องกระจกแล้วสังเกตว่าหน้าเป็นฝ้า มีรอยหมองคล้ำเห็นชัดจนรู้สึกเป็นกังวล และอยากฟื้นบำรุงสีผิวให้มีความสม่ำเสมอแลดูกระจ่างใสมากขึ้นได้แบบง่าย ๆ ด้วยตัวเอง …

ทางลัดแก้ปัญหาหน้าเป็นฝ้า ด้วยหัตถการความงาม Read More »

ดริปวิตามินผิวมันอันตรายไหม เปิดข้อดี-ข้อเสียก่อนเริ่มทำ

ดริปวิตามินผิวมันอันตรายไหม เปิดข้อดี-ข้อเสียก่อนเริ่มทำ

“การดริปวิตามินผิว” ก็คือ การฉีดวิตามินเข้าเส้นเลือด จัดเป็นเทรนด์เสริมความงามที่กำลังได้รับความนิยม เพื่อฟื้นฟูผิวพรรณและเสริมสร้างสุขภาพจากภายในสู่ภายนอก แต่หลาย ๆ คนก็อาจยังไม่กล้าทำหัตถการนี้ เพราะกังวลว่าการดริปวิตามินผิว อันตราย แต่จริง ๆ แล้ว ดริปวิตามินผิว อันตราย ไหม?  ดังนั้นเพื่อให้ทุกคนมีความเข้าใจเกี่ยวกับการดริปวิตามินอย่างถูกต้อง ในบทความนี้ Atita Clinic เลยนำข้อควรรู้เกี่ยวกับการดริปวิตามินผิว มาฝากกัน ดริปวิตามินผิวคืออะไร การดริปวิตามินผิว คือ การฉีดสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุเข้าสู่ร่างกายผ่านทางเส้นเลือดดำ (Intravenous Therapy) โดยตรง วิตามินที่นิยมฉีดส่วนใหญ่ เช่น วิตามินซี วิตามินบีรวม กลูตาไธโอน และสารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ ซึ่งเชื่อกันว่าจะช่วยเสริมสร้างสุขภาพผิวพรรณให้มีสุขภาพดีขึ้นจากภายใน ซึ่งหัตถการนี้จะทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่าการรับประทานวิตามินตามปกติ เนื่องจากสารอาหารที่ฉีดเข้าสู่ร่างกาย จะไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อยในระบบทางเดินอาหาร จึงทำให้สามารถนำไปใช้ได้ทันที ถ้าหากถามว่าดริปวิตามินผิว อันตรายไหม? ขอตอบเลยว่าโดยทั่วไปแล้ว การดริปวิตามินผิวไม่ถือว่าอันตราย หากทำที่คลินิกที่ได้มาตรฐาน และภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เผยข้อดีการฉีดวิตามินผิวช่วยอะไรบ้าง การฉีดวิตามินผิวมีข้อดีในหลากหลายด้าน ดังนี้ ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ในสูตรวิตามินฉีดบำรุงผิว จะอุดมไปด้วยวิตามินซีและกลูตาไธโอน …

ดริปวิตามินผิวมันอันตรายไหม เปิดข้อดี-ข้อเสียก่อนเริ่มทำ Read More »

ปัญหาหน้าผากย่น เกิดจากอะไร แก้ได้อย่างไรบ้าง

ปัญหาหน้าผากย่น เกิดจากอะไร แก้ได้อย่างไรบ้าง

การมีหน้าผากย่น เป็นปัญหาที่ทำให้หลายคนรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง เพราะทำให้ใบหน้าดูแก่ก่อนวัย ซึ่งปัญหานี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนทั้งจากปัจจัยภายนอกและภายใน โดยเฉพาะเมื่อเรามีอายุมากขึ้น การดูแลและรักษาอย่างถูกวิธีจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ผิวหน้ากลับมาเรียบเนียนและดูอ่อนเยาว์อีกครั้ง ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักสาเหตุและวิธีแก้ไขปัญหา หน้าผากย่น อย่างมีประสิทธิภาพกัน หน้าผากย่น เกิดจากอะไร หน้าผากย่นไม่ได้เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน แต่เป็นผลมาจากหลายปัจจัยที่สะสมมาเป็นเวลานาน ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ได้แก่ อายุที่เพิ่มขึ้น : เมื่อเราอายุมากขึ้น การผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนังลดลง ทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น การแสดงออกทางสีหน้า : การขมวดคิ้ว ยกคิ้ว หรือแสดงอารมณ์ทางสีหน้าบ่อย ๆ ทำให้เกิดรอยย่นบนหน้าผาก แสงแดด : รังสี UV ทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง เร่งการเกิดริ้วรอย ความเครียด : ส่งผลให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งทำลายโครงสร้างผิว การนอนหลับไม่เพียงพอ : ขัดขวางกระบวนการซ่อมแซมเซลล์ผิวตามธรรมชาติ พันธุกรรม : บางคนมีแนวโน้มที่จะเกิดหน้าผากย่นได้ง่ายกว่าคนอื่นตามพันธุกรรม 3 ประเภทริ้วรอยในหน้าผากย่น ริ้วรอยหน้าผากย่นสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ซึ่งแต่ละประเภทมีลักษณะแตกต่างกัน ดังนี้ ริ้วรอยตื้น (Fine wrinkles) …

ปัญหาหน้าผากย่น เกิดจากอะไร แก้ได้อย่างไรบ้าง Read More »

ปัญหาหน้าเหี่ยว หน้าย่นก่อนวัย เกิดจากอะไร มีวิธีแก้ไขไหม

ปัญหาหน้าเหี่ยว หน้าย่นก่อนวัย เกิดจากอะไร มีวิธีแก้ไขไหม

ปัญหาหน้าเหี่ยวและหน้าย่น ก่อนวัยเป็นเรื่องที่หลายคนกังวล เพราะส่งผลต่อความมั่นใจและทำให้ใบหน้าดูแก่เกินวัยที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยที่เห็นชัดหรือความหย่อนคล้อยของผิวหนัง ซึ่งสาเหตุของปัญหาหน้าเหี่ยวและหน้าย่น มาจากหลายปัจจัย ทั้งพฤติกรรมการใช้ชีวิต การดูแลผิวที่ไม่ถูกต้อง  แต่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะปัจจุบันเรามีวิธีที่สามารถแก้ไขปัญหาหน้าเหี่ยวและหน้าย่นนี้ได้ ช่วยให้ผิวหน้ากลับมาดูอ่อนเยาว์และกระชับขึ้นอีกครั้ง  ปัญหาหน้าเหี่ยว หน้าย่นก่อนวัย เกิดจากสาเหตุใด ก่อนที่เราจะไปดูวิธีแก้ไขปัญหาหน้าเหี่ยว หน้าย่น มาทำความเข้าใจกับสาเหตุของปัญหานี้กันก่อน เพราะการรู้สาเหตุจะช่วยให้เราสามารถป้องกันและแก้ไขได้ตรงจุด สาเหตุหลัก ๆ ของปัญหาหน้าเหี่ยว หน้าย่นก่อนวัย มีดังนี้ พฤติกรรมการใช้ชีวิต การใช้ชีวิตประจำวันที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น การนอนดึกเป็นประจำ การไม่ดื่มน้ำเพียงพอ การรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ และการสูบบุหรี่ ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่นและเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ง่าย อายุที่เพิ่มขึ้น เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินน้อยลง ซึ่งเป็นโปรตีนที่มีหน้าที่ช่วยให้ผิวหนังยืดหยุ่นและกระชับ ทำให้เกิดปัญหาหน้าเหี่ยวและหน้าย่นตามมา โดยเฉพาะบริเวณหน้าผาก รอบดวงตา และมุมปาก สิ่งแวดล้อมภายนอก การเผชิญกับมลภาวะ ฝุ่นละออง และแสงแดดโดยไม่ได้ป้องกัน ส่งผลทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นและสร้างอนุมูลอิสระที่ทำร้ายผิวได้ การสัมผัสกับแสงแดดเป็นเวลานานทำให้ผิวหนังถูกทำลายและเกิดริ้วรอยอย่างชัดเจน ไม่ใช้ครีมบำรุงผิวหน้า การไม่ดูแลผิวหน้าด้วยครีมบำรุงที่เหมาะสมเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผิวหนังแห้งและขาดความยืดหยุ่น หากไม่ทาครีมกันแดดหรือครีมบำรุงที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ผิวหน้าก็จะเกิดปัญหาหน้าเหี่ยวและหน้าย่น ได้ง่ายขึ้น วิธีแก้หน้าเหี่ยว หน้าย่นก่อนวัย ปัญหาหน้าเหี่ยวและหน้าย่นสามารถแก้ไขได้ด้วยหลายวิธี ทั้งการดูแลผิวเองที่บ้านและการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ เรามาดูกันว่าวิธีแก้ไขที่ได้ผลและเป็นที่นิยมมีอะไรบ้าง …

ปัญหาหน้าเหี่ยว หน้าย่นก่อนวัย เกิดจากอะไร มีวิธีแก้ไขไหม Read More »

ฉีดโบท็อกกราม กี่วันเห็นผล หากฉีดแล้วจะอยู่ได้นานแค่ไหน

ฉีดโบท็อกกราม กี่วันเห็นผล หากฉีดแล้วจะอยู่ได้นานแค่ไหน

เคยรู้สึกไหมว่าใบหน้าของเราดูกว้างเกินไป หรือกรามใหญ่จนทำให้ขาดความมั่นใจ? การฉีดโบท็อกกรามเป็นวิธีที่แก้ไขปัญหาตรงจุดและเห็นผลจริง! แต่ก่อนจะตัดสินใจ เราอาจกำลังสงสัยว่า “โบท็อกกรามกี่วันเห็นผล” และ “ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานแค่ไหน?” ไม่ต้องกังวลไป เพราะวันนี้เราจะพาไปไขทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกกราม ตั้งแต่วันแรกที่เห็นผล ไปจนถึงวิธีการดูแลเพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานที่สุด ในบทความนี้เราจะมาหาคำตอบกัน ฉีดโบท็อกกราม กี่วันเห็นผล คำถามยอดฮิตที่หลายคนสงสัยคือ “โบท็อกกรามกี่วันเห็นผล” คำตอบคือ โดยทั่วไปจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ภายใน 3-7 วันหลังการฉีด แต่ผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุดมักจะเห็นผลหลังจาก 2-4 สัปดาห์ ไทม์ไลน์การเห็นผลโดยทั่วไปมีดังนี้ 3-7 วันแรก : เริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย กล้ามเนื้อบริเวณกรามอาจเริ่มผ่อนคลาย 1-2 สัปดาห์ : เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนขึ้น กรามเริ่มดูเล็กลง 3-4 สัปดาห์ : ผลลัพธ์ชัดเจนที่สุด กรามดูเรียวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาการเห็นผลอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วย ปัจจัยที่สำคัญในการออกฤทธิ์ของโบท็อก โบท็อกกรามกี่วันเห็นผล ? นอกจากระยะเวลาที่ใช้ในการเห็นผลจากการฉีดโบท็อกกรามแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อการออกฤทธิ์และประสิทธิภาพของโบท็อกด้วย มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง 1. บริเวณที่ฉีด บริเวณที่ฉีดเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อโบท็อกกรามกี่วันเห็นผล การฉีดโบท็อกกรามจะใช้เวลาในการออกฤทธิ์นานกว่าบริเวณอื่น …

ฉีดโบท็อกกราม กี่วันเห็นผล หากฉีดแล้วจะอยู่ได้นานแค่ไหน Read More »

อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

ตอบทุกเรื่องเกี่ยวกับอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

การฉีดฟิลเลอร์ โดยเฉพาะการฉีดฟิลเลอร์ปาก กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะช่วยให้ปากดูเต็มและมีรูปทรงที่สวยงามตามต้องการ แต่หนึ่งในคำถามที่พบบ่อย คือ “ฉีดฟิลเลอร์ปาก บวมกี่วัน” หรือ “ฉีดฟิลเลอร์ปาก กี่วันหายบวม” ในบทความนี้ เราจะมาตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ และวิธีการดูแลหลังการฉีด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ทำไมปากถึงบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ อาการบวมหลังจากฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยจะมีสาเหตุหลัก ๆ ดังนี้ การบาดเจ็บจากเข็มฉีด : เนื้อเยื่อบริเวณปากบอบบางและมีเส้นเลือดมาก การฉีดจึงอาจทำให้เกิดการบวมชั่วคราว ปฏิกิริยาต่อสารฟิลเลอร์ : ร่างกายอาจตอบสนองต่อสารแปลกปลอมด้วยการบวม การกระจายตัวของฟิลเลอร์ : สารฟิลเลอร์จะค่อย ๆ กระจายตัวในช่วงแรก ทำให้เกิดอาการบวมได้ ทั้งนี้ การบวมเหล่านี้มักจะค่อย ๆ ลดลงและหายไปเองในเวลาไม่นาน ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและการดูแลหลังการฉีด ฉีดฟิลเลอร์ปาก บวมกี่วัน หลายคนสงสัยว่า “ฉีดฟิลเลอร์ปาก บวมกี่วัน” หรือ “ฉีดฟิลเลอร์ปาก กี่วันหายบวม” คำตอบคือ อาการบวมมักจะค่อย ๆ ลดลงภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่ระยะเวลาอาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ลองมาดูไทม์ไลน์ของอาการบวมกัน …

ตอบทุกเรื่องเกี่ยวกับอาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก Read More »

หน้าตอบ ปัญหาใหญ่ที่ส่งผลต่อความมั่นใจ

หน้าตอบ ปัญหาใหญ่ที่ส่งผลต่อความมั่นใจ

แก้มตอบ ทำให้ใบดูหน้าตอบ ดูมีอายุยิ่งขึ้นจริงไหม? หลายคนก็คงมีคำตอบในใจกันแล้วว่าใช่! และกำลังหาแนวทางแก้ไขปัญหานี้อยู่ ซึ่งปัญหานี้อาจเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งจากโครงสร้างของหน้า หรือปัญหาอื่น ๆ เช่น สุขภาพ, การดัดฟัน, หรือการทำศัลยกรรมใบหน้าจากผู้ที่ไม่ชำนาญ รวมทั้งการทำหัตถการบางชนิดอย่างผิดวิธีก็ส่งผลให้มีอาการแก้มตอบได้เช่นกัน รวมทั้งเรื่องของวัยก็มีส่วนด้วย  หลายคนอาจสงสัยว่านอกจากปัจจัยที่กล่าวมาในข้างต้นแล้ว ยังมีสาเหตุอื่น ๆ อีกไหมที่ทำให้แก้มตอบ เพื่อที่จะได้ชะลอการเกิดปัญหานี้ได้มากที่สุด ตามมาดูกันเลย ปัญหาหน้าตอบ คืออะไร หน้าตอบหรือแก้มตอบ คือ การที่ใบหน้าเกิดแอ่งลึกกว่าปกติขึ้นบริเวณโหนกแก้มจนถึงมุมปาก ซึ่งอาการแก้มตอบในลักษณะนี้จะเป็นคนละแบบกับการแต่งหน้าที่เน้นให้เห็นโครงหน้าที่คมชัดกว่าปกติ ดังนั้นการแก้มตอบจะไม่ได้ช่วยให้ใบหน้าดูเรียวสวยเหมือนการคอนทัวร์หน้า แต่กลับทำให้หน้าดูมีอายุมากยิ่งขึ้นอีกต่างหาก การมีปัญหาแก้มตอบ ทำให้หลายคนหมดความมั่นใจในความงามของตัวเอง เพราะทำให้ดูแก่เกินวัย หน้าโทรม ตาลึก และดูไม่สดใส แม้จะพยายามใช้การแต่งหน้าช่วยให้ดูหน้าเต็ม หน้าเด็ก หรือปกปิดแล้วก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก  สำหรับวิธีแก้ปัญหานี้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ ถือเป็นวิธีที่ทำได้ง่ายและได้ผลเห็นชัดมากที่สุด ช่วยเรียกความมั่นใจกลับคืนมาได้อย่างแน่นอน และยังช่วยลดริ้วรอย ลดความหย่อนคล้อยของผิวได้อีกด้วย คนส่วนใหญ่จึงมักเลือกการฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรกเป็นแนวทางในแก้ปัญหาหน้าตอบนั่นเอง หน้าตอบเกิดจากอะไร จากที่เกริ่นไว้เบื้องต้นว่าปัญหาแก้มตอบ ไม่ใช่เรื่องใหญ่และไม่ยากที่จะแก้ไข ก่อนอื่นก็ต้องเรียนรู้กันก่อนว่า ปัจจัยที่ทำให้เกิดแก้มตอบนี้หลัก ๆ เกิดจากอะไร เพื่อจะได้ชะลอการเกิดแก้มตอบได้มากที่สุด 1. กรรมพันธุ์ เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้จริง …

หน้าตอบ ปัญหาใหญ่ที่ส่งผลต่อความมั่นใจ Read More »

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า